สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติหนุนปาเลสไตน์เป็นสมาชิก!

  สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN General Assembly หรือ UNGA) ลงมติโดยผลคะแนนออกมาสนับสนุนอย่างท่วมท้นเพื่อให้ปาเลสไตน์ในการเป็นสมาชิกสหประชาชาติโดยสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2567  ท่ามกลางสงครามและวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา โดยยอมรับว่าปาเลสไตน์มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมและแนะนำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ "พิจารณาเรื่องนี้อย่างเห็นชอบ"

  การผลักดันชาวปาเลสไตน์เพื่อเป็นสมาชิกเต็มตัวของสหประชาชาติเกิดขึ้นเจ็ดเดือนหลังจากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซา และขณะที่อิสราเอลกำลังขยายการตั้งถิ่นฐานอย่างผิดกฎหมายในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง

  สมัชชาได้มีมติเมื่อวันศุกร์โดยมีมติเห็นชอบ 143 คะแนน และคัดค้าน 9 คะแนน(สหรัฐอเมริกาและอิสราเอลอาร์เจนตินา, เช็คเกีย, อิสราเอล, ฮังการี, ไมโครนีเซีย, นาอูรู, ปาลาลู, ปาปัวนิวกินี, และสหรัฐอเมริกา ) ขณะที่ 25 ประเทศงดออกเสียง(ส่วนมากเป็นประเทศในยุโรป)

  มติยังไม่ได้ให้ชาวปาเลสไตน์เป็นสมาชิกเต็มตัวของสหประชาชาติแต่ยอมรับว่ามีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมซึ่งทำให้ปาเลสไตน์ซึ่งยังคงมีสถานะเป็นประเทศสังเกตการณ์จะได้รับสิทธิเกือบเทียบเท่าประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ยกเว้นสิทธิในการลงมติในที่ประชุมสมัชชา (GA) และสิทธิในการเป็นสมาชิกในองค์กรของยูเอ็น 

 นายกิลาด เออร์ดาน ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำสหประชาชาติ

  ก่อนลงคะแนนเสียง นายกิลาด เออร์ดาน ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำสหประชาชาติ ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการยื่นมติในครั้งนี้ด้วยการฉีกปกสำเนากฎบัตรสหประชาชาติชุดเล็กพร้อมกล่าวในเชิงว่าการกระทำนี้เป็นการทำลายกฎบัตรสหประชาชาติด้วยที่น่าละอาย

  นาย ริยาด มันซูร์ ทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติกล่าวว่าการลงคะแนนเสียงในครั้งนี้จัดขึ้นในขณะที่ชาวเมืองราฟาร์ซึ่งอยู่ในสถานที่ลี้ภัยแห่งสุดท้ายในกาซ่ากำลังถูกโจมตีจากกองกำลังอิสราเอล

นาย ริยาด มันซูร์ ทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ

“ในขณะที่เรากำลังคุยกัน ชาวปาเลสไตน์ 1.4 ล้านคนในราฟาห์กำลังสงสัยว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดในวันนี้หรือไม่ และสงสัยว่าจะไปที่ไหนต่อไป ไม่มีที่ไหนเหลือให้ไปแล้ว” 

 “ผมเคยยืนบนโพเดียมนี้มาหลายร้อยครั้งแล้ว หลายครั้งในสถานการณ์ที่น่าสลดใจ แต่ไม่มีครั้งใดที่เทียบได้กับการที่ประชาชนของผมต้องทนทุกข์ในวันนี้ ... ไม่เคยมีการลงคะแนนเสียงครั้งใด ที่มีความสำคัญไปกว่าการลงคะแนนเสียงครั้งประวัติศาสตร์นี้แล้ว”

  ก่อนการลงคะแนนเสียง นาย ริยาด มันซูร์ กล่าวกับ UNGA ว่า "การลงคะแนน 'เห็นด้วย' เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และผมรับรองได้ว่าคุณและประเทศของคุณในอีกหลายปีข้างหน้าจะรู้สึกภูมิใจที่ได้ยืนหยัดเพื่อเสรีภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดนี้"