หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

1 : Don't touch ลิขิตรัก สัมผัสร้าย

เนื้อหาโดย neptheduck

 

Chapter 1

เกิดใหม่ หรือตายไปแล้ว?

 

     'ชีวิตที่แสนทรมานและอาการป่วยที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ ถ้าหากว่ามีพรวิเศษอยู่ในโลกนี้จริง ขอเพียงแค่ได้หลุดพ้นจากความทรมานอันแสนสาหัสนี้ ต่อให้สิ่งที่รออยู่จะเป็นความตาย...ฉันก็ยอม'

     .

     .

     'ขอเพียงเท่านั้น...'

     'ได้โปรดเถิดพระผู้เป็นเจ้า'

 

     'ได้โปรดทำให้ความปรารถนาของข้าพเจ้าเป็นจริงด้วยเถิด...'

 

     "กรี๊ดดดดดด!!!"

     เพล้งงง!!!

     "หนีเร็ว!!!!!"

 

     บรึ้มมมมมมม!!!!!

     "เฮือก!!!"

     เสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือน  ทำให้ดวงตาคู่ใสที่ยังคงพร่ามัวเบิกโพลงขึ้นด้วยความตื่นตระหนก  พร้อมทั้งร่างกายที่ผุดลุกขึ้นนั่งตามสัญชาตญาณ

     "เหวอ!!!~"

     แต่เมื่อพยายามจะยืนด้วยขาทั้งสองข้าง  ร่างของเธอกลับล้มลงกลิ้งอย่างหมดท่าไปบนพื้น  ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและกองหนังสือเก่าๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ใต้เตียง

     "ไม่...มีแรงเลย"

     แม้แต่เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอก็แห้งผาก  และแสบร้อนจนเธอต้องยกมือขึ้นมากุมไว้  พร้อมกับกวาดสายตามองหาน้ำดื่ม

     "...!?"

     แต่เธอก็ต้องตื่นตระหนกอีกครั้ง  เมื่อสถานที่ที่เธออยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ห้องนอนบนชั้นสองในบ้านของตนเอง

     "หลับสบายหรือไม่คุณหนู?"

     ดวงตาที่เบิกโพลงหันไปมองชายร่างสูงโปร่ง  ที่กำลังยืนรินน้ำยาสีเขียวใสจากเหยือกทรงสูงใส่แก้ว  อยู่ตรงมุมห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

     "ขออภัยที่แนะนำตัวช้าไป  กระผมชื่อเรกูลัสสายพันธุ์นก  แล้วชื่อของคุณหนูล่ะ?"

     "ฉัน...เดี๋ยวนะ  สายพันธุ์นกคืออะไร!?"

     เธอฉุกใจคิดถึงความแปลกประหลาดที่น่าพิศวงจากปากของชายผู้นี้  โดยตอบคำถามของเขาด้วยการย้อนถาม  และไม่กล้าเผยตัวตนจนกว่าจะได้รับคำตอบให้กับความสงสัยทั้งหมด

     "นก  ก็คือนกไม่ได้มีความหมายอื่นแฝง"

     บทสนทนาที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงยังคงดังต่อไป  ขณะที่ชายปริศนากำลังเดินมาหาเธอพร้อมด้วยแก้วใบนั้นก่อนจะยื่นมาให้  ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและท่าทีเป็นมิตร  จนดูเสแสร้งที่สุดเท่าที่เธอเคยพบมา

     "พวกเวลเรียนรู้ภาษาของดาวเราได้เร็วจริงๆ"

     "เวล?"

     "แถมร่างกายก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว...แต่ก็ยังวางใจไม่ได้"

     คำพูดของเขาทำให้เธอฉุกใจคิดได้ว่า  ตอนนี้มีบางสิ่งที่ผิดปกติกับร่างกายของเธอเป็นอย่างมาก  ทั้งสำเนียงและคำพูดราวกับภาษาต่างดาว  แต่เธอกลับออกเสียงและอ่านตัวหนังสือยึกยือในหนังสือพิมพ์บนโต๊ะได้อย่างน่าประหลาด

 

     และประหลาดใจยิ่งขึ้น  เมื่ออาการเจ็บปวดทรมานจากมะเร็งที่กัดกินอวัยวะภายในของเธอ  ที่แม้กระทั่งจะเปล่งเสียงพูดออกมาก็กระอักเลือดเจียนตาย  บัดนี้มันกลับหายไปเป็นปลิดทิ้ง  ราวกับว่าโรคร้ายมันได้ตายไปจากร่างกายของเธอจนหมดสิ้นแล้ว

     "ดื่มนี่ซะ  พิธีจะได้เสร็จสมบูรณ์"

     "พิธี...พิธีอะไร!!?"

     ชายผู้นั้นทำเพียงแค่ส่งยิ้มจางๆ เป็นคำตอบมาให้  แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไปก็คือ

 

     ปุ้ง!!

     ใบหูมนุษย์ปกติของชายตรงหน้า  บัดนี้มีขนนกสีดำงอกขึ้นมาที่หลังใบหูทั้งสองข้างของเขา

     "กรี๊ดดด!!  นะ...นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้ว!!"

     "แต่ถ้าเจ้าไม่ดื่ม  มันจะมีเรื่องบ้าเกิดขึ้นมากกว่านี้อีก"

 

     บรึ้มมมมม!!!!

     เพล้งง!!

     "กรี๊ดดดด!!"

     เสียงระเบิดและสะเก็ดที่ลอยมากระแทกกระจกจนแตกกระจาย  ทำให้หญิงสาวกรีดร้องเสียงหลง  และก้มเข้าไปหลบใต้เตียงด้วยความตื่นตระหนก  โดยที่ชายปริศนาผู้นั้นก็ยังคงตามลงมา และคะยั้นคะยอให้เธอดื่มน้ำในแก้วไม่หยุด

     "รีบรับไป  เดี๋ยวนี้!!"

 

     บรึ้มมมม!!!

     เสียงระเบิดและเศษแก้วแผ่นใหญ่ที่แตกกระจายไปทั่ว  ทำให้ทั้งสองรีบพากันหนีตายออกไปจากห้องนี้  และปล่อยให้แก้วน้ำสีเขียวหกเจิ่งนองไปบนพื้น  ก่อนจะระเหยเป็นควันและเหือดแห้งไปในที่สุด

     "อย่าออกไป  กลับเข้ามาเดี๋ยวนี้!!!"

     แอเรียดเน่วิ่งลงบันไดโดยไม่สนใจเสียงเรียกที่ดังไล่หลัง  ก่อนจะพุ่งตัวออกมาจากร้านเก่าๆ แห่งนั้น

     "กลับมา!!!"

     "รีบหนีเร็ว  พวกมันกำลังมา!!!"

     แต่เพียงอึดใจเสียงของชายที่ยังอยู่ภายในร้าน  ก็ถูกเสียงตะโกนรอบกายกลบจนมิด

 

     บรึ้มมม!!!!

     ร่างบอบบางที่อยู่ท่ามกลางมวลมหาชนถูกผลักไปผลักมา  จนในที่สุดก็พลัดหลงกับชายที่ชื่อเรกูลัส  เพราะฝูงชนนับร้อยที่กรูกันเข้ามาภายในตรอกแห่งนี้  โดยมีเสียงระเบิดและเหล็กกระทบกันดังขึ้น  พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนทรมานไม่หยุด

     สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้แอเรียดเน่ที่ไม่รู้เหนือรู้ใต้เริ่มสับสนและร้อนใจ  จนต้องเข้าไปหลบการจลาจลในตึกแห่งหนึ่ง  ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยผู้ลี้ภัยแปลกหน้ามากมาย  ที่ถูกต้อนมารวมกันที่นี่ด้วยแรงระเบิดที่ทำจากขวดน้ำมัน  ในตอนนี้ตึกหลายแห่งถูกเผาจนวอด  และเริ่มลามมาถึงตึกเก่าๆ แห่งนี้อย่างรวดเร็ว

     "เกิดอะไรขึ้น  ทำไมถึงได้วุ่นวายขนาดนี้?!"

     เธอร้องถามออกไปด้วยความสั่นกลัว  โดยหวังว่าจะได้รับคำตอบในสิ่งที่ตนกำลังเผชิญหน้าในเวลานี้

     "พวกทหารกำลังตามล่าพวกผ่าเหล่าที่แอบแฝงตัวอยู่ในเมือง"

     "ผ่าเหล่าเหรอ!?"

     ความสงสัยที่ติดค้างในหัวยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น  พร้อมกับบทสนทนาที่แสนแปลกประหลาดอย่างที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน

     "แต่พวกเราคือโอเมก้าเลือดแท้นะ!"

     "อย่าลืมว่าไม่ใช่ทั้งหมด  กว่าจะมาถึงรุ่นเราสายเลือดก็ผสมปนเปกันไปตั้งเท่าไหร่แล้ว"

     "แล้วคนที่เป็นสายเลือดแท้ก็ต้องมีใบเกิดเป็นเอกสารยืนยัน  แต่ข้าไม่มี...พ่อแม่ของข้าตายตั้งแต่ข้าเพิ่งเกิด"

     "ถ้าไม่ใช่เพราะเขาคนนั้น"

     "ใช่!!"

 

     'ใครกันน่ะ'

     'เขาคนนั้นที่ทุกคนพูดถึง?'

 

     "เราก็คงไม่ต้องมาติดร่างแห..."

 

     ปึง!!!

     ยังไม่ทันสิ้นประโยคเสียงกระแทกประตูที่ผุพังก็ดังขึ้น  ก่อนที่มันจพถูกเปิดออกอย่างแรงจนภาพให้ห้องนี้สว่างจ้าไร้ซอกมุมให้อำพรางตัว

     "กรี๊ดดดดด!!!"

     "หนีเร็ว!!"

     "ฮะ!?"

     "พวกมันมากันแล้ว!!"

     เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้นทั่วทุกสารทิศ  ไร้ซึ่งคำตอบที่จะมอบให้แก่เธอ

     "หนี...หนีไปที่ไหน!!?"

     "ที่นี่ไม่ปลอดภัย  ทุกคนออกไปที่ประตูหลังร้านเร็วเข้า!!!"

     ยังไม่ทันได้หายใจทั่วท้อง  เธอและผู้คนอีกจำนวนหนึ่งก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน  จากตึกแห่งนั้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังป่าด้านหลัง  กว่าจะรู้ตัวอีกทีความเจ็บแปลบที่ฝ่าเท้า  ก็ทำให้เธอต้องชะงักฝีเท้าลงกะทันหัน

     "บ้าจริง!!"

     หลังจากที่ไม่ได้เดินด้วยขาทั้งสองข้างของตนมานานหลายเดือน  เมื่อได้เดินและวิ่งจึงเกือบลืมไปว่าตนนั้นไม่ได้สวมรองเท้ามาตั้งแต่แรก  เลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาจากอุ้งเท้า  ถูกแอเรียดเน่ถูลวกๆ ไปบนหญ้าผืนนุ่มราวกับพรม

     "จับพวกมันมาให้หมด!!!!"

     "เฮ!!!"

     ดวงตากลมที่เบิกโพลงหันไปมองชายในชุดเครื่องแบบสีน้ำเงิน  ที่กำลังปูพรมมาที่กลุ่มผู้อพยพของเธอพร้อมด้วยดาบเปื้อนเลือดในมือ  สัญชาตญาณแห่งความกลัวทำให้ขนในกายของเธอลุกชัน  ก่อนจะออกวิ่งตามคนอื่นๆ จนเกือบลืมความเจ็บไปชั่วขณะ

 

     แซ่ก!!  แซ่ก!

     สองขานับครึ่งร้อยวิ่งลุยดิน  ลุยหญ้า  และน้ำในลำธารเพื่อลงไปยังอุโมงค์ใต้ดินเก่าๆ  ที่ชื้นแฉะและเหม็นอับไปด้วยตะไคร่เพื่อหลบซ่อนตัว  ในตอนนี้สัญชาตญาณของทุกคนกำลังเปิดกว้าง  ท่ามกลางความเงียบและมืดสนิทที่ถูกรายล้อมไปด้วยภยันตราย  ที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ดังมัจจุราช

 

     'แย่แล้ว!!!'

     'อ๊ะ...'

     .

     .

     'เดี๋ยวก่อน!  ในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ!?'

 

     ปุ้ง!!

     เสียงที่ดังกึกก้องในหูพร้อมทั้งสิ่งประหลาดที่เธอกำลังเผชิญ  นั่นก็คือความซ่านกระสันที่จู่ๆ ก็ก่อตัวขึ้น  ราวกับเลือดอันร้อนระอุภายในกายกำลังไหลเวียนลงไปรวมอยู่ ณ จุดเดียว

     "แย่แล้วแม่หนู...หู...หูของเธอ!?"

     แอเรียดเน่รีบยกมือขึ้นลูบสะเปะสะปะบนหูของตน  และไปสะดุดอยู่ที่ขนอ่อนของนกที่งอกขึ้นมาเป็นแพหลังใบหูทั้งสองข้าง  ซึ่งตอนนี้เธอก็ได้กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนไปเสียแล้ว

     "เก็บหูของเธอลงซะ  เธอจะทำให้เราซวยกันหมด!"

     "ฉะ...ฉันทำไม่เป็น!!?"

     "อะไร!?"

     "เธอว่า ไม่เคยเป็นมาก่อน!?"

     "พูดบ้าอะไร  ยัยนกบ้านี่!!!"

     เสียงพิพาทที่เริ่มกลายเป็นกร่นด่าดังขึ้นไม่หยุด  ทำให้หญิงชราที่เอ่ยทักเธอขึ้นมาเป็นคนแรก  รีบฉุดแขนของแอเรียดเน่ขึ้นและพาเดินฝ่ากลุ่มคนเหล่านั้น  ไปยังแสงสว่างอีกฟากของอุโมงค์แห่งนี้  พร้อมด้วยเสียงพึมพำที่ดังขึ้นไม่หยุด

     "เธอต้องซ่อนตัว  ต้องหาที่ที่ปลอดภัย.."

     ร่างบอบบางที่กำลังเดินลุยน้ำเย็นเฉียบ  พยายามหาวิธีสะกดอารมณ์ของตนไว้อย่างเต็มกำลังแต่ก็ไม่สำเร็จ  และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนควรต้องจัดการกับมันอย่างไร

     "กรี๊ดดดดด!!!"

     เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและการต่อสู้  ที่รุกเข้ามายังหน้าอุโมงค์อย่างดุเดือด  ดังไล่หลังพวกเธอทั้งสองเข้ามาจนต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิม

     "รีบไป  รีบวิ่งลงน้ำไปให้ลึกที่สุด!!!"

     พร้อมกับผลักแผ่นหลังของแอเรียดเน่ให้รีบวิ่งไป  ในขณะที่ตัวของหญิงชรานั้นทรุดลงกับพื้นด้วยความเหนื่อยหอบ

     "แล้วคุณยายล่ะคะ!?"

     "ไป!  แล้วอย่าหันหลังกลับมาอีก!!"

     แอเรียดเน่ที่ไม่อาจพยุงร่างของหญิงชราให้วิ่งตามไหว  เธอก็ถูกผลักจนเกือบล้มและทำเพียงแค่วิ่งจากมา  ด้วยความรู้สึกผิดอย่างสุดหัวใจ

     "ไป  กรี๊ดดดดด!!!!"

     เสียงที่กรีดร้องอย่างแสนทรมาน  ดังกรีดแทงหัวใจของเธออย่างรุนแรง  จนน้ำตามากมายพรั่งพรูออกมา 

 

     'นี่มัน...'

     'เรื่องบ้าอะไรเนี่ย?!!!'

 

     สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้ก็คืออย่าหันหลังกลับไป  และทำตามคำแนะนำของคุณยายผู้เสียสละคนนั้น

 

     แอ๊ดดดด~

     ปึง!!!

     เรกูลัสที่เพิ่งกลับเข้ามาที่ร้านไม้หลังเก่าของตนมือเปล่า  ก็ถึงกับพ่นลมหายใจหนักหน่วงเมื่อตอนนี้ภายในร้านมีสภาพพังยับเยินจนแทบดูไม่ได้  แต่เขาและเพื่อก็ไม่ยอมละทิ้งมันไปเสียที  และทำได้เพียงเดินไปเก็บข้าวของที่พอจะมีค่า  มาวางไว้บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยฝุ่น  แต่เพียงไม่นานประตูไม้ที่เหลือเพียงครึ่งบานก็ถูกเปิดออก

     "สภาพดูไม่จืดเลยแฮะ"

     "มาช้านะ"

     เรกูลัสเอ่ยตำหนิโดยไม่แม้แต่จะปรายตามองผู้มาใหม่ทั้งสอง  แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจที่ถูกละเลยแต่อย่างใด

     "ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นฟื้นหรือยัง?"

     "เธอหนีไปแล้ว"

     "วะ...ว่าไงนะ!!!?"

 

     15 นาทีต่อมา

     ความเจ็บแปล๊บที่เริ่มสำแดงฤทธิ์ทุกวินาทีที่ฝ่าเท้าบอบบางเหยียบลงไปบนพื้นดิน  แอเรียดเน่วิ่งพร้อมทั้งปาดน้ำตาเพื่อมุ่งหน้าเข้าไปในป่าที่รกชัฏ  เพื่อหาแหล่งน้ำที่ใกล้ที่สุดด้วยประสาทสัมผัสทุกส่วน  ที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายในร่างกายที่แสนอัศจรรย์ของตน

 

     'กลิ่นนี้...'

     'ความเย็นชื้นแบบนี้มัน...'

 

     อีกเพียงไม่กี่สิบเมตรที่จมูกของเธอสัมผัสได้ถึงไอความเย็นจากผืนน้ำ  จนเผลอเร่งฝีเท้าขึ้นเพื่อให้ถึงจุดหมายโดยเร็วที่สุด     

 

     พรืดดด

     "เหวอ!~"

     ส่งผลให้เท้าเปลือยเปล่าทั้งสองข้างลื่นไถลขอบบึง  จนทำให้ตกลงไปในน้ำที่เย็นเฉียบโดยไม่ทันตั้งตัว

 

     จ๋อม~

     ระลอกน้ำที่ไหวกระเพื่อมตีวงกว้าง  เมื่อเธอพยายามวักน้ำเพื่อพาตัวเองลงไปให้ลึกมากที่สุด  แต่ไม่ว่าจะลุยไปถึงกลางบึงจนโคลนตมขุ่นคลั่กขึ้นมา  ก็ไม่มีทีท่าว่าน้ำจะสูงพ้นเข่าของเธอเลย

 

     'ทำยังไงดีล่ะ!!!?'

 

     "นังผู้หญิงอีกคนมันอยู่ตรงนั้น!!!"

     "ซะ...ซวยแล้ว!"

     "ไปจับมันมาให้ได้  แบบเป็นเป็น!!!"

     เพราะมัวแต่สนใจสิ่งตรงหน้า  จนทำให้เสียงน้ำกลบเสียงฝีเท้าของทหารกลุ่มนี้ไปจนหมด  แอเรียดเน่ที่จนหนทางพยายามหอบอุ้มชายกระโปรงที่ยาวรุงรังขึ้น  และออกวิ่งลุยบึงน้ำที่ตื้นเขินกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง

 

     'ถ้าถูกจับได้  ต้องโดนฆ่าตายแน่ๆ'

 

     พลั่กกก!!!

     "อ๊ะ!!!"

     ร่างสูงใหญ่ที่ทะยานออกมาจากพุ่มไม้หนาทึบ  พุ่งมาขวางหน้าด้วยความเร็วและเข้าปะทะร่างของแอเรียดเน่  จนล้มหงายหลังลงบนพื้นอย่างแรง

 

     'นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน...กรี๊ดดด!!!!'     

 

     ความจุกที่ลิ้นปี่จากแรงกระแทกเมื่อครู่  แม้แต่เสียงที่จะกรีดร้องออกมายังดังเพียงแค่ในใจ 

     "เอาสิ~  วิ่งๆ เข้าไป"

     และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าม้าสีน้ำตาลตัวใหญ่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าดูดุร้าย  แต่ไม่ได้น่าหวั่นกลัวเท่ากับน้ำเสียงแหบพร่าเพราะความกระหาย  และสายตาที่มองมาจากชายหน้าเหี้ยมบนหลังของมัน

     "จับตัว...ได้แล้ว~"

 

     To be contnued...

เนื้อหาโดย: neptheduck
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
neptheduck's profile


โพสท์โดย: neptheduck
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: neptheduck
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ช็อกแป๊บ! เจอ 'หลวงพี่เท่งตัวจริง' เดินบิณฑบาต คนถามหนังหรือชีวิตจริง"ตำรวจ ตามรวบจนครบ 3 โจ๋เหิมเกริม ใช้มีดฟันคู่อริ กลางสถานี BTS5 เทคนิคเพิ่ม Productivity ที่ช่วยให้คุณทำงานสำเร็จเร็วขึ้น1 ใน 8 ของนักเรียนร.ร.รัฐในนิวยอร์ก'ไร้บ้าน'!อันตราย! คนจีนจ้างแพ็คอาหารเสริมปลอม ขายผ่านออนไลน์ในไทย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
"ลิลลี่ เหงียน" สวนกลับ "ปู มัณฑนา"..อย่าลืมเอาเงินมาคืนกะxsี่ผู้มีพระคุณด้วยเงินดิจิทัลเฟส 3 คนทั่วไป เงินเข้าเมื่อไหร่ ได้เงินสดไหม วิธีเช็กสถานะทางรัฐอีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"หวังเซียนเฉา นักการทูตผู้ยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ถัง‘ขนม ศศิกานต์’ เลิก ‘ครูเต้ย อภิวัฒน์’ ทั้งที่เพิ่งคลอดลูก คนที่ 2 จากกันด้วยดี ไม่มีมือที่ 3
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก ประสบการณ์ นิยาย 18++
เด็กสมัยนี้ทำไมมีแฟนเร็ว?เจมส์จิรายุ ขอแฟนสาวแต่งงานแย้วน้าาาภรรยาสาวของผมเป็นสาวออฟฟิศระเริงกาม(Y)(นิยาย)การผจญภัยของเอลฟ์หนุ่ม
ตั้งกระทู้ใหม่