มนตราวายสะ ตอนที่ 9 ครอบครอง (2)
|
+++++++++
“ฉันจำไม่ยักได้ว่าเคยให้อะไรคุณ ทำตัวมีประโยชน์มากสุดก็แค่ดูแลอีกาที่คุณพามารักษาเท่านั้น” เธอสารภาพ นึกให้ตายมันก็มีเท่านี้จริง ๆ
“ก็นั่นแหละ” วายสะยอมรับง่าย ๆ ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้สกุณาต้องเหวอไปแบบงง ๆ “คุณพูดเหมือนมันเป็นบุญคุณใหญ่หลวงเลยนะคะ”
“มากน้อยก็บุญคุณ”
“คุณนี่ชอบพูดอะไรที่เข้าใจยากจัง จอดข้างหน้าเลยค่ะ” เธอบอกยิ้ม ๆ ก่อนจะให้เขาจอดรถเพื่อที่จะได้ซื้อผัดไทยเจ้าหน้าตลาดปากซอย เพราะถ้าเข้าไปในหมู่บ้านก็ขี้เกียจเดินกลับออกมา
“สองห่อพิเศษ ๆ เลยนะครับ”
“ค่า”
เมื่อมาถึงห้องสกุณาก็จัดแจงแกะผัดไทยมานั่งกินไปคุยกันไปจนหมด เธอกินแค่ห่อเดียวส่วนวายสะนั้นฟาดเกลี้ยงหมดไปทั้งสองห่อ แถมเธอเพิ่งกินหมดแต่เขาอิ่มจนออกไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นแล้ว
“ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย” วายสะบอกพร้อมกับพยักหน้าเรียกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว
“คะ” สกุณาเดินมาหยุดยืนมองเขาอย่างสงสัย รอว่าจะพูดอะไรต่อ
“นั่งสิ”
สกุณาปฏิบัติตามคำสั่งทันที ด้วยความที่เขาบอกว่ามีเรื่องจะคุย เธอจึงเลือกนั่งโซฟายาวตัวเดียวกัน แม้ไม่ได้ห่างมากแต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดจนเกินไป คิดว่าอย่างนั้น แต่ชั่วพริบตาเดียว ก้นที่แตะโซฟายังไม่ถึงนาทีมันก็ถูกย้ายขึ้นไปนั่งบนต้นขาแข็งแรงแทน
“คุณทำอะไรน่ะ ปล่อยค่ะ” สกุณาถามเสียงตื่นระคนอาย พยายามดิ้น จะลงไปนั่งที่เดิมแต่ก็ถูกชายหนุ่มกอดเอาไว้ แม้ไม่แน่นแต่ก็ดิ้นไม่หลุด
“เป็นของผมนะ”
จู่ ๆ เขาก็พูดประโยคที่พอได้ฟังแล้วก็ทำเอาหญิงสาวถึงกับตาโต อึ้งก็อึ้ง ตกใจก็ตกใจ แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้ใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก “อะ...อะไรนะคะ เดี๋ยว ๆ ค่ะ” สกุณาร้องห้ามเมื่อชายหนุ่มที่บอกว่ามีเรื่องจะคุย กลับไม่ได้คิดจะคุย แต่ประคองใบหน้าของเธอเอาด้วยสองมือ ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบปากจูบที่กำลังร้องห้ามนั้นอย่างพอเหมาะพอเจาะ
“อือ...” สกุณาครางประท้วง เธออยากขัดขืน อยากงัดคำสอนเรื่องกุลสตรีไทยขึ้นมาดึงสติตัวเอง แต่ความรู้สึกกับหัวใจไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย จูบที่ละมุน อ่อนหวานซาบซ่านไปทั่วร่างกาย กระทืบคำสอนเหล่านั้นจมลงกับพื้นห้องไปเป็นที่เรียบร้อย ที่เหลืออยู่ตอนนี้ คือผู้หญิงที่ยอมโอนอ่อนคล้อยตามไปกับสัมผัสที่ชายหนุ่มที่เธอพึงใจมอบให้
“ผมไม่หยุดนะ” ชายหนุ่มที่ผละออกมาบอกเจตนารมณ์ของตัวเองครู่เดียวเท่านั้น ก่อนจะยกร่างบอบบางขึ้นให้นั่งอยู่ในท่าคร่อมบนตักใช้มือทั้งสองข้างรั้งใบหน้าที่แสนจะยั่วยวนเข้ามาบดจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง ขณะมือก็จัดการแกะกระดุมเสื้อของหญิงสาวออก เพียงเสี้ยวนาทีความงามที่ถูกห่อหุ้มด้วยบราเซียก็ปรากฏแก่สายตา
“สมกับเป็นว่าที่นายหญิง” ชายหนุ่มเอ่ยปากชม แล้วลุกขึ้นพร้อมกับอุ้มร่างบอบบางที่ใช้ขาเกี่ยวเอวสอบของเขาแน่นไปที่เตียง “ผมไม่ชอบที่แคบ” เขาให้เหตุผล ซึ่งสกุณาก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจ เพราะเธอยังเคลิ้มและสั่นสะท้านไปกับสัมผัสของริมฝีปากร้อนผ่าวก็ถูกประทับลงบริเวณเนินอกก่อนมันจะถูกลากไล้ไปทั่วความนุ่มหยุ่นทั้งสองข้าง และในเวลาต่อมามันก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระชั่วคราวเมื่อเธอถูกวางลงบนเตียง