มีใครที่อ่านหนังสือถึงพันเล่มบ้าง...ในชีวิตนี้
หลายคนบอกว่าควรหาหนังสือดีๆ อ่านก่อนละจากโลกนี้ไปให้ได้อย่างต่ำสักร้อยเล่ม แล้วทำไมจึงมีคนถามอีกว่า คุณได้อ่านหนังสือถึงพันเล่มหรือยัง
หากเรามาลองคำนวณว่า เราได้หาหนังสือมาอ่านสักวันละ 1 เล่มอ่านให้จบ 1 อาทิตย์ ทำอย่างนี้ไปไม่หยุด หนึ่งเดือนคุณจะอ่านหนังสือจบได้ 4 เล่ม ภายในหนึ่งปี คุณจะอ่านได้ 48 เล่ม และถ้าเรายังเป็นเด็กหรือเยาวชน นับไปตอนนี้อายุ 15 + 20 ปี = 35 ปี คุณจะอ่านหนังสือได้ถึง 960 เล่ม
การสั่งสมประสบการณ์การอ่านเป็นเวลาที่ล้ำค่า เราได้เก็บเกี่ยวความรู้ วิธีการเขียน รูปแบบการนำเสนอ เรื่องเหล่านี้เป็นแนวทางปฏิบัติที่อ่านทฤษฎีก็ไม่สามารถทำได้ หากเราไม่เคยมีคำใดใดที่นักเขียนได้บรรจงสรรค์สร้างมาให้ได้อ่านไว้เพื่อเป็นแนวทาง เราจะไปลองฝึกหัดลงมือจรดปลายปากกาเรียบเรียงกลั่นกรองถ้อยคำในสมองออกมาร้อยเรียง ให้ผู้อ่านได้เชื่อมโยงความรู้ของเราที่มีไปให้เขาได้อย่างไร
การเขียนจึงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่สำคัญ เป็นการนำผู้อ่านเข้าสู่โลกของคุณด้วยสื่อกลาง คือภาษาเขียนซึ่งเรียบเรียงจนเข้าสู่กระบวนการรับรู้ของผู้อ่านนับสิบนับร้อยนับพันไปจนถึงนับล้านได้อย่างสมบูรณ์อย่างไร ดังนั้นศาสตร์การเขียนจึงกลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่สำคัญ เพราะมันคือการจรรโลงไว้ซึ่งแนวความคิด ความเชื่อ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม ประเพณี ตำนานเรื่องเล่า ของชุมชนท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลก เป็นการแปลงสารจากที่มีอยู่ติดตัวให้กลายเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ แล้วสามารถนำเอาเนื้อหาสาระเหล่านั้นไปถ่ายทอดเป็นความรู้เพื่อเผยแพร่ต่อไป
คนเราทุกคนมีภูมิรู้อยู่แล้วไม่ว่าจะมีความรู้ระดับต่ำหรือสูงเพียงใด เพียงแต่เขาเหล่านั้นได้สั่งสมประสบการณ์มามากน้อยเพียงใด แล้วจะสามารถนำสาระที่เป็นแก่นของมันเปิดให้ผู้คนได้รับรู้ได้มากน้อยเพียงใด การเขียนจึงเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดระหว่างการอ่าน การฟัง การพูดเล่าเรื่องต่อๆ กันมา
ลองมานับจำนวนวันเวลากับหนังสือที่เราเคยหยิบขึ้นมาอ่าน ตอนนี้คุณอายุกันเท่าไหร่ อ่านหนังสือกันมาแล้วกี่เล่ม
แล้วใครได้อ่านหนังสือ...มาถึงพันเล่มบ้างแล้วหรือยัง