การประหารชีวิตแบบ มนุษย์หมู มีที่มาจากแรงแค้นของผู้หญิง
ขอบคุณภาพจาก ยูทูปช่อง ลุงเห็ด
การประหารชีวิตของจีนโบราณแบบหนึ่งที่เรียกว่า มนุษย์หมู นั้นมีที่มาจากแรงแค้นของผู้หญิง โดยวิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า เหรินจื่อ หรือแปลเป็นไทยว่า มนุษย์หมู โดยปรากฏขึ้นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ฮั่น โดยหลู่ไทเฮามเหสีของ ฮั่นเกาจู ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่นที่ได้ทำการชำระแค้นที่เก็บมาเนิ่นนานจากนางสนมนามว่า ฉีฟู่เหริน หลังจากที่ฮ่องเต้ได้สวรรคต โดยสั่งให้ขันทีจับพระสนมฉีฟู่เหรินมาขังไว้และทรมาน ก่อนที่จะคิดค้นวิธีการลงโทษที่สุดแสนจะเหี้ยมโหดขึ้น วิธีการนี้จะเริ่มต้นด้วยการนำนักโทษมาทำการควักเอาลูกนัยน์ตาออกมา
หลังจากนั้นก็จะทำการตัดปลายจมูกและใบหู ต่อด้วยการตัดแขนตั้งแต่หัวไหล่และตัดขาออกตั้งแต่บริเวณต้นขาเพื่อให้เหลือแต่ช่วงลำตัว ความโหดยังไม่จบเพียงเท่านี้ นักโทษจะถูกดึงลิ้นออกมาแล้วทำการตัดออกด้วยเช่นกัน จากนั้นก็จะทำการกรอกยาที่มีฤทธิ์ทำให้ลำคอไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆ ออกมาได้ และปิดท้ายด้วยการทิ่มเหล็กแหลมเข้าไปในหูเพื่อทำลายประสาทการได้ยิน การดำเนินการทั้งหมดนั้นถูกทำในขณะนักโทษกำลังมีชีวิต ลองนึกภาพตามว่ามันจะทรมานแค่ไหน แต่ความเจ็บปวดนั้นยังไม่จบ
ร่างของนักโทษที่เหลือเพียงแค่ลำตัวนั้นจะถูกนำไปใส่ไว้ในโถใบใหญ่ให้โผล่พ้นขึ้นมาแต่หัวและจมอยู่กับกองของเสียของตัวเองที่ถ่ายออกมาจนกว่าจะตาย เสียงของนักโทษที่เปล่งออกมาด้วยความเจ็บปวดนั้นจะคล้ายกับเสียงของหมูร้อง จึงได้ชื่อว่า มนุษย์หมู ตามบันทึกนั้นพระสนมฉีฟู่เหรินนั้นอยู่ในสภาพนี้ถึงสามวันกว่าจะขาดใจตาย วิธีนี้ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นการลงโทษที่โหดร้ายที่สุดที่ผู้หญิง (มีอำนาจ) ได้กระทำต่อผู้หญิงด้วยกันนั่นเอง . . . มีใครให้โหดกว่านี้อีกไหม 1 2 3 เคาะ ผู้ที่ได้ครองความโหดเหี้ยมไปคือ หลู่ไทเฮา