ส่งศพทหารกล้าผู้ล่วงลับกลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ

มทภ.4 ประธานรดน้ำศพ 2 วีรชนทหารกล้าชายแดนใต้ เสียชีวิตจากผู้ก่อเหตุรุนแรงซุ่มยิง พร้อมส่งศพทหารกล้าผู้ล่วงลับกลับภูมิลำเนาอย่างสมเกียรติ

 ( 9 เมษายน 2567 )   ที่ วัดบางนรา  ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานพิธีรดน้ำศพ และพิธีส่งศพ สดุดีสองวีรชนทหารกล้า จากกองร้อยทหารพรานที่ 4613 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ผู้เสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนอุทิศกำลังกาย กำลังใจ เพื่อปกป้องประเทศชาติ ค้ำจุนสถาบันพระมหากษัตริย์ และดูแลช่วยเหลือประชาชนจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต คือ อาสาสมัครทหารพราน วิทยา ปวงงาม อายุ 30 ปี ตำแหน่ง พลลาดตระเวน ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 ภูมิลำเนาเลขที่ 105/1 หมู่ที่ 7 ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา และ อาสาสมัครทหารพราน ประคอง สุทนัง อายุ 48 ปี ตำแหน่ง พลยิงเครื่องยิงลูกระเบิด ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพราน กรมทหารพรานที่ 46 ภูมิลำเนาเลขที่ 220 หมู่ที่ 15 ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งสองนายเสียชีวิตจากเหตุเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ซุ่มยิงระหว่างเดินทางด้วยรถยนต์กระบะกลับจากการปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมการจัดทำซุ้มประตูชัย พื้นที่บ้านบลูกาฮีเล หมู่ที่ 6 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงเวลากลางคืนในเวลา 22.40 น. ของวันที่ 7 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้วางพวงหรีดในนามของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร , นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก /รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, และวางพวงหรีดเคารพศพในนามของแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมกันนี้ยังมอบเหรียญบางระจันและใบประกาศนียบัตร เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเกียรติ ในการประกอบคุณงามความดี ความเสียสละ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้วายชนม์

โดยมี พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 , พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส , พันเอก สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 พร้อมด้วย นาวาเอก สันติ เกศศรีพงษ์ศา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ และผู้แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ , หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เพื่อนข้าราชการต่างร่วมแสดงความอาลัยจำนวนมาก

จากนั้นเวลา 09.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เชิญน้ำหลวงอาบศพแก่สองวีรชนทหารกล้าผู้วายชนม์ ที่สละชีพเพื่อชาติและประชาชนจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ยังความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณแก่ทั้งสองครอบครัวเป็นล้นพ้น

ต่อมาเวลา 10.45 น. ได้เคลื่อนขบวนศพ เพื่อกระทำพิธีส่งศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ส่งผู้ล่วงลับสู่สรวงสรรค์ที่หมวดบินเฉพาะกิจภาคใต้ กองการบินทหารเรือ ณ บ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส อย่างสมเกียรติ เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนายังภูมิลำเนา คือ อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี และ อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ตามลำดับ ด้วยเครื่องบินลำเลียงแบบ C-295 ของกองทัพบก

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประกอบด้วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือนและประชาชนทุกคน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของวีรชนผู้กล้า และขอสดุดีต่อท่านที่ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ  ทุ่มเท นับว่าท่านได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินอย่างยิ่งใหญ่  เราทั้งหลายขอไว้อาลัยแด่ดวงจิตวิญญาณด้วยใจเคารพ และขอให้ดวงวิญญาณของสองทหารกล้า จงถึงสุคติภพ ประสพสุขในสรวงสวรรค์ แม้ชีพของท่านจะสูญสิ้น แต่คุณงามความดีและเกียรติประวัติแห่งความเสียสละจะยังคงอยู่ตราบนานเท่านาน “ชีพสูญ ดับดาวสิ้น เกียรติยัง ใจแกร่งก่อพลังต่อสู้ ล้วนสละสุข ระหว่างชายแดน ขอส่งสุคติผู้สู่ห้วงสรวงสวรรค์”