เขาคิชฌกูฏ 2567 ปัจจุบันเป็นไงบ้างมาดู
สวัสดีค่าทุกคน วันนี้จะมาแชร์การเดินเขาคิชฌกูฏ ครั้งแรก ! กัน อันนี้ที่เราไปเดินเขามาคือประมาณช่วงเดือน มีนาคม 2567 นะคะ เกริ่นนำเลย นี่คือการเดินเขาครั้งแรก แต่เราไม่ได้เริ่มเดินจากตีนเขา เพราะว่าเราไปหลังเลิกงาน เดินช่วงค่ำตื่นเช้ามาไปทำงานต่อค่ะ 55555 เกือบขิตไปแล้วใหมล่ะ ไม่งั้นไม่ได้มาเล่าแน่ๆ เราเลิกงาน 2 ทุ่ม หลังเลิกงานไปนอนพักแปปนึงก่อนเดินทางไปบ้านไร่ที่ระยองพักทานข้าวก่อนไปลุยเดินเขากัน เย้
เริ่มจากนี่ก่อนเลยค่ะตอนนั้นเราและทีมขับรถส่วนตัวไปจอดพักไว้ที่วัดบริเวณนั้นแล้วนั่งรถไป ตอนนั่งรถคือตอน ตี 1 ค่ะ เสร็จก็ไปเปลี่ยนกับรถอีกคันที่จะขับขึ้นเขาค่ะ เสียดายเหมือนกันนะคะที่ไม่ได้เดินจากตีนเขาเลยแต่ถ้าทำแบบนั้นวันต่อมาไม่ได้ไปทำงานแน่ๆ พอขับขึ้นเขาไปก็จะเจอคนที่เดินที่พื้นที่ป่าเล็กๆที่เค้าปูไว้ให้สำหรับคนเดินเท้าค่ะ ถ้าเดินตั้งแต่แรกก็หนักเอาเรื่องนะคะ ขนาดขับรถขึ้นเขายังใช้เวลาประมาณนึงเลยค่ะ
ตอนขึ้นเขาไปก็ได้ยินเสียงตะโกนให้กำลังใจจากคนที่ขับรถสวนมาด้วย "สู้ๆนะ" รู้สึกได้ถึงกำลังใจล้นเปี่ยม
อันนี้คือแผนที่เดินเขาค่ะ จะมีบอกจุดต่างๆในการเดินทาง มีจุดปฐมพยาบาลด้วยนะคะอยู่ข้างบน ตอนนั้นเราเดินไปถึงจุดปฐมก็ไปสะดุดขอนไม้ก้อนเบ้อเริ่มต่อหน้าเค้าเลย 5555 เขิลเว่อร์
เส้นทางการเดินเขาช่วงแรกๆจะเป็นบรรไดเป็นส่วนใหญ่นะคะ ลืมบอกว่า เราและทีม พกเหรียญ 1 บาท ไปกันเป็นกระตักเลยค่ะ มีเงินออมที่เป็นเหรียญ 1 บาท ก็เอามากันด้วยหย่อนกันตลอดทาง ทุกตู้ที่ผ่านเลย
ข้างบนมันจะมีจุุดพักดื่มน้ำ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าน้ำอะไร แต่รู้ว่าเป็นน้ำสมุนไพรทำใหม่ๆอุ่นๆตรงนั้นเลยค่ะ พี่ที่ชงน้ำก็คุยเก่งบอกว่า ขากลับให้เเวะมานะอยากเห็นตอนเดินกลับมา แต่สุดท้ายเราและทีมเลือกกลับอีกทางนะเลยไม่ได้เจอพี่เค้าค่ะ
ความงดงามของที่นี่สวยมากๆ แต่เรามันก็มั่วแต่ชื่นชมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาฝากเลยไม่มีรูปมาแปะให้ดู เพราะฉะนั้นใครอยากไปต้องไปดูด้วยตาตัวเองเลยนะคะ ความงดงามของที่นี่ บรรยากาศใดๆ มันดีย์จนบรรยายไม่หมดเลยค่ะ หรือเป็นเพราะเราเดินช่วงค่ำ อากาศไม่ร้อน แต่ก็ไม่หนาวเหมือนกันนะ บรรยากาศดี ยุงไม่มีด้วย
ตรงนี้คือโซนของหินลอยได้ค่ะ กับรอยพระพุทธบาท ไปนั่งฟังพรพระ ก่อนเดินทางต่อค่ะ มีให้โรยพลอยด้วยค่ะ งดงามมากๆ ตรงก้อนนั้นถ้าอยากขึ้นไปจับต้องระวังนะคะมันค่อนข้างชัน และถ้าใส่ถุงเท้านี่คือลื่นปรื้ดเลยค่ะ พูดเเล้วยังเสียวเท้าอยู่เลยนี่ขนาดนานแล้วยังจำความรู้สึกได้เลยค่ะ กลัวตก ลื่นไปนี่เจ็บหนักเลยนะคะ ถ้าไปแวะจุดนี้ เดินด้วยความระมัดระวังและมีสติ อยู่ตลอดด้วยนะคะ
หลังจากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆค่ะ มีจุดชมวิวให้ชมระหว่างทางเห็นถนนไกลๆ แต่ไม่ลงรูปหรอก อิอิ อยากให้ไปดูด้วยตัวเองกัน ตามทางจะมีระฆังให้ตีเป็นช่วงๆตั้งแต่ต้นเขาเลย ใช้เหรียญตีจนเจ็บมือเลย ตีทุกอันจริงๆ ทางช่วงนี้เริ่มมีบรรไดน้อยลงแต่ทางไม่ได้ลำบากค่ะ เดินได้เรื่อยๆชิวๆ จะมีบางจุดที่ดูเป็นเขาจริงๆอยู่แต่เราชอบนะ สมบุกสมบันดี ถ้าใครจะมาเดินอย่าลืมรองเท้าที่เราใส่แล้วเซฟตี้ใส่สบายไม่เจ็บตัวด้วยนะคะ
ไปต่อกันด้วยนี่เลยค่ะ จุดผ้าแดงยอดฮิต จุดสุดท้าย อ๋อก่อนถึงจุดผ้าแดงมีพระอาจารย์นั่งอยุ่ด้วยท่านจะให้พร ลงคาถาให้กระเป๋าเงิน เราไม่เอากระเป๋าให้ทำ แต่ให้ลงเงินแทนค่ะ เพราะไม่ได้พกกระเป๋าอยากเดินตัวเบาที่สุด ระหว่างทางก็มีเเวะทำบุญเรื่อยๆ ไปกันหลายคนสนุกค่ะ สลับกันเดินเร็วบ้างช้าบ้าง สีสันชีวิต
ต่อกันที่จุดผ้าแดงจุดสุดท้าย เราและทีมก็แยกย้ายกันไปเขียนคำอธิธาน และหาต้นไม้เพื่อผูกผ้าแดงค่ะ เห็นว่ามีความเชื่อว่าถ้าคำอธิธานเป็นจริงต้องกลับมาหาผ้าแดงตัวเองให้เจอค่ะ เราก็ไม่รุ้คำขอของเราจะได้จริงใหม เพราะเราขออะไรที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวเป็นความฝันของเราเลย ถ้าเป็นจริงเราจะกลับไปหาผ้าแดงแน่นอนค่ะ
ขากลับเรากลับทางลัดค่ะ เป็นทางเล็กๆแยกไปเพราะว่าเวลามันเลยกำหนดที่คิดว่าจะถึงท้ายเขาแล้วเดี๋ยวจะกลับไปทำงานไม่ทันกัน ทางค่อนข้างชันเดินด้วยความระมัดระวังเพราะเราคิดว่าเราระวังเเล้วขายังพลิกจนแบบสุดเลยโชคดีที่ไม่บาดเจ็บอะไร บางจุดก็ไม่ใช่บรรได แต่มีเชียกให้จับตลอดทางเหมือนกัน
พอลงไปทางนี้ก็จะไปโพล่ตรงนี้ ตรงที่เป็นทางช่วงแรกๆที่เดินค่ะ โดยรวมแล้วเรารู้สึกว่าการเดินเขาครั้งนี้ไม่ได้เหนื่อยอะไร เดินได้ชิวๆ หรืออาจเป็นเพราะช่วงนั้นเราแข็งแรงดี เพราะวอร์มอัพทุกวันช่วงที่มีวิ่งมาราธอนพอดี และได้ข่าวว่าความโหดของเส้นทางลดลงไปเยอะ เห็นพี่ๆบอกว่าเมื่อก่อนทางที่เดินมันดหดกว่านี้ไกลกว่านี้เหมือนเส้นทางถูกตัดเยอะมากๆ และมีการเพิ่มบรรได จากเมื่อก่อนที่ไม่มีเลย เดินเขาแบบเขาจริงๆ เราก็แอบเสียดายที่เกิดไม่ทันช่วงนั้นหรืออาจเกิดทันแค่ไม่เคยมา แต่ก็ไม่เป็นอะไร อย่างน้อยวันนี้เราได้มาแล้ว อิ่มอกอิ่มใจอิ่มบุญ แวะทานข้าวเช้าที่ร้านข้างทางแล้วไปทำงานต่อด้วยความสบายใจ แต่ง่วงนอน 5555 เป็นประสพการณ์ที่ดีจริงๆเลย จะได้พูดได้ว่า ครั้ง 1 เราเคยได้ทำ และไม่เสียดายว่าเรายังไม่เคยลองทำ
อยากให้ทุกคนลองไปกันดูนะคะ เราจะได้มีสีสันชีวิตที่เพิ่มขึ้นมุมมองใหม่ๆ ตอนนั้นขาลงมีรถสวนมาเราก็ตะโกนว่า "สู้ๆค่าา" ทุกคันที่ขับผ่านเลย 5555
วันนี้ก็มีเท่านี้นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านอย่าลืมให้กำลังใจกันด้วยนะคะ