เคยต้องน้ำตาตกจากการทำงานไหม
ผู้เขียนเคยมานั่งนึก ๆ ดูแล้ว ทำงานมาก็หลายที่ ตั้งแต่องค์กรเล็ก ๆ ไปจนองค์กรใหญ่ ความแตกต่างมีให้เห็นได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเรื่องเนื้องาน ปริมาณงานที่ได้รับผิดชอบ ระบบระเบียบกฎกติกา หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงานและหัวหน้างาน ขึ้นอยู่กับว่าตัวพนักงานเองจะปรับตัวได้หรือไม่ และหลัก ๆ คืองานที่ทำตอบโจทย์ความสามารถเราเองหรือไม่
หลายคนกว่าจะเข้าไปทำงานได้ก็ต้องผ่านการสอบข้อเขียน สอบสัมภาษณ์ บางที่ก็ต้องผ่านหลายด่านกันเลยทีเดียว แต่เมื่อเข้าไปทำงานแล้วกลับรู้สึกว่างานที่ได้รับมอบหมายมันไม่เหมือนอย่างที่ประกาศหรือคุยกันไว้เลย ไม่ว่าจะเนื้องาน เวลางาน หน้าที่ความรับผิดชอบ หรือระบบการทำงาน
นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากในการทำงาน จะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้ เพื่อนร่วมงานก็เป็นส่วนสำคัญมากเหมือนกัน รวมถึงหัวหน้างานเอง ถ้าเจอหัวงานดีก็มีโอกาสได้เรียนรู้ ก้าวหน้า มีอนาคตที่ดีในหน้าที่การงาน แต่ถ้าไม่ ความซวยอาจบังเกิดกับพนักงานโดยไม่ตั้งตัวได้เหมือนกัน
ผู้เขียนเองลองมานึก ๆ ดูแล้ว ก็ทำงานหลายที่ เจอหลายรูปแบบ หลายคนที่ทั้งดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง หรือหัวหน้าที่ไม่คิดจะปกป้องลูกน้อง ปล่อยให้ฝ่ายอื่นเอางานที่ไม่เกี่ยวข้องมาให้ลูกน้องตัวเองง่าย ๆ เราเองต้องอึดและถึกเพื่อจะได้ผ่านมันไปให้ได้
เรื่องงานหนักไม่ค่อยมีผลต่อผู้เขียนเท่ากับเรื่องเพื่อนร่วมงานเท่าไหร่ และไม่ว่าจะบริษัทไหน ก็จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเราเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว เคยอยู่ครั้งนึง นั่งรถกลับบ้านด้วยความที่เหนื่อยกายและเหนื่อยใจ อยู่ ๆ น้ำตาก็ตกแหมะ จนคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองด้วยความสงสัย ในใจก็รู้สึกสงสารตัวเองนะ แต่ก็ต้องฮึดสู้เพื่องาน สร้างกำลังใจเพื่อตัวเอง และทำเพื่อครอบครัว แล้วก็ผ่านจุด ๆ นั้นมาได้
ก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อน ๆ ที่กำลังเจอปัญหาไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องคน ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ ถ้าอยากระบายมาก็พร้อมจะรับฟังนะคะ
ภาพประกอบ: pixabay.com
#1 ภาพโดย Lukas Bieri จาก Pixabay
#2 ภาพโดย cocoandwifi จาก Pixabay
#3 ภาพโดย goodinteractive จาก Pixabay
#4 ภาพโดย Hữu Thanh Cái จาก Pixabay