คาถาพลิกชีวิตของ หลวงปู่ศิลา สิริจันโท

พระมหาศิลา สิริจันโท หรือ หลวงปู่ศิลา 

   เป็นพระราชาคณะชั้นราช และเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน ในจังหวัดกาฬสินธุ์ เดิมท่านมีนามเดิมชื่อว่า ศิลา นิลจันทร์ เกิดเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2488 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 11 ปีระกา ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. 2500 ตอนอายุ 12 ปี ณ วัดธาตุประทับ จ. ร้อยเอ็ด

   ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ถึง 3 ครั้ง เนื่องจากต้องดูแลญาติที่ป่วย และกลับมาอุปสมบทใหม่ครั้งที่ 3 ณ พัทธสีมาวัดแสงประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับฉายานามว่า " สิริจนฺโท"

    ตั้งแต่ พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน หลวงปู่มหาศิลา สิริจนฺโท พำนัก ณ ที่พักสงฆ์ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ท่านได้ศึกษาปริยัติอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค ได้เข้ารับพัดเปรียญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อปี พ.ศ. 2515 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

    และท่านยังได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ซึ่งเป็นบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาบำเพ็ญประโยชน์ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม

   ผู้คนได้ขนานนามท่านว่า " เกจิดังภาคอีสาน  " ผู้มีญาณหยั่งรู้  

   เรื่องเล่าของหลวงปู่ศิลา จากที่แชร์กันในเฟซบุ๊ก ว่าท่านคือหลวงปู่ที่ถูกปิดทองหลังพระองค์จริง  โดยมีผู้ศรัทธาท่านหนึ่ง ได้เห็นภาพหลวงปู่ศิลาในเฟสบุ๊ก ไม่ได้รู้จักหลวงปู่มาก่อน คิดว่าหลวงปู่ได้ละสังขารไปแล้ว แต่เกิดปิติศรัทธาจึงบนบานกับภาพในเฟสบุ๊ค ในสิ่งที่ตนทุกข์ใจอยู่ว่าหากสำเร็จจะไปปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่ที่วัด ปรากฏว่า ทุกอย่างผ่านพ้นได้ตามคำบนประสงค์ จึงสุ่มเดามาที่วัด ซึ่งยุคนั้นที่วัดไม่มีรูปเหมือนหลวงปู่ มีแต่องค์จริงท่านนั่งอยู่บนกุฏิสองสามีภรรยาจึงขอโอกาสแก้บนโดยการปิดทอง หลวงปู่ท่านก็เมตตาให้ปิดได้

   ได้กลายเป็นไวรัลโด่งดังจนตอนนี้มีประชาชนให้ความสนใจและได้เข้าไปกราบขอพรหลวงปู่อย่างมากมายจนล้นวัด

พระคาถาพลิกชีวิต

ตั้งนะโม 3 จบ แล้วท่อง

นะโม วิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ราหุ สุริยันจันทัง ประมุขจะสุ 

** เราสามารถท่อง 3 จบ หรือ 9 จบก็ได้ **

มะอะอุนะโมวิมุตตานัง  หมายถึง ขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นจากกิเลสทั้งหลาย 

นะโมวิมุตติยา หมายถึง ขอนอบน้อมแด่วิมุติธรรม ธรรม อันหลุดพ้นคือพระนิพพาน

ราหุ สุริยัน จันทัง ประมุขจะสุ

พระราหู คือโมหะ,ความมืด,ครอบคลุมหุ้มโลก ภาวนาให้ราหูคลายปลดปล่อยให้ชีวิตเราสว่างไสว อย่างพระอาทิตย์และพระจันทร์ ในคืนวันเพ็ญหลวงปู่ศิลา จึงตั้งชื่อคาถานี้ว่า " คาถาพลิกชีวิต "