สวนสัตว์มนุษย์ หรือ Human Zoo หนึ่งในความน่าละอายของมนุษย์ ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกัน
สวนสัตว์มนุษย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อนิทรรศการชาติพันธุ์วิทยา เป็นการจัดแสดงผู้คนในที่สาธารณะ โดยปกติจะอยู่ในสภาพที่เรียกว่า "ธรรมชาติ" หรือ "ดั้งเดิม" ซึ่งโดดเด่นที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 การจัดแสดงเหล่านี้มักเน้นย้ำถึงความด้อยกว่าที่ควรจะเป็นของวัฒนธรรมของสิ่งจัดแสดง และแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าของ "สังคมตะวันตก" ผ่านการเปรียบเทียบที่อ้างว่ากลุ่มที่ถูกกีดกันเป็น "คนป่าเถื่อน" สวนสัตว์มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการอาณานิคมและนิทรรศการชั่วคราวในสวนสัตว์ และได้พัฒนาไปเป็นการจัดแสดงอิสระที่เน้นความด้อยกว่าของสิ่งจัดแสดงต่อวัฒนธรรมตะวันตก และให้เหตุผลเพิ่มเติมสำหรับการกดขี่ข่มเหงของพวกเขา
แนวคิดของสวนสัตว์มนุษย์เป็นคำดูถูกที่ใช้เพื่ออธิบายการจัดแสดงผู้คนในลักษณะที่ไร้มนุษยธรรม นิทรรศการเหล่านี้จัดขึ้นมาหลายศตวรรษและเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการและงานแสดงสินค้าอาณานิคม คณะละครสัตว์ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์ พวกเขาสืบทอดทฤษฎีเรื่องความเหนือกว่าของคนผิวขาวและความเชื่อเรื่องการเหยียดเชื้อชาติที่ยังคงดำเนินต่อไป ตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1800 จนถึงราวทศวรรษ 1950 มีสวนสัตว์มนุษย์ในระดับนานาชาติ โดยมีผู้คนผิวสี (POC) จากทั่วทุกมุมโลก
สวนสัตว์มนุษย์ จะแสดงความเป็นอยู่ชนเผ่าพื้นเมืองจากแอฟริกา เอเชีย อเมริกา ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่ใช่ชนผิวขาว ชนพื้นเมืองเหล่านี้จะถูกนำมาจัดแสดงในกรงและเปิดแสดงให้คนผิวขาวคนอื่นๆ ดูพฤติกรรมชีวิตประจำวันของพวกเขา ชนพื้นเมืองหลายคนจะถูกบังคับให้แก้ผ้า ทั้งๆที่อากาศในยุโรปนั้นเย็น ไม่เหมือนกับในบ้านเกิดของชนเผ่าต่างๆเหล่านี้ ซึ่งบางทีถึงขั้นทำให้ คนที่ถูกจับมาแสดงโชว์แบบนี้นั้น ป่วยตายทีละหลายๆคนก็มี เนื่องจากอาการไข้อย่างรุนแรง นอกจากนี้ บางรายก็จะมีป้ายติดว่าเป็น “ส่วนที่ขาดหายของวิวัฒนาการของมนุษย์” ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นการกระทำของมนุษย์ที่ปฏิบัติต่อกันอย่างน่าละอายมาก ถ้าเทียบกับความคิดของมนุษย์ในปัจจุบันของเราเด้อครับเด้อ