Ahuautle ไข่ของแมลงน้ำที่ได้รับฉายาว่า คาเวียร์เม็กซิกัน
ในบ้านเรากินไข่แมงดา ส่วนต่างชาติอย่างเม็กซิโก กินไข่ของแมลงน้ำชนิดหนึ่งซึ่งเปรียบเป็น คาเวียร์เม็กซิกัน โดย Ahuautle ไข่แมลงน้ำกินได้ที่ถูกเรียกว่าเป็น คาเวียร์เม็กซิกัน เป็นเวลาหลายพันปีที่ไข่ของแมลงน้ำชนิดหนึ่งถูกนำมาบริโภคในฐานะ อาหารของพระเจ้า ที่ต่อมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ คาเวียร์เม็กซิกัน ในบริเวณทะเลสาบ Texcoco ซึ่งเป็นแหล่งน้ำตื้นในเขตชานเมืองของเม็กซิโกซิตี คือบ้านของแมลงน้ำชนิดหนึ่งในตระกูล corixidae
แต่ชาวบ้านมักเรียกมันว่าเป็นยุงชนิดหนึ่ง แมลงน้ำชนิดนี้ที่รู้จักกันในชื่อ Ahuautle หรือที่แปลว่าเมล็ดพันธุ์แห่งความสุข โดยมันมีขนาดเท่าๆกับเมล็ดควินัว และมีสีทองอ่อนๆ Ahuautle ถูกบริโภคมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิแอซเท็ก แต่ในทุกวันนี้มีชาวประมงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงเก็บเกี่ยวไข่ของมันอยู่ และมีเพียงคนรุ่นใหม่น้อยนิดที่รู้ถึงการมีอยู่ของไข่แมลงชนิดนี้ การเก็บเกี่ยว Ahuautle จำเป็นต้องใช้เทคนิคเฉพาะ โดยการวางตาข่ายกับต้นกกแช่เอาไว้ใต้น้ำนานถึง 3 สัปดาห์
ในช่วงเวลาดังกล่าว แมลงน้ำจะวางไข่หลายพันฟองบนต้นกก จากนั้นจึงไปเก็บพวกมันขึ้นมา และทิ้งไว้ให้แห้งจนความชื้นหมดไป ส่วนวิธีในการนำมาประกอบอาหาร Ahuautle มักถูกเสิร์ฟในรูปแบบของโครเกต์ โดยนำไปผสมกับแป้งและไข่ นำไปทอดในน้ำมันร้อน หากใครที่ได้ลิ้มรสของมันแล้วมักจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามีรสชาติอร่อยมาก แต่มีภัตตาคารน้อยมากที่ยังคงเสิร์ฟเมนูไข่แมลงนี้อยู่
ข้อแรกคือมันไม่ค่อยได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ รวมถึงพวกเขาไม่เคยรู้ด้วยซ้ำไปว่ามีไข่แมลงน้ำที่รับประทานได้ ส่วนข้อต่อมาก็คือปัญหาเรื่องวัตถุดิบที่หายากมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง การเก็บเกี่ยวไข่แมลง Ahuautle เป็นวัฒนธรรมที่กำลังจะหายไปในเม็กซิโก
โดยมีชาวประมงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังคงทำหน้าที่นี้อยู่ในทะเลสาบ Texcoco การขาดแคลนวัตถุดิบทำให้ราคาของ Ahuautle พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าความต้องการของไข่แมลงน้ำจะไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ราคาของ Ahuautle แพงกว่าเนื้อวัวถึง 4 เท่า นั่นจึงทำให้ไข่แมลงชนิดนี้ได้รับฉายาว่า คาเวียร์เม็กซิกัน นั่นเอง