ทำงานไกลบ้าน อยู่หอหรืออยู่บ้านดี ? ฉบับคุยกันเล่นๆ
ทำงานไกลบ้าน อยู่หอหรืออยู่บ้านดี ? ฉบับคุยกันเล่นๆ
หากคุณทำงานประจำคงเลือกไม่ได้ที่เราจะต้องเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศ แน่นอนการเข้าไปทำงานที่ออฟฟิศเป็นสิ่งจำเป็นในเมื่อการทำนอกจากการทำ “งาน” ที่ได้รับมอมหมายแล้วยังต้องติดต่อประสานงานกับคนอื่นๆทั้งในองค์กรและนอกองค์กร นอกจากนั้นยังต้องปวดหัวกดดันในเรื่องงานอีก นอกเรื่องจริงๆ
แน่นอนเมื่อต้องไปทำงานที่ออฟฟิศคุณจำเป็นต้องพาตัวเองจากที่พักไปถึงออฟฟิศเพื่อที่จะทำงานได้ใช้ไหม แล้วถ้าออฟฟิศที่คุณต้องไปเนี่ยมันอยู่ไกลมาก เราจะจัดการอย่างไรดีนะ
สำหรับข้อดีของการทำงานไกลบ้านมีคนนึกออกหรือไม่ ผู้เขียนเองก็นึกไม่ออกเหมือนกันเพราะทุกวันนี้ก็ทำงานไกลบ้าน ฮ่าๆ สำหรับข้อดีคงจะเป็นการได้ฝึกความอดทนในการตื่นเช้าและต้องออกไปเผชิญรถติดหรือเบียดเสียดผู้คนบนรถสาธารณะเหมือนประชด แต่จริงๆก็ใช่ ประชด แล้วข้อเสียหละคืออะไร อย่างที่กล่าวไปคือการเสียเวลาเดินทางทำให้เราเหนื่อยสูบพลังงานชีวิต สำหรับผู้เขียนเองใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง โชคดีที่ ที่ทำงานไม่มีการจับเวลา การลงเวลา ทำให้ไม่กดดันมากนักเรื่องจะทัน จะสายหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าเวาลา 1.30 ชัวโมงที่เสียไปมีค่ามากหากคุณง่วงมากๆ ฮ่าๆ
แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? เมื่ออยู่ไกลหลายคนจึงเลือกอยู่หอหรือหาที่พักใกล้ที่ทำงานแทน ซึ่งช่วยให้เราประหยัดเวลาเดินทาง ทำให้เหนื่อยน้อยลงอีกด้วย แต่สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือค่าใช้จ่าย สิ่งที่คุณจะต้องเจอเมื่ออยู่หอประกอบด้วย
- ค่าเข้าอยู่ เป็นเงินก้อนแรกที่ต้องจ่ายเมื่อจะเข้าพักซึ่งประมาณ 2 ถึง 3 เท่าของราคาห้องต่อเดือนประกอบด้วย ค่าประกัน,ค่าพักล่วงหน้า, ค่าห้องพักของเดือนนั่นๆ จากราคาห้อง 3,000 อาจจะต้องจ่ายถึง 9,000 เพื่อเข้าพัก
- ค่าใช้จ่ายจิปะถะ เช่นค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ากิน ค่าอาหาร ซึ่งมากน้อยแล้วแต่บุคคลแต่สำหรับผู้เขียนค่ากินก็ปาเข้าไป 200 + ต่อวันแล้ว อีกอย่างเรตค่าไฟหอพักมักจะแพงกว่าเรตค่าไฟบ้านอยู่พอสมควร ต้องระวังไม่เปิดแอร์ทิ้งไวนะ อาจจะช็อคกับค่าไฟได้
แล้วอะไรมันดีกว่ากันหละ คำตอบนี้ควรจะอยู่ที่เงินเดือนหรือค่าตอบแทนของคุณและค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายเมื่อมาหักลบกันแล้วคุณจะเห็นความคุ้มค่าของมัน หากคุณลองหักเงินเดือนส่วนที่คิดว่าจะต้องเป็นค่าหอออกแล้วลองใช้จ่ายดูถ้ามันพอคุณก็อาจจะย้ายไปอยู่หอพักได้ แต่หากหักแล้วไม่ไหวกินแกบ ก็อาจจะต้องทนเหนื่อย แต่ในอีกทางถ้าค่าใช้จ่ายในการเดินทางเช่น ค่าน้ำมัน ค่ารถโดยสารรวมกันแล้วไม่ต่างจากค่าหอพักเท่าไรก็ควรพิจาณาอยู่หอเถอะ
ทั้งนี้มีอีกทางออกที่เข้ากันในยุคนี้คือการมองหางานแบบ Work from Home การทำงานอยู่บ้านช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก บริษัทหลายๆบริษัทเริ่มปรับตัวให้เข้ากับการ WFH มากขึ้นผู้เขียนเองก็เคยสัมผัสประสบการณ์ WFH 4 วันต่อสัปดาห์รู้สึกว่ามันดีจริงๆนะ แต่ทุกวันนี้ต้องทนทุกข์กับการยืนโหนรถไฟฟ้าต่อไป