หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไมเรียก "ลอดช่องสิงคโปร์" ทั้งที่จริงแล้วเป็นของไทยแท้ๆ ?

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์

ทำไมเรียก "ลอดช่องสิงคโปร์"
ความจริงแล้ว "ลอดช่องสิงคโปร์" เป็นของไทยแท้ๆ คิดค้นโดยคนไทยนี่เอง โดยมีต้นกำเนิดจากร้านอาหารชื่อ "สิงคโปร์โภชนา" นายณรงค์ จักรธีรังกูร เจ้าของร้านสิงคโปร์โภชนา เจ้าของต้นตำรับลอดช่องสิงคโปร์เล่าว่า

คุณพ่อเป็นผู้คิดค้นสูตรลอดช่องที่มีลักษณะพิเศษ คือ แป้งเหนียวนุ่ม หอมและใหม่สดทุกวัน ทำขายมาเกือบ 70 ปีแล้ว

สาเหตุที่คนติดปากเรียกว่า "ลอดช่องสิงคโปร์" เพราะเป็นชื่อร้าน ซึ่งมีที่มาจากร้านสาขาดั้งเดิมตั้งอยู่หน้าโรงภาพยนตร์ไทยชื่อ "โรงภาพยนตร์สิงคโปร์" แต่ไม่รู้ว่าร้านอาหารสร้างก่อนโรงภาพยนตร์ หรือโรงภาพยนตร์สร้างก่อนร้านอาหารเพราะเกิดไม่ทัน

อีกสาเหตุหนึ่ง คือ สมัยก่อนแป้งที่ทำลอดช่องนำเข้ามาจากสิงคโปร์ คนที่มากินลอดช่องต่างเรียกว่า "ลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์" ไปๆ มาๆ ก็เหลือเพียง "ลอดช่องสิงคโปร์"

คนที่มาดูหนัง พากันมากินลอดช่องทั้งก่อนและหลังเข้าไปชมภาพยนตร์ ต่อมาโรงภาพยนตร์ เปลี่ยนชื่อเป็น "เฉลิมบุรี" ก่อนจะปิดตัวไปเนื่องจากต้านกระแสวิดีโอไม่ไหวและทุบทิ้งไปแล้ว

การที่ร้านเราสามารถครองใจลูกค้ามาได้ยาวนานถึง 70 ปี เนื่องจากการคงคุณภาพวัตถุดิบ และสูตรของขนมลอดช่องสิงคโปร์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการใช้กะทิ แบบเข้มข้น เพื่อให้ได้ความหอม มัน ที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนเส้นของลอดช่อง ก็มีความเหนียวนุ่ม โดยสีที่นำมาใช้จะเป็นสีเขียวของใบเตยและสีผสมอาหาร ซึ่งหากใช้สีของใบเตยเพียงอย่างเดียวจะทำให้สีไม่สวย สดใส ในขณะที่น้ำเชื่อมก็ไม่หวานจนเกินไปนัก พร้อมใส่ขนุนลงไปในน้ำเชื่อมด้วย ทำให้ลูกค้าในปัจจุบันมีทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่เคยมารับประทานตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มสาว ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นลูกค้าประจำแม้อายุจะล่วงเลยไปถึง 70-80 ปี แล้วก็ตาม โดยทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มานั่งกินลอดช่องสิงคโปร์เพื่อมารำลึกความหลัง”

เดิมขายอยู่ถ้วยละไม่ถึง 1 บาท ก่อนจะขยับราคามาเรื่อยๆ ตามยุคสมัย ปัจจุบันมีการประกาศย้ายร้านไปเมื่อ ธันวาคม 2566

โดยบริการในบรรยากาศร้านดั้งเดิมวันสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 เป็นวันสุดท้าย พบกันที่ร้านใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2566
ร้านใหม่ของเราอยู่ห่างจากร้านเดิมประมาณ 70 เมตร

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: worldtravel
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ขยี้ตาแรง! "นิวเคลียร์" หน้าใหม่เป๊ะเวอร์ ผ่านไป 3 เดือนจำแทบไม่ได้แห่ถาม "หนุ่ม กรรชัย" ลาออกแล้วรวมวีรกรรมแก๊งน้ำไม่อาบ! แหกทุกกฎ ตร.ไม่สนลูกใคร จัดหนักทุกรายนักท่องเที่ยวดื่มเหล้าปนพิษในลาว กลายเป็นดราม่าเดือด เมื่อชาวเกาหลีขยี้มุมมองจนต้องร้อง อีหยังวะกระหน่ำยิงโคราช!ล่าสุดดับหนึ่งราย!"ไวรัลชุดเชียร์ลีดเดอร์คณะพายุ: ชุดหรือศิลปะ?"มีข่าวลือหนาหูว่าทนายสายหยุดเตรียมถอนตัวจากการทำคดีทนายตั้ม โดยอ้างว่าเหตุผลคือถูกหลอกและได้รับการประณามจากสังคมทะเลสาบฮาซู่: กระจกส่องท้องฟ้าแห่งมองโกเลียในในประวัติศาสตร์จีน ชีวิตของภรรยาทหารที่เสียชีวิตในสงครามชีวิตจะเป็นอย่างไร?พุทธอภิวรรณ รู้สึกแปลกใจที่นักวิชาการไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีหมอบุญ วนาสินเจ้าอาวาสหลับลึกเกิน ปลุกกันทั้งวัดก็ยังไม่ตื่น ถึงกับต้องงัดประตูไปช่วย ลูกศิษย์บอกเพราะท่านหูตึงขนมจีนน้ำเงี้ยว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ในประวัติศาสตร์จีน ชีวิตของภรรยาทหารที่เสียชีวิตในสงครามชีวิตจะเป็นอย่างไร?9 อาหารกินแล้ว 'หน้าเด็ก' ช่วยชะลอความแก่ อาหารต้านริ้วรอย หาทานง่าย ดีต่อสุขภาพ10 พฤติกรรมเสี่ยงที่คุณทำอยู่ทุกวัน โดยไม่รู้ตัวว่าทำลายสุขภาพระยะยาวช็อก! "กงยู" พระเอกสุดฮอตเผยเป็นทายาทรุ่นที่ 79 "ขงจื๊อ"พุทธอภิวรรณ รู้สึกแปลกใจที่นักวิชาการไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดีหมอบุญ วนาสิน
ประโยชน์ของชาเขียวโครงการช่วยเหลือให้เกิดสภาพคล่องของเศรษฐกิจรู้หรือไม่? แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้ข้อมูลอะไรหลอกลวงคุณแผนที่ที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรปอายุ 4,000 ปี
ตั้งกระทู้ใหม่