" ผมต่อสู้เพื่อชีวิตที่ผมไม่ได้ใช้ " ประโยคน้ำตาซึม
เป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงของชายที่ชื่อ รอน วูฟรูฟ ซึ่งในหนังแสดงโดย Matthew McConaughey (ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวได้ลดน้ำหนักลง 21 กิโลกรัมเพื่อมารับบทนี้เพื่อความสทจริงของตัวละคร) รอนเป็นหนุ่มเทกซัสผู้เป็นทั้งช่างไฟฟ้าและนักกีฬาโรดีโอ ในปี 1985 และเขาก็ได้ใช้ชรวิตหัวหกก้นขวิดเหมือนเพื่อนๆในวันเดียวกัน จนกระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตนั่นคือ การพบว่าตัวเองติดเชื้อ HIV ซึ่งในขณะนั้นโรคนี้ยังถือว่าเป็นโรคอุบัติใหม่โดยที่ความรู้ความเข้ายังมีอยู่น้อย ที่มีบางทีก็ไม่จริง ตัวอย่างเช่น คนบางกลุ่มยมีความเชื่อว่าโรคนี้มักเกิดกะบเกย์ เลยทำให้เกย์เป็นที่รังเกียขเพิ่มขึ้น (จากเดิมก็มีอยู่แล้ว)
ตัวของรอนเองก็โดนเพื่อนระงเกียจเพราะคิดว่ารอนเป็นเกย์ (เพราะติดเชื้อ HIV) ทั้งที่รอนไม่ใช่ และหมอวินิจฉัยออกมาว่ารอนจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 30 วันเท่านั้น เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อรักษาเผื่อมีหนทางจะยืเชีวิตออกไปได้มากกว่า 30 วัน ในช่วงเวลาทียารักษาโรคเอดส์ยังไม่ได้รับการรับรองจากที่ใดๆเลย แต่รอนมิได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาถึงขั้นเดินทางข้ามชายแดนไปเม็กซิโกเพื่อหาทางเลือกใหม่ในการรักษา เขาทำแม้กระทั่งลักลอบนำตัวยาเข้ามาในสหรัฐอเมริกา และเอายาไปแจกจ่ายให้สังคมชาวเกย์
โดยเขาได้รับความช่วยเหลือจากเรย์ออน ซึ่งนำแสดงโดย Jared Leto เพื่อนเกย์ (อันที่จริงน่าจะกะเทยมากกว่า) ผู้น่ารักน่าหยิกและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ที่ติดเชื้อเอชไอวีเหมือนกันกับรอน ข่วงแรกๆทั้งคู่ไม่ถูกกันเท่าไรนัก พออยู่ไปๆได้รู้จักกันมากขึ้นก็กลายมาเป็นเพื่อนกันในที่สุด
เรื่องนี้เป็นหนังในปี 2013 กำกับการแสดงโดย Jean-Marc Vallée และการลดน้ำหนักของ Matthew McConaughey นั้นไม่เสียเปล่า เพราะหนังเรื่องนี้ส่งผลให่เขาได้รับรางวัลนักอสดงชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ ส่วน Jared Leto ก็ไม่น้อยหน้าได้รับรางวัลนักออสดงสมทบชายยอดเยี่ยวจาดเรื่องและเวทีเดียวกัน ในหนังเรื่องนี้มีประโยคหนึ่งที่พระเอกพูด ฟังแค่ครั้งเดียวจำมาจนทุกวันนี้เลยคือประโยคที่ว่า " ผมต่อสู้เพื่อชีวิตที่ผมไม่ได้ใช้ " ใครยังไม่เคยดูก็ลองไปหาดูนะครับ รับรองว่าน้ำตาซึมแน่นอน