เฉียดแชมป์ VS เฉียดตกชั้น เกมนี้มีแต่คำว่าเสียดาย เสียหายพลิกสถานการณ์ทันที (ฟุตบอลรอบโลก 6 : ไทยลีก Story ตอน ศึกลุ้นแชมป์สายฟ้าปะทะแข้งเทพ)
สวัสดีท่านผู้อ่านทาง Postjung ทุกท่าน ผม HelloWorld ครับ
ซีรีย์ไทยลีกในโค้งสุดท้ายก็ยังสนุกน่าลุ้นทั้งลุ้นแชมป์ทั้งลุ้นหนีตกชั้นเลย แต่วันนี้เราจะมาโฟกัสที่โซนลุ้นแชมป์ ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้มีเพียงแค่ 2 ทีมเท่านั้นที่มีลุ้นแชมป์ไทยลีก คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
โดยนัดนี้วันจันทร์ที่ 29 เมษายน ทรู แบงค็อก ได้เปิดบ้านต้อนรับ ต่อพิฆาต พีที ประจวบ เอฟซี ที่ต้องการหนีตกชั้นอย่างด่วน เพราะห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่อันดับเดียว แต่ฟอร์มหลัง ๆ ของพีที ประจวบ เองนั้น ก็ดีขึ้นอย่างขึ้นได้ชัด จนช่วงนี้ถือว่าชนะได้ยากมาก ๆ ส่วน ทรู แบงค็อก แน่นอนว่าไม่ต้องคิดอะไรมาก เก็บ 3 แต้มในบ้านให้ได้
เกมนี้ ทรู แบงค็อก ได้สวม เสื้อดำแดง กางเกงดำ และทางฝั่นทีมเยือนอย่างทีม พีที ประจวบ ได้ใส่ เสื้อขาว กางเกงขาว แข่งขันในเวลา 18:30 น.
ในช่วงครึ่งแรก แม้จะไม่ได้มีโอกาสยิงเยอะมาก เพราะทางประจวบเองก็แพ็คเกมรับมาอย่างรัดกุมและมีวินัยมาก ๆ แต่ว่าแต่ละลูกที่มีโอกาสก็มีเสียวน่าขึ้นนำเหมือนกัน
อย่างจังหวะนาทีที่ 40 ประจวบก็ได้จังหวะเตะมุม หลังจากตั้งอดทนตั้งรับมานานพอสมควร แล้วมีโอกาสได้โขกเน้น ๆ โดย ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ แต่ วรุฒ เมฆมุสิก ได้เซฟช่วยทีมไว้อย่างอุตลุด ทำให้ ทรู แบงค็อก ยังสามารถอยู่ในเกมได้
แต่ไม่นาน นาทีที่ 44 ทรู แบงค็อก ก็พลาดโอกาสทองสุดเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ บาสเซล จราดี้ ได้ลากเลื้อยผ่านตัวผู้เล่นประจวบแบบสวย ๆ แล้วจ่ายหวังได้แอสซิส แต่ วิลเลี่ยม โมต้า ยิงเฉียดเสาออกไปแบบน่าเสียดาย จบครึ่งแรกก็ยังคงเสมอกันอยู่ 0:0
เริ่มครึ่งหลัง พีที ประจวบ ก็ได้สวนอย่างน่ากลัวถึง 2 ครั้ง ทำเอากองหลังจาก ทรู แบงค็อก ปั่นป่วนได้เลยทีเดียว โดยทรู แบงค็อก ก็ยังทำได้เพียงครองบอล ไม่สามารถเข้าถึงหน้าปากประตูได้เลย
กว่าจะได้เข้าถึงหน้าปากประตู ก็เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 55 โดยประมาณได้เลย แต่นั่นก็เป็นจังหวะเดียวในรอบหลาย 10 นาทีที่ทะลุถึงหน้าปากประตู โดยรวม พีที ประจวบ ก็ยังคงมีวินัยเกมรับที่เหนียวแน่น ไม่ต่างจากครึ่งแรกเลย
เวลาล่วงเลยไปถึงนาทีที่ 63 แบงค็อกก็ได้เปลี่ยนตัว 2 ตำแหน่ง โดยเอา พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา แทน วันชัย จารุนงคราญ และเอา อดิศักดิ์ ไกรศร แทน ปกเกล้า อนันต์ ในการเปลี่ยนตัวครั้งนี้ เหมือนจะปรับแผนการเล่นใหม่ เพราะยังตื้อ ๆ ตัน ๆ อยู่
ต่อมานาทีที่ 74 กรรมการได้เป่าฟาวล์ กฤษดา นนทรัตน์ ได้ฟาวล์ใส่ ชุติพนธ์ ทองแท้ แล้วให้ใบเหลืองไป แต่ VAR เห็นแย้งให้กรรมการมาดูจอ แต่ผลปรากฏว่าก็ยังให้คำตัดสินเดิม
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้าย แบงค็อกก็ได้บุกเน้นเร่งเกมมากขึ้น แต่ทาง พีที ประจวบ ก็ยังมีวินัยเกมรับที่ดีเยี่ยม ทั้งเคลียร์ทั้งเซฟ เกมนี้ทดเวลาไป 8 นาที
ซึ่งนาทีที่ 90+2 ทรู แบงค็อกได้เตะมุม แล้วเป็น เอฟเวอร์ตัน โขกพุ่ง ๆ แบบน่ากลัวแต่ก็ออกนอกกรอบไป ในช่วงท้ายของการทดเวลา พีที ประจวบ ก็ได้ถ่วงเวลาจนใบเหลืองว่อนเกลื่อนเลย
แต่สุดท้ายก็คุ้มสำหรับพวกเขา สามารถยันเสมอ ทรู แบงค็อก ณ ทรู สเตเดียมที่สกอร์ 0:0 ได้สำเร็จ
หลังจากจบเกมนี้ บอกได้เลยว่ามีแต่คำว่า “เสียดาย” จริง ๆ เพราะทั้งทางเจ้าบ้านเอง ก็มีโอกาสเฉียดฉิวเยอะมาก ๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เป็นสกอร์ได้ และทางทีมเยือน ถึงจะตั้งรับมากกว่า แต่ก็มีโอกาสยิงน่ากลัวมาก ๆ จนทาง ทรู แบงค็อก เกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน แต่ภาพรวม พีที ประจวบ แฮปปี้กว่า คว้า 1 แต้มไปมีโอกาสรอดมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมต่อไปของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้องไปเยือนทีมถิ่นอีสานที่ต้องการคว้า 3 แต้มในบ้านอย่าง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ณ สนามกีฬาจังหวัดขอนแก่น ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 17:30 น.
โปรแกรมต่อไปของ พีที ประจวบ เอฟซี เปิดบ้านต้อนรับทีมลำพูน วอริเออร์ ที่ทั้ง 2 ทีมต่างต้องการ 3 แต้มอย่างหนัก เชื่อได้ว่าคู่นี้คงสนุก เพื่อหนีโซนตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ให้ได้ แข่งที่สนามสามอ่าว สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 19:00 น.