มาตรการที่แท้ ต้องลดดอกกู้ เพิ่ม LTV และลดอุปทานที่อยู่อาศัย
มาตรการที่แท้ ต้องลดดอกกู้ เพิ่ม LTV และลดอุปทานที่อยู่อาศัย
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
![]()
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ นัยว่าจะสามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้เพิ่มอีกถึง 1.5% ดร.โสภณ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอิสระและไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของฝ่ายรัฐหรือฝ่ายเอกชนใด มีข้อเสนอใหม่
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สรุปข้อมูลจากการสำรวจภาคสนามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2537 โดย ณ สิ้นปี 2566 ได้พบเห็นว่า
1. จำนวนที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ขายออกได้ในปี 2566 คือ 84,625 หน่วย ซึ่งลดลงจากปี 2565 ที่ขายได้ถึง 97,691 หน่วย หรือลดลงไป 13% สาเหตุเพราะเศรษฐกิจในปี 2566 ไม่ดีเท่าที่ควร ในขณะที่ในปี 2565 มีการซื้อขายมาก เนื่องจาก “อั้น” มาจากช่วงโควิด-19 ในระหว่างปี 2563-2564
2. ในทำนองเดียวกัน จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2566 มีจำนวน 101,536 หน่วย น้อยกว่าที่เปิดในปี 2565 ที่เปิด 107,090 หน่วย โดยลดลงประมาณ 5.2% อย่างไรก็ตามมูลค่าการพัฒนาโครงการในปี 2566 กลับสูงถึง 559,743 ล้านบาท หรือ มากกว่าปี 2565 ที่เปิดเพียง 472,463 ล้านบาท กรณีนี้แสดงว่ามูลค่าการเปิดตัวใหม่ในปี 2566 สูงกว่าปี 2565 ถึง 18.5%
การที่หน่วยขายเปิดใหม่ดูลดลง 5.2% ในปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 ก็เพราะไม่มีการเปิดขายโครงการอาคารชุดราคาถูก (ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท) ที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งในปี 2565 ยังมีโครงการประเภทนี้นับหมื่นหน่วย แต่ในปี 2566 ไม่มี ดังนั้นหากหักจำนวนนี้ออกไป พัฒนาการของปี 2566 ยังถือว่าเติบโตกว่าปี 2565 เสียอีก ยิ่งกว่านั้นการที่มูลค่าการพัฒนาเพิ่มขึ้นถึง 18.5% แสดงว่าตลาดกำลังเติบโตมากกว่าที่จะระบุว่าตลาดซบเซาลง
อย่างไรก็ตามสินค้าราคาถูก เช่น บ้านแนวราบและห้องชุดราคา 3 ล้านบาทลงไป การขายช้าลงเพราะความสามารถในการจ่ายของประชาชนอาจจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจและมีหนี้ครัวเรือนสูง ส่วนที่อยู่อาศัยที่มีราคาค่อนข้างสูงขึ้นไป เช่น หน่วยละ 10 ล้านบาทขึ้นไป กลับยังสามารถขายได้ โดยแทบไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด แสดงว่าปัญหาสำคัญอยู่ที่กลุ่มที่อยู่อาศ้ยของผู้มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลางค่อนข้างน้อย การขยายเพดานราคาบ้านที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้จาก 3 ล้านบาทเป็น 7 ล้านบาท ก็เป็นเพียงการช่วยให้นักพัฒนาที่ดินสามารถขายบ้านได้เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ
มาตรการล่าสุดของรัฐบาลที่ส่งเสริมการลงทุนห้องชุดราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท (ขยายจาก 1.2 ล้านบาท) จะทำให้เกิดห้องชุดราคานี้เพิ่มขึ้นประมาณ 15,000-20,000 หน่วย และในปี 2567 นี้จำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวอาจพุ่งสูงถึงเกือบ 120,000 หน่วยหรือเพิ่มขึ้นกว่าปี 2566 ถึง 15-18% เลยทีเดียว ปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ
1. จะทำให้มีการซื้อเก็งกำไรห้องชุดราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทเพิ่มขึ้น ปกติมีผู้ซื้อเก็งกำไรไว้ประมาณ 25% คาดว่าในปี 2567 สัดส่วนนักเก็งกำไรอาจพุ่งสูงถึง 30-35% แต่สัดส่วนของผู้ที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเองอาจลดลง จึงอาจถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด
2. จะทำให้ราคาซื้อขายต่อของห้องชุดมือสองที่ผลิตใหม่ๆ แทบไม่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้ เนื่องจากมีอุปทานเกิดขึ้นมากจากการส่งเสริมการลงทุน
ดร.โสภณ จึงเสนอทางออกสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยดังนี้:
1. รัฐบาลควรลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 1% แต่ไม่ลดดอกเบี้ยเงินฝาก เพราะสถาบันการเงินต่างๆ ก็มีรายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้งกิจกรรม Non-Bank อยู่เป็นอันมาก การลดดอกเบี้ยลง 1% จะทำให้ช่วยผู้ซื้อบ้านผ่อนลดลง 8% ทำให้เศรษฐกิจเติบโตทันที ทั้งนี้รัฐบาลอาจลดดอกเบี้ยในส่วนของสถาบันการเงินของรัฐก่อน และขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ต่อไป หรืออาจเปิดสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดการแข่งขันเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค
2. รัฐบาลพึงคงมาตรการ LTV หรือ Loan to Value หรือการกำหนดสัดส่วนเงินกู้ได้ไม่เกิน 90% ของมูลค่าบ้าน โดยมีการตรวจสอบการประเมินค่าทรัพย์สินให้เคร่งครัด ไม่ใช่ประเมินสูงเกินจริงเพื่อจะได้กู้เงินได้มากๆ ทุกวันนี้มีการอำนวยสินเชื่อถึง 110%-120% ของมูลค่าบ้าน ทำให้ประชาชนผ่อนบ้านไปโดยเป็นดอกเบี้ยเกือบทั้งหมด ถ้าประชาชนไม่มีเงินดาวน์บ้างเลย ก็แสดงว่ายังไม่ควรมีบ้าน การอำนวยสินเชื่อสูงๆ จะทำให้ผู้ซื้อบ้านทิ้งบ้านของตนเองได้ง่ายดาย
3. รัฐบาลควรหามาตรการควบคุมการผลิตที่อยู่อาศัย เพราะยิ่งรัฐมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นอุปทานให้มีมากขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้ไม่สามารถหยุดมาตรการดังกล่าวได้ รัฐเสียผลประโยชน์ด้านภาษีมาพัฒนาประเทศ ถ้าประชาชนยังไม่พร้อมซื้อบ้าน ก็พึงชะลอการพัฒนาที่อยู่อาศัยออกไปบ้าง แต่การนี้อาจทำให้นักพัฒนาที่ดินเสียผลประโยชน์ แต่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม คงเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งเสริมให้ธุรกิจใดเติบโตไม่หยุดในขณะที่เศรษฐกิจของไทยก็ยังเติบโตช้า
อสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่เครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ เศรษฐกิจที่ดีต่างหากที่จะกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัย ที่อ้างว่าการซื้อที่อยู่อาศัยจะทำให้เกิดแรงกระพือโหม (Multiple Effects) เช่น ผลิตปูนซีเมนต์มากขึ้น ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น ในความเป็นจริง ดร.โสภณชี้ว่าการซื้อบ้านมือสองก็กระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน โดยไม่ต้องไประเบิดภูเขาผลิตปูนซีเมนต์มากจนทำร้ายสภาวะแวดล้อม
ในขณะนี้ ดร.โสภณสำรวจพบว่ามีบ้านมือสองพร้อมขายในมือประชาชนประมาณ 1 ล้านหน่วย การซื้อบ้านมือสองมีประโยชน์คือ
1. ไม่ต้องสร้างใหม่ เสร็จสำเร็จรูปแล้ว
2. แม้ซื้อบ้านมือสองจะไม่มีการต่อเติม แต่ก็มีการซ่อมแซม และมีการซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ฯลฯ เช่นเดียวกับบ้านมือหนึ่ง
3. ได้บ้านแน่นอน ไม่กลัวว่าจะถูกโกง หรือบ้านสร้างไม่เสร็จเพราะผู้ประกอบการมีปัญหาทางการเงิน
4. สามารถทราบได้ว่าเพื่อนบ้านเป็นอย่าง มีการบริหารนิติบุคคลบ้านจัดสรร/อาคารชุดดีหรือไม่ น้ำเคยท่วมหรือไม่ เป็นต้น
5. ราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง อยู่ในทำเลใกล้เมืองมากกว่าบ้านมือหนึ่งเสียอีก ฯลฯ
ยิ่งกว่านั้นรัฐบาลควรแก้กฎหมายให้การดูแลประโยชน์ของคู่สัญญา (Escrow Account) เป็นภาคปฏิบัติ มีการนำเงินดาวน์ของคนซื้อบ้านเก็บไว้ที่คนกลาง แม้ต้องเสียค่าธรรมเนียมบ้าง แต่ก็ได้รับการคุ้มครอง ผู้ประกอบการรายใหญ่น้อยก็จะได้ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน เพราะต่างก็คุ้มครองผู้บริโภคเหมือนกัน เป็นการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ให้สามารถอยู่ร่วมกับรายใหญๆ ได้ หาไม่ธุรกิจนี้ก็จะกลายเป็นเช่นธุรกิจกึ่งผูกขาดที่บริษัทมหาชนครองส่วนแบ่งตลาดถึง 80% ของตลาด อีก 20% เป็นของบริษัทนอกตลาดเท่านั้น
มาตรการใดๆ ที่รัฐออกมาต้องยึดถือประโยชน์ของผู้บริโภคหรือผู้ซื้อบ้านเป็นสำคัญ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
เขมรยึดทรัพย์โรงงานจีน เพื่อนำเงินมาชดใช้ค่าจ้างคนงาน 600 คน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
กลุ่มแรงงานแถลงประณามบริษัทสั่งปิดงาน ทำผิดอนุสัญญา ต้องสั่งแก้เปิดงานทันที เรียกร้องบริษัทเปิดผลประกอบการกำไร5พันล้าน ย้ำต้องแจกโบนัสตามสิทธิ เพราะทำงานหนัก
“ศุภจี” เฮ! ARASCO ซาอุฯ สั่งซื้อมันสำปะหลังอัดเม็ดเพิ่ม 3 หมื่นตัน ปีหน้าลุ้นพุ่งแตะ 1 แสนตัน
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ชาวเน็ตฮือฮา!! พ่อแม่หน้าจีนแต่ลูกออกมากลับหน้าฝรั่ง



