สรุปหนังสือ"พลังของคนที่กล้าทำอะไรคนเดียว"
ผมนี้เป็นintrovertมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเวลาเจอผู้คนเยอะๆหรือต้องทำงานกลุ่มนี้ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่ายมากกๆ อยากกลับบ้านอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกมีความสุขกว่า หนังสือเล่มนี้จะอธิบายถึงการเป็นintrovert เลยก็ว่าได้ คนที่สามารถอยู่คนเดียวได้จริงๆแล้วมันเป็นทักษะของคนที่เข้าใจตัวเองได้อย่างดี การที่เราสามารถมีความสุขกับตัวเองอยู่กับความเงียบได้เนี้ยผมว่ามันเป็นเวลาที่ลํ้าค่ามากๆ พลังของการกล้าทำอะไรคนเดียวเนี้ยไม่ได้หมายถึงว่าจะไม่สุงสิงกับใคร แต่หมายถึงความแน่วแน่ในความคิดตัวเองเข้มแข็งในความสันโดษกล้าทำสิ่งต่างๆในความคิดตัวเอง เวลาอยู่กับคนอื่นเราก็สนุกครับ เวลาอยู่คนเดียวเราก็สนุก ถ้าเรากล้าที่จะทำอะไรด้วยตัวเองไม่ต้องไปเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครอยู่กับคนเยอะๆเราก็ต้องเป็นคนอีกแบบหนึ่ง แต่พอเราอยู่คนเดียวเราแทบจะไม่ต้องเป็นใครเราก็เป็นเราที่เป็นเรานี้แหละดังนั้นไม่แปลกใจเลยทำไมเรารู้สึกไม่เป็นตัวเองเลยเวลาอยู่กับคนอื่น นี้เป็นแค่เนื้อหาส่วนน้อยที่ผมจะพูดถึงทุกท่านสามารถซื้อหนังสือมาอ่านเองได้ครับ รับรองคุ้มค่ากับเวลาที่ได้เสียไปกับการอ่านแน่นอนครับ โดยจะมีทั้งหมด6บท ผมจะพูดย่อๆแบบสรุปๆนะครับ
บทที่ 1 การสะท้อนตัวต้น
ถ้าเรานั้นมีตัวตนที่อ่อนแอก็อย่าได้แสวงหาความโดนเด่นอะไรมากมาย หากยอมรับในตัวเองและพยายามแสดงออกในแบบที่ตัวเองเป็นไปเรื่อยๆก็จะไม่รู้สึกกังวลกับข้อเสียของตนเอง อย่าวิ่งหนีความความรู้สึกตัวเองการกล้าเผชิญกับความรู้สึกตัวเองกล้าที่จะยอมรับความคิดตัวเอง ไม่ปฏิเสธยิ่งปฏิเสธจะกลายเป็นความกดดันแทน ถ้าหากเหนื่อยอยากพัก ก็ให้ยอมรับว่าเรานั้นเหนื่อยและอยากพัก การทำเช่นนี้จะทำให้เราหลุดพ้นจากความคิดที่ว่า ต้องทำเช่นนี้ และจะแสดงให้เห็นจิตใจที่แท้จริงกำลังบอกแบบนี้ การอยู่กับคนอื่นทำให้ไม่ต้องมีข้อจำกัดด้านความคิดเนื่องจากมีความคิดของคนอื่นมาขัดขวาง ทำให้ตัดสินใจทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตนเอง เลิกสร้างภาพ!!!คนที่กลัวการอยู่โดดเดี่ยวส่วนมาก มักคิดมากกับสายตาคนรอบข้างว่าเขารู้สึกกับตนยังไง การให้ความสำคัญกับคนอื่นมากเกินไปทำให้เรามีพฤติกรรมที่แปลกออกไปโดยไม่ใช่ตัวเราเอง จะทำให้สภาพจิตใจของเราอ่อนล้า ดังนั้นการแสดงออกอย่างซื่อตรงจริงเป็นสิ่งที่ควรทำแล้วจะทำให้ทุกๆวันของเรานันเป็นวันที่สดใส
บทที่ 2 ความสัมพันธุ์ระหว่างบุคคล
คนที่มองว่าการอยู่คนเดียวเป็นเรื่องในแง่ลบ คือคนที่กลัวการถูกเกลียดขั้นสุดและคิดว่ามนุษย์ไม่สามารถอยู่เพียงลำพังได้จึงพยายามให้ความสำคัญกับเพื่อนมากๆ หากเราคิดว่าการเป็นตัวของตนเองนั้นจะทำให้ตัวเองถูกเกลียด ถูกมองว่าไม่มองดูสถานการณ์บ้าง แต่ถ้าหากเป็นตัวของตัวเองแล้วถูกเกลียดจะเรียกอีกฝ่ายว่าเพื่อนได้อีกหรือ คนที่ยอมรับในความเป็นตัวของตัวเองของอีกฝ่ายและอีกฝ่ายก็ยอมรับในความเป็นตัวของตัวเองของอีกฝ่าย แบบนี้จึงเรียกว่าเพื่อนได้อย่างเต็มปาก
บทที่ 3 ค่านิยม
เลิกใส่ใจกับมาตรฐานทางสังคม คนประเภทนี้มักใช้ชีวิตในแนวนอนอยู่เสมอ แทนที่จะได้ใช้เงินตามแบบที่ตัวเองต้องการ อาชีพที่ตัวเองต้องการแต่กับเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นต่างๆนาๆ ทำให้บางครั้งรู้สึกไม่พอใจกับตนเอง หากสูญเสียความเป็นตัวเองก็จะเอนเอียงไปตามค่านิยมของสังคม ต้องยอมรับตัวเองในอดีตและปัจจุบันให้ได้ทั้งหมดและใช้สิ่งเหล่านี้เป็นฐานในการสร้างตัวเองในอนาคต เพราะยังมีวิธีใช้ชีวิตแบบตัวเองอีกมากมาย
บทที่ 4 พฤติกรรม
เลิกคิดมากจนไม่กล้าลงมือทำ เพราะนี้คือการไม่ใช้ความคิดก็แค่การวนเวียนอยู่กับสิ่งๆหนึ่งมากเกินไป และนึกถึงเรื่องนั้นตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเป็นการรับฟังเสียงในหัวใจของตนเอง แต่ก็แค่ตกอยู่ในสภาพที่คิดขึ้นมาในหัวของตนเองก็แค่นั้นคนที่มีลักษณะคิดมากจนจิตตกแบบนนี้ ถึงแม้จะมีหนทางที่ดีก็ไม่สามารถมองเห็นได้และจะไม่สามารถวาดภาพในอนาคตที่ดีขึ้นได้จึงไม่แปลกที่คนเหล่านี้จะไม่ลงมือทำอะไรเลย
บทที่ 5 อ่านหนังสือ
เด็กที่อ่านหนังสือจะดูเป็นผู้ใหญ่ นั้นเพราะรู้ศัพท์และวิธีที่จะสื่อสารได้ดีกว่าเด็กในวัยเดียวกัน บนโลกนี้มีทั้งคำพูดในแง่ร้ายและแง่ดีอยู่ที่ตัวเรานั้นจะเลือกใช้ จะพูดคำไหนก็ได้แต่การพูดของเรานั้นจะทำให้ปฎิกิริยาของคนรอบข้างเปลี่ยนไปการเลือกใช้คำคือการเลือกว่าอย่างใช้ชีวิตให้ไปทางไหน การอ่านหนังสือเป็นการเปิดโลกกว้างทำให้รู้การใช้ชีวิตหรือแนวคิดอื่นๆ หากไม่รู้ว่าชีวิตมีเส้นทางการใช้ชีวิตอีกมากมายนับไม่ถ้วน จะไม่รู้ว่าเส้นทางไหนมีประโยชน์ ทางเลือกไหนช่วยลดความเสี่ยงได้
บทที่ 6 ครอบครัว
คู่รักที่มีพลังของการที่กล้าทำอะไรด้วยตัวคนเดียวสูงจะมีชีวิตหลังแต่งงานที่ดี เพราะคนที่รู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วยตัวคนเดียวจะสามารถอยู่ได้แบบสบายใจกับคนอื่นได้อีกด้วย เพราะพลังของการที่กล้าทำอะไรคนเดียวจะนำไปสู่ความเข้าใจซึ่งกันและกันและยอมรับอีกฝ่ายทำให้ทั้งต่างรักษาระยะห่างที่เหมาะสม
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
รีวิวจากคนที่อ่าน หนังสือ "พลังของคนที่กล้าทำอะไรคนเดียว อาทิ เช่น "เป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้อยากพัฒนาตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจ อ่านแล้วรู้สึกว่าการทำอะไรคนเดียวไม่ใช่เรื่องแย่ แต่จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น" "สิ่งที่ชอบที่สุดของเล่มนี้คือประเด็นที่ว่า หากเราสูญเสียการเป็นตัวเองไป เราก็ทำให้ตัวไหลไปตามสังคมที่แท้จริงแล้วเราอาจไม่ได้ชอบหรืออยากจะทำมันด้วยซ้ำ และคนเราทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อคนอื่น อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร" "สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมาก ๆ ค่ะ ทำให้รักตัวเองมากขึ้นและเชื่อใจตัวเองมากขึ้น หนึ่งสมองสองมือสามารถนำทางตัวเราเองไปถึงจุดที่เราต้องการได้แน่นอนค่ะ" เป็นต้น