มนตราวายสะ ตอนที่ 10 ต่างคนต่างปัญหา (1)
|
+++++++++
10
ต่างคนต่างปัญหา
การเผชิญหน้ากัน ไม่มีครั้งไหนที่จะมีบรรยากาศของคำว่าครอบครัวที่ดูอบอุ่นอย่างที่ได้สร้างภาพ สิ่งแรกที่คนเป็นพ่อจะพูดกับสุบรรณเกือบจะทุกครั้งคือเรื่องของผู้นำคนใหม่ และพ่วงมาด้วยเรื่องการหมั้นการเมืองห่าเหวอะไรก็ไม่รู้
“อาทิตย์หน้าเราจะมีการคัดเลือกผู้นำคนใหม่อย่างเป็นทางการ แกที่เป็นตัวเต็งต้องประกาศงานหมั้นกับหนูมณในวันพุธนี้ เพื่อเป็นการบ่งชี้ของคุณสมบัติที่ครบถ้วนไร้ที่ติ” คนเป็นพ่อแนะนำอย่างคาดหวังผลในครั้งนี้ค่อนข้างมาก
“ผมบอกแล้วว่าไม่เอาทั้งสองอย่าง” สุบรรณยังตอบกลับอย่างไม่สนใจเช่นเดิม เขาเหนื่อย อยากดูแลในส่วนของธุรกิจก็พอ
“อย่าทำตัวเป็นเด็ก ใคร ๆ ก็อยากจะอยู่ในจุดนี้ แกมีโอกาสแต่จะปฏิเสธเหรอ ไม่รู้ล่ะ การขึ้นเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์ของเราคือสิ่งสำคัญที่สุด ความต้องการของตัวเองต้องมาทีหลัง” นายยศพลตะคอกด่าอย่างหัวเสียไม่ต่างกับทุกครั้ง
“แต่ผมมีคนรักแล้ว” สุบรรณโพล่งออกไป
“ใคร ถ้าเป็นคนที่มีคุณสมบัติพร้อม ฉันพร้อมจะสนับสนุน”
“เธอไม่มีคุณสมบัติอะไรเลย เพราะเธอเป็นมนุษย์”
“เป็นได้เต็มที่แค่เมียเก็บ” นายยศพลบอกความจริงที่ลูกชายควรยอมรับ และใช่ว่าที่ผ่านมาผู้นำหรือพวกระดับสูงจะไม่เคยทำ มันมีมาแล้วทั้งนั้น
“ผมไม่คิดจะมีเมียเก็บ หาคนอื่นเถอะ มีหลายคนที่คุณสมบัติพร้อมมากกว่าผม” สุบรรณปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วเดินผละหนี
“นั่นแกจะไปไหน กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ผมน่ะรู้เรื่องนานแล้ว แต่พ่อนั่นแหละที่ไม่รู้เรื่อง” สุบรรณตะโกนตอบโดยไม่คิดจะหันกลับมา เขาเดินไปขึ้นรถ แล้วขับมันออกไปด้วยความเร็วสูง
มันเป็นสถานที่เดียว ณ ตอนนี้ที่ให้ความสบายใจ แม้มันจะอึกทึกด้วยผู้คนแสงสีและเสียงเพลง แต่ถ้าเทียบกับที่บ้านของเขามันดีกว่าหลายเท่าเลยละ
สุบรรณกวาดสายตาไปทั่ว แล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วเมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาคุ้นเคย เขากดยิ้มแล้วเดินตรงดิ่งไปหาก่อนจะเอ่ยทักตามแบบฉบับของตัวเอง
“ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่”
แก้วตาหันไปมองเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็หันมาสนใจน้ำสีอำพันในแก้วต่อ “ทำไมคะ ฉันไม่ใช่เด็กอายุสิบห้าเสียหน่อย”
“ถ้าสิบห้าจะหน้าแก่ขนาดนี้...”
“ปากเสีย” แก้วตาหันไปตะคอกอีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด นี่ถ้าไม่ได้พูดจิกกัดทุกครั้งที่เจอกันเขาจะตายหรือไง
“ไม่ได้เอาเจ้าหนูน่ากินมาด้วยเหรอ” สุบรรณถามถึงสัตว์เลี้ยงที่หญิงสาวชอบพกไปไหนมาไหนด้วยตลอด
“มากินเหล้ายังจ้องจะกินหนูฉันอยู่ได้ อดอยากปากแห้งมาจากไหนเนี่ย” นี่เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เธอหงุดหงิดเพิ่มอีกระลอก
“ล้อเล่นน่า จริงจังไปได้” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ยกเหล้าที่ถูกนำมาวางตรงหน้ารวดเดียว ไม่พอเขายังดื่มแก้วที่สองที่สามแบบติด ๆ กัน จนแก้วตาต้องห้ามเอาไว้ในแก้วที่สี่
“เดี๋ยว ๆ เหล้านะคะไม่ใช่น้ำหวาน เล่นดื่มแก้วต่อแก้วแบบนี้ได้ยังไง ไปเครียดอะไรมาเนี่ย”