เมื่อมัมมี่ กลายมาเป็นสินค้ายอดฮิต ในศตวรรษที่ 18
อาชีพค้าขายนั้นมีมาแต่ครั้งโบราณกาล ถือว่าเป็นอีกอาชีพที่เก่าแก่ของโลก ส่วนสินค้าที่ค้าขายกันนั้นก็มักเป็นสินค้าที่มีในท้องถิ่นที่หาได้ อย่างเช่นการขายมัมมี่ในอียิปต์ โดยในยุควิคตอเรียนของปี 1800 มัมมี่ไม่ได้รับการเคารพเท่าที่ควรจากชนชั้นสูงในยุโรป และมัมมี่สามารถซื้อได้จากพ่อค้าริมถนนเพื่อใช้เป็นไฮไลท์ในงานเลี้ยงและการชุมนุมทางสังคมที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 18 (งานเลี้ยงแกะมัมมี่) เพราะนช่วงเวลานั้น ซากมัมมี่ที่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดีของชาวอียิปต์โบราณมักถูกบดเป็นผงและบริโภคเป็นยารักษาโรค ใช้เป็นปุ๋ย สร้างเม็ดสีมัมมี่บราวน์ หรือถูกลอกห่อพันออก
ซึ่งห่อพันเหล่านั้นถูกส่งออกไปใช้ในอุตสาหกรรมทำกระดาษ นักเขียนมาร์ก ทเวน ยังรายงานว่ามัมมี่ถูกเผาในอียิปต์เพื่อเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถไฟ แต่เมื่อศตวรรษที่สิบเก้าก้าวหน้าไป มัมมี่กลายเป็นวัตถุที่มีค่าในการแสดง และมีการซื้อมัมมี่เป็นจำนวนมากโดยนักสะสมส่วนตัวที่ร่ำรวยในยุโรปและอเมริกาในฐานะของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่ไม่สามารถซื้อมัมมี่ทั้งตัวได้ ชิ้นส่วนของซากมัมมี่ เช่น หัว มือ หรือเท้า สามารถซื้อได้ในตลาดมืดและลักลอบนำกลับบ้าน ทำให้การค้าขายมัมมี่ไปยังยุโรปมีความคึกคักมากจนแม้ว่าจะมีการปล้นสุสานและถ้ำสุสาน ก็ยังมีมัมมี่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ และดังนั้น มัมมี่ปลอม ถูกสร้างขึ้นจากศพของนักโทษที่ถูกประหารชีวิต ผู้สูงอายุ คนยากจน และผู้ที่เสียชีวิตจากโรคร้าย โดยการฝังในทรายหรือยัดไส้ด้วยบิทูเมนและตากแดด เพื่อหลอกขายแก่ผู้ที่อยากได้ต่อไป