เยอรมันอนุมัติแผนการใหม่ สำหรับการทำสงครามกับรัสเซีย

     รัฐบาลเยอรมันได้สรุปแผนการใหม่ สำหรับการทำสงครามที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงการรับราชการทหาร และ การส่งกองกำลังนาโต ไปทางด้านภาคตะวันออก ซึ่งอาจหมายถึงการช่วยเหลือพันธมิตร ในประเทศบอลติก โดยอ้างถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับภัยคุกคามจากรัสเซีย...

     กรอบการป้องกันประเทศใหม่ ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีของ นายกรัฐมนตรี "โอลาฟ ชอลซ์" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา [ตามเวลาท้องถิ่น] แทนที่แนวทางปฏิบัติเดิม ที่คิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งแผนการใหม่นี้ จะทำให้เยอรมันไม่แพ้สงคราม หากถูกรัสเซียบุกโจมตี...

     แผนการป้องกันประเทศใหม่ ระบุรายละเอียดต่างๆ เช่น การเกณฑ์ทหารภาคบังคับ  และ การบังคับให้ผู้คนผลิตสินค้าสำหรับใช้สงครามเท่านั้น บางส่วนของประเทศสามารถใช้เป็นที่อพยพได้ และ สถานีรถไฟใต้ดิน ที่จอดรถใต้ดิน และ สิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดินอื่นๆ จะถูกใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราว...

     เหล่าคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า "เยอรมนีไม่ได้เป็นรัฐแนวหน้าอีกต่อไป แต่ทำหน้าที่กองทัพพันธมิตร ในฐานะศูนย์กลางของพันธมิตร ในใจกลางยุโรป ซึ่งเราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องยุโรปเอาไว้"

     รัฐบาลเยอรมันมีแผนที่จะ ควบคุมการแจกจ่ายอาหาร เพื่อจัดการกับปัญหาการขาดแคลนที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีเกิดสงครามกับรัสเซีย โดยรวมถึงการกักตุนข้าวสาลีและธัญพืชอื่นๆ และ การสร้างคลังสำรองข้าวและถั่ว ในกรณีฉุกเฉิน เงินสำรองจะกลายเป็นอาหาร 1 มื้อต่อวัน สำหรับชาวเยอรมัน 1 คน

     นอกเหนือจาก กฎการเกณฑ์ทหารจะเปลี่ยนแล้ว ประชาชนอาจถูกบังคับ ให้ทำงานด้านทหารบางอย่าง เช่น การทำขนมปัง การประดิษฐ์ของต่างๆ การเป็นผู้ช่วยพยาบาล โดยโรงพยาบาลจะต้องเตรียมพร้อม รับผู้ป่วยจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามา จากอาการบาดเจ็บทุกชนิด

     รัฐมนตรีกลาโหม "บอริส พิสโตเรียส" กล่าวเสริมว่า "แผนใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงภัยคุกคาม ด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น การป้องกันโดยรวมของเยอรมัน เป็นงานที่เราทุกคนต้องมีส่วนร่วม สถาบันของรัฐและพลเรือน ตลอดจนเราทุกคน!!" และ "เราต้องการสังคมที่มีความยืดหยุ่น ที่สามารถรับมือกับความท้าทาย ได้ทุกรูปแบบ!!"