คอหวยรีบไปขอหวยเลย ตะลึงจนตาเหลือกเมื่อพบต้นกร่างยักษ์27คนโอบขึ้นปกคลุมศาลเจ้าสมัยกรุงศรีฯ
คอหวยรีบขอหวยเลย ตะลึงจนตาเหลือกเมื่อพบต้นกร่างยักษ์27คนโอบขึ้นปกคลุมศาลเจ้าสมัยกรุงศรีฯ
🌲ตะลึง!พบต้นกร่างยักษ์27คนโอบขึ้นปกคลุมศาลเจ้าสมัยกรุงศรีฯ
ตะลึง พบต้นกร่างยักษ์อายุนับร้อยปี
ขนาด 27 คนโอบ ที่เมืองกาญจน์ ขึ้นปกคลุมศาลเจ้าเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านแห่เขย่าติ้วขอเลขเด็ด...
ผู้สื่อข่าว จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายไพโรจน์ วงศ์ปิยะพัฒน์ อายุ 66 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "โกโซ้ว" นักธุรกิจชื่อดังของ อ.ท่ามะกา ว่าพบต้นไม้ยักษ์ขนาดหลายสิบคนโอบ ที่บริเวณศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา
พบว่าต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นกร่างขนาดใหญ่ โดยลำต้นมีโพรงภายในโพรงมีศาลเจ้าให้ผู้คนที่เดินทางมาเข้ากราบไหว้บูชากัน คนท้องถิ่นเรียกกันว่าศาลเจ้าตึกในโพรงไม้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง ลำต้นของไม้ดังกล่าวแผ่กิ่งก้านสาขาร่มเย็นสบายเป็นอย่างมาก โดยแต่ละกิ่งของต้นไม้เท่ากับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เห็นทั่วไปเลยทีเดียว
จากการสอบถามนายสมศักดิ์ วงศ์ศีล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 1 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี มีตำแหน่งเป็น ส.ท.ตำบลหวายเหนียว ซึ่งเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าดังกล่าว
เปิดเผยว่า ศาลเจ้าแห่งนี้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2537 ทางกรมศิลปากรส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าตัวศาลเจ้าทำด้วยอิฐมอญและอิฐแดงแบบเก่าและมีหลังคามุงด้วยกระเบื้องของจีน สร้างประมาณสมัยกรุงศรีอยุธยา ส่วนต้นไม้ดังกล่าวเป็นต้นกร่าง
ได้ขึ้นปกคลุมตัวศาลเจ้าเอาไว้ และแผ่กิ่งก้านสาขารอบบริเวณ โดยแต่ละกิ่งเหมือนกับโคนต้นไม้ขนาดใหญ่ทั่วๆ ไป ซึ่งกรมศิลปากรเคยบอกว่าอายุต้นไม้น่าจะอายุประมาณ 374 ปี ซึ่งเท่ากับว่าปีนี้ต้นกร่างยักษ์ต้นนี้จะมีอายุประมาณ 392 ปี เลยทีเดียว โดยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีคณะทหารมากราบไหว้ต้นกร่างต้นนี้แล้วลองจับมือกันโอบ
โดยพบว่าต้องใช้คนถึง 25 คน และเคยมีเด็กวัยรุ่นมากราบไหว้ต้นกร่างยักษ์แล้วลองโอบกันต้องใช้คนถึง 27 คน
นายสมศักดิ์ เปิดเผยต่ออีกว่า ปกติผู้คนที่เข้ามากราบไหว้ศาลเจ้าแห่งนี้จะมีด้วยกัน 2 พวกคือ พวกที่เดือดร้อนเช่นสอบเข้าราชการไม่ได้ หรือเดือดร้อนส่วนตัวมาขอจะประสบผลสำเร็จ
โดยเคยมีลูกชายอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งอยากเป็นนายตำรวจ พยายามสอบมาหลายปีก็ไม่ได้ ตนบอกว่าลองมาขอศาลเจ้าแห่งนี้ก็เลยมากราบขอดู ปรากฏว่าปีนั้นลูกชายสอบได้นายตำรวจอย่างสมใจ
อีกพวกหนึ่งคือพวกขอเลขเด็ด บ้างก็มาขอเลขหวยรายวัน บางก็มาขอเลยหวยรายเดือน มากันทุกวัน ซึ่งถือเป็นเรื่องความเชื่อของเขา แต่ที่ตนประสบมาด้วยตนเองคือเมื่อหลายปีก่อน บริเวณอิฐหลังศาลเจ้าที่ทรุดโทรมมากจะพังลงมา ปรากฏว่ามีกิ่งไม้ที่ปกคลุมเลื้อยมาดันด้านหลังของตัวศาลเจ้าเอาไว้ไม่ให้ พังลงมาจนทุกวันนี้
โดยตัวศาลเจ้าไม่เคยมีการบูรณะปล่อยให้เป็นแบบเดิม คงดูแลเพียงรอบๆ นอกศาลเท่านั้น นายสมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้พบกับ นายเที้ยม จงเจริญ อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 1 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หวายเหนียว อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งเดินทางมากราบไหว้ศาลดังกล่าวด้วย เปิดเผยว่า ปกติตนมักจะนัดกับเพื่อนเก่าอายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาที่ศาลแห่งนี้ประจำ
เนื่องจากร่มเย็นและเงียบสงบ สมัยตนยังเป็นเด็กอายุประมาณ 10 ขวบ เคยเจอคนแก่อายุประมาณ 80 ปี เล่าให้ฟังว่าเกิดมาก็เห็นต้นไม้ต้นนี้ใหญ่ตระหง่านแบบนี้อยู่แล้ว และคนรุ่นหลังก็บอกว่ามีอายุหลายร้อยปี
เคยมีเมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณ พ.ศ. 2487-2488 ได้มีชายคนหนึ่งมากราบศาลขอตัดกิ่งต้นไม้ โดยอ้างว่ากิ่งแผ่ขยายจนใหญ่มากจนรกชัฏไปหมด โดยเมื่อตัดกิ่งแล้วต้องบรรทุกเรือยนต์หลายสิบเที่ยวไปตามลำน้ำแม่กลอง เพื่อไปขายในตัวเมืองกาญจนบุรี ให้พวกเดินรถไฟและคนอื่น ๆ
ซื้อไปใช้กัน เพราะสมัยนั้นฟืนเป็นสิ่งจำเป็นมากในการดำรงชีวิต
จากนั้นก็ไม่เคยมีใครกล้าตัดกิ่งไม้ต้นนี้อีกเลย ส่วนตัวแล้วอยากให้ผู้เกี่ยวข้องอนุรักษ์ศาลเจ้าและต้นไม้ต้นนี้เอาไว้ชั่ว ลูกชั่วหลาน เพราะหาต้นไม้ใหญ่ยักษ์และอายุหลายร้อยปีแบบนี้ยากเต็มทีแล้วในปัจจุบัน นายเที้ยม กล่าว.