4 สัญญาณเตือนให้รู้ว่าควรลาออกจากงานได้แล้ว
ใครกำลังมีคำถามในใจว่าจะลาออกจากงานดีไหม ลองมาดูสัญญาณเตือนให้รู้ว่าควรลาออกจากงานได้แล้ว เพราะเมื่อมีคำถามในใจแบบนี้เกิดขึ้น แสดงว่าคุณก็คงมีบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ไม่อยากทำงานที่เดิมต่อแล้วล่ะ
1) ไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากงานที่ทำอยู่
ไม่ว่าจะตำแหน่งที่ทำอยู่ ช่างไม่น่าสนใจเลย และดูเหมือนว่าไม่มีอะไรใหม่ ๆ ให้เรียนรู้อีกแล้ว โอกาสการเติบโต ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงานแทบจะมองไม่เห็น ก็อาจถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนงานแล้วล่ะ
แต่ก่อนตัดสินใจลาออก ลองคุยกับหัวหน้างานเรื่องโอกาสความก้าวหน้าดูก่อน เผื่อจะมีงานมีตำแหน่งไหนที่หัวหน้าสามารถแนะนำได้
2) เสียเวลานั่งรับมือกับปัญหาในองค์กร มากกว่าฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ
ถ้าสิ่งแวดล้อมภายในบริษัท ไม่ได้ตรงกับนิสัยหรือวิถีการทำงานของเรา แทนที่จะได้ทุ่มเทไปกับการพัฒนาเรื่องงานจริง ๆ กลับต้องไปพัฒนาในสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น เสียเวลามานั่งรับมือกับเรื่องการเมืองในบริษัท หรือต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่ Toxic ทัศนคติด้านลบ มองโลกในแง่ร้ายตลอด
เราอาจจะลองปรึกษากับคนอื่น ๆ ดูว่า ในมุมของคนอื่น สิ่งที่เรามองว่าเป็นปัญหาภายใน มันคือปัญหาภายในจริง ๆ หรือเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ที่เป็นกันทุกที่ และถ้าสรุปแล้ว มันคือปัญหาขององค์กรจริง ๆ ก็ลองหางานใหม่ดูก่อนก็ดีนะคะ
3) รู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเอง
บริษัท นอกจากจะช่วยทำให้พนักงานได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อส่งผลดีต่อการทำงาน บริษัทที่ดียังต้องทำให้พนักงานมีความมั่นใจในตัวเอง เห็นคุณค่าในสิ่งที่พนักงานทำ กล้าให้งานใหญ่ที่เหมาะสมกับศักยภาพ
ถ้าเมื่อไหร่ เราเริ่มรู้สึกว่ารู้สึกถูกมองข้าม ไม่มีใครเห็นคุณค่า ได้รับผิดชอบงานไม่สมกับความสามารถที่มี จนเริ่มสงสัยในตัวเอง ไม่เหลือความมั่นใจอีกต่อไป
นี่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าควรต้องย้ายงาน เพราะนี่คือเรื่องใหญ่ที่พอ ๆ กับ การทำงานโดยไม่เกิดการเรียนรู้
แต่ก่อนจะตัดสินใจลาออก แนะนำว่าให้ลองประเมินก่อนว่า สิ่งทำลายความมั่นใจของเราลงไป อย่างเช่น การโดนตำหนิอย่างรุนแรงจากหัวหน้างาน มันเป็นสาเหตุที่เกิดจากอคติ หรือเกิดจากเนื้องานที่เราทำจริง ๆ
เพราะคำวิจารณ์ในเนื้องานที่เป็นประโยชน์ แต่อาจจะรุนแรงไปบ้าง อาจทำให้เรามองข้ามไปได้ในบางโอกาส เพราะสนใจที่เนื้องานจริงๆ แต่จะติดก็ตรงที่ว่า หากการวิจารณ์นั้นๆ ไม่ได้มีประโยชน์กับเนื้องาน แถมยังทำให้เราขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิต นั่นก็จะนับเป็นการกระทำที่กลวงเปล่า และรังแต่จะทำลายตัวตนของเรา การเดินออกมาจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษแบบนั้น น่าจะเป็นทางออกที่สมเหตตุสมผลที่สุด
4) สุขภาพจิต สุขภาพกายเริ่มน่าเป็นห่วง
หลายคนมีความสุขกับงาน แม้ว่าจะเจองานที่หนัก แต่เพื่อนร่วมงานดี เจ้านายดี ก็ไม่มีใครอยากลาออก แต่ในทางกลับกัน ถ้าบริษัทมีแต่สิ่งที่รบกวนจิตใจ ทุกคนมีทัศนคติในด้านลบ หรือมีเหตุที่ให้เราต้องเกิดความเครียด หรือเวลางานที่ไม่สมดุลกับการดำรงชีวิตด้านอื่นได้ดี เช่นไม่สามารถให้เวลากับครอบครัวได้ ไม่มีเวลาพักผ่อน ส่งผลต่อสุขภาพแบบนี้แล้ว นี่ก็คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าบางทีถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนงานแล้วก็ได้
แต่ก่อนคิดจะลาออก อาจลองประเมินดูก่อนก็ได้ว่า เราได้พยายามสร้างสมดุลให้กับชีวิตด้านอื่น ที่สามารถจัดการเวลาให้เกิดสมดุลระหว่างงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว ถ้าไม่สามารถทำได้ และบริษัทไม่เห็นค่าคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับบริษัท ก็เตรียมสมัครงานที่อื่นได้เลยนะคะ
ถ้าใครเจอสัญญาณเหล่านี้มากกว่า 2 ข้อ ลองหันกลับมาพิจารณาดูใหม่ได้แล้วนะคะ ว่าถ้าทนต่อไปแล้วจะมีอะไรดีขึ้นไหม หรือลองหาโอกาสใหม่ ๆ ให้ตัวเอง เผื่อจะมีสิ่งดี ๆ รอเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเปลี่ยนที่ทำงาน ก็อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ถ้าพฤติกรรมการทำงาน การอยู่ร่วมในสังคมของเราเองเป็นลบ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เจอปัญหาอยู่นะคะ ขอให้หาทางออก ทางที่ใช่สำหรับทุกคนค่ะ
รูปภาพประกอบ: pixabay.com
1 ภาพโดย Jan Vašek จาก Pixabay
2 ภาพโดย Lukas Bieri จาก Pixabay
3 ภาพโดย StartupStockPhotos จาก Pixabay
4 ภาพโดย Pexels จาก Pixabay
5 ภาพโดย muntazar mansory จาก Pixabay