4 เรื่อง หยุดคิดแล้วชีวิตจะมีความสุขขึ้น
ชีวิตปกติในแต่ละวันก็มีภาระหน้าที่เยอะแยะ สูบพลังงานเราไปมากมายพออยู่แล้ว แต่มนุษย์เรามักจะชอบทำร้ายความรู้สึกของตัวเองเพิ่มด้วยการโบยตีตัวเองด้วยความคิดลบ ๆ ต่าง ๆ และมาดูกันดีกว่าว่าเรื่องไหนคิดแล้วบั่นทอน และควรเลิกคิดได้แล้ว
1. คิดว่าตัวเองไม่เก่งเท่าใคร ๆ
แกเอ๊ย! ใคร ๆ ก็มีความถนัดความเก่งอยู่ในตัวกันทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่าเราจะโฟกัสกับมันแล้วทำให้มันเปล่งประกายขึ้นมาได้หรือเปล่า ที่คนเรามีความคิดแบบนี้ขึ้นมาก็เกิดจากการที่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นนี่แหละเลยเกิดความคิดนี้ขึ้นมา เพราะงั้นแทนที่จะหมกมุ่นกับความคิดว่าเราไม่เก่งน่ะ เอาเวลานั้นไปพัฒนาจุดเด่นของตัวเองดีกว่านะ ไม่บั่นทอนจิตใจแถมได้พัฒนาตัวเองด้วย
2. ตัดพ้อว่าเพราะต้นทุนเรามันไม่ดี
ใช่ล่ะ...ใช่ว่าทุกคนเกิดมาจะเท่ากัน มีความพร้อมเท่ากัน บางบ้านก็เกิดมาพร้อมต้นทุนที่ติดลบ จริงอยู่ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่การเสียเวลาตัดพ้อโชคชะตาไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร มันเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เลิกคิดได้แล้ว เพราะคิดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา สิ่งที่ต้องทำคือยืนหยัดใช้ชีวิตต่อไปให้ดีต่างหากล่ะ
3. คิดว่าทำไม่ได้ ปฏิเสธทุกโอกาสที่เข้ามา
ถ้าคนคิดบวกจะมองว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ มันคือโอกาส แต่ถ้าคิดลบเมื่อไหร่ว่ามันทำไม่ได้โอกาสที่เข้ามาจะกลายเป็นปัญหาทันที
4. คิดโทษคนนั้นคนนี้ไปเรื่อย หาคนผิดมารับโทษแต่ไม่มองแนวทางการแก้ไขปัญหา
เวลาเกิดปัญหาขึ้นก็จ้องแต่จะหาคนผิดจากเรื่องที่เกิดขึ้น จับผิดตลอดเวลา แต่ไม่ใส่ใจที่จะแก้ปัญหา เอาแต่โทษคนอื่นตลอด ๆ จนกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์แทน
ความคิดลบมันย่อมเกิดขึ้นได้ตามสถานการณ์และประสบการณ์ที่เราเจอ ดังนั้นต้องมีสติและคอยเตือนตัวเองเสมอว่าอย่าไปโฟกัสมันมากนัก ไม่งั้นชีวิตจะเหนื่อยและวุ่นวายไม่รู้จบ