❇️ มะลิ ❇️ รักษาโรคได้ รู้ยัง❗
ปัจจุบันคนหันมาหาพืชสมุนไพรกันมากขึ้นแต่มีพืชชนิดหนึ่งที่เธอหลายคนมองข้ามนั่นก็คือ " ดอกมะลิ " มะลิมีสรรพคุณทางยาหลายประการวันนี้เราพาท่านมารู้จักกับดอกมะลิกันครับ
มะลิ เป็นไม้พุ่มหรือไม้เถาในวงศ์มะลิ มีประมาณ 200 ชนิด มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนในแถบทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ลักษณะดอกและกลิ่นมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิดหรือพันธุ์ มะลิมีทั้งชนิดไม้ผลัดใบและไม้ไม่ผลัดใบที่ลำต้นตั้งตรงหรือกางออก หรือเป็นไม้พุ่มและไม้เถา ใบเรียงใบแบบตรงข้ามหรือเรียงใบแบบสลับ สามารถเป็นใบเดี่ยว มีสามใบ หรือเป็นแบบขนนก ดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 2.5 ซm (0.98 in) มีสีขาวหรือเหลือง บางชนิดมีสีแดงเรื่อ ดอกแบบช่อกระจุก หนึ่งกระจุกมีอย่างน้อยสามดอก บางชนิดเป็นดอกเดี่ยวที่ปลายแขนง แต่ละดอกมี 4 - 9 กลีบดอก มี 2 ช่อง และ 1 - 4 ออวุล มีเกสรเพศผู้ที่มีก้านชูอับเรณูสั้นๆ 2 เกสร ใบประดับรูปแถบหรือรูปไข่ วงกลีบเลี้ยงรูประฆัง ดอกมีกลิ่นหอม ผลแบบเบอร์รี เปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสุก
การกระจายพันธุ์และถิ่นอาศัย
มะลิมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนในพื้นที่ทวีปเอเชีย, ทวีปแอฟริกา, และออสตราเลเซีย มีประมาณ 200 ชนิด มีเพียงชนิดเดียวที่มีถิ่นกำเนิดในยุโรป มีศูนย์กลางความหลากหลายในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แม้ว่าจะไม่มีถิ่นกำเนิดในยุโรป มะลิหลายชนิดได้ปรับตัวกลายเป็นพืชพื้นถิ่นในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น มะลิสเปน (Jasminum grandiflorum) ที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอิหร่านและทางตะวันตกของเอเชียใต้ และปัจจุบันได้กลายเป็นพืชท้องถิ่นในคาบสมุทรไอบีเรีย
Jasminum fluminense (บางครั้งถูกเข้าใจผิดเป็นมะลิบราซิล) และ Jasminum dichotomum (Gold Coast Jasmine) เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานในรัฐฮาวายและรัฐฟลอริดา Jasminum polyanthum เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานในประเทศออสเตรเลียเช่นกัน
สายพันธุ์มะลินิยมปลูก
มะลิซ้อน (Grand Duke of Tuscany หรือ Rose Jasmine) ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า J. sambac (L.) Aiton ‘Grand Duke of Tuscany’ เป็นมะลิที่มีกลิ่นหอมแรงที่สุด ลำต้นเป็นไม้เลื้อย ใบรูปไข่หรือรูปรี ออกดอกแบบกระจุก ดอกมีกลีบดอกจำนวนมากซ้อนกันมากกว่า 5 ชั้น แต่ละชั้นมีกลีบดอก 10 กลีบขึ้นไป เมื่อบานแล้วกลีบดอกตรงกลางจะไม่ห่อติดกัน ความกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร
มะลิลา (Arabian Jasmine) ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum sambac (L.) Ait. ‘Mali La’ ลักษณะทั่วไปคล้ายกับมะลิซ้อน แต่กลิ่นอ่อนกว่า ลำต้นเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ความสูงไม่เกิน 3 เมตร ใบรีป้อม ออกดอกเป็นช่อแบบกระจุก กลีบดอกสีขาวมีเพียง 1-2 ชั้น โคนกลีบเกยกันเล็กน้อยและดอกร่วงง่าย
มะลิหลวง (Jasminum laurifolium Roxb. Var.nitidum (Skan) P.S.Green) พรรณไม้นำเข้า เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบรูปหอกหนา ผิวใบเรียบเป็นมันวาว กลีบดอกยาวคล้ายมะลิวัลย์ แต่มะลิหลวงจะมีกลีบดอกใหญ่กว่า เมื่อตูมจะมีกลีบดอกสีขาวปนม่วง
มะลิวัลย์ (Maliwan หรือ Angel-hair Jasmine) มีอีกชื่อหนึ่งว่า มะลิป่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum adenophyllum Wall. ex C.B. Clarke จัดอยู่ในกลุ่มไม้เลื้อย ลำต้นหรือเถามีขนาดเล็กผิวเกลี้ยงสีน้ำตาลอ่อน ใบรูปมนรี บางแต่แข็ง โคนมน ปลายแหลม แต่เป็นใบคู่ ออกดอกเป็นช่อ ช่อละ 3-6 ดอก เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาด 2.5 เซนติเมตร กลีบดอกยาวและส่งกลิ่นได้ไกล และสามารถออกได้ตลอดทั้งปี
มะลิพวง หรือ มะลุลี มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum multiflorum (Burm.f.) Andr. เป็นมะลิสายพันธุ์พื้นเมือง ลำต้นเป็นไม้เลื้อยปกคลุมด้วยขนนุ่มอ่อน ใบรูปขอบขนานแกมใบรูปหอก ออกดอกเป็นช่อแบบกระจุก กลีบดอกสีขาว ปลายกลีบมน แต่ละช่อมี 3 ดอก และมีดอกซ้อน 3-4 ชั้น
มะลิฉัตร (Mali Chat) หรือ มะลิฉัตรพิกุล มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Jasminum sambac (L.) Ait. ‘Mali Chat Phikun’ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบรูปรี มีทั้งแบบดอกเดี่ยวและช่อดอกแบบช่อกระจุก กลีบดอกมีหลายชั้นคล้ายมะลิซ้อน แต่กลีบดอกมะลิฉัตรจะมีปลายแหลมขนาดเล็ก เรียงเป็นชั้นประมาณ 3-5 ชั้น กลีบดอกแต่ละชั้นสามารถดึงแยกออกจากกันได้ จึงมีบางพื้นที่เรียกว่า มะลิถอด จัดเป็นมะลิพันธุ์หายากและมีวิธีดูแลรักษาแตกต่างจากมะลิทั่วไป เหมาะสำหรับปลูกในที่ร่มรำไรมากกว่าที่แจ้งมีแสงแดดจัด
การขยายพันธุ์ที่นิยมกันมากที่สุดคือ การปักชำ
1. เตรียมวัสดุเพาะชำ ทรายผสมขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1 บรรจุในภาชนะ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
2. เตรียมกิ่งพันธุ์ กิ่งที่ใช้เป็นกิ่งกึ่งแก่กึ่งอ่อน ตัดให้มีความยาวของกิ่ง 4 นิ้ว หรือมีข้ออย่างน้อย 3 ข้อ การตัดกิ่งควรตัดให้ชิดข้อ ลิดใบส่วนล่างออก
3. นำกิ่งมะลิปักชำลงในแปลงชำ ให้มีระยะระหว่างแถวและกิ่ง 2x2 นิ้ว รดน้ำและสารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา รักษาความชื้นให้เหมาะสมและคงที่
4. หลังจากกิ่งปักชำออกรากแล้วให้ย้ายลงปลูกในถุงขนาด 2x3 นิ้ว โดยใส่ดิน+ขุยมะพร้าว+ปุ๋ยคอก อัตรา 3:1:1 จนต้นมะลิแข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูก
การปลูกต้นมะลิในกระถาง
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 8-14 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วน อัตรา 1:1:1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้ง เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
การปลูกต้นมะลิลงดินในแปลงปลูก
การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน โบราณนิยมปลูกบริเวณทางเข้าหน้าบ้าน เพื่อเป็นเสน่ห์แก่บ้าน ขนาดหลุมปลูก 30x30x30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วน อัตรา 1:1 ผสมดินปลูก
การดูแลรักษาต้นมะลิ
- แสงแดด : ต้องการแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง
- การให้น้ำ : ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 2-7 วัน/ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ อาจจะเพิ่มปริมาณน้ำในช่วงฤดูร้อน และควรรดในตอนเช้า ระวังอย่าให้ดินแฉะ เพราะอาจทำให้ต้นแคระแกร็น ใบเหลือง และตายได้
- ดิน : ชอบดินร่วนซุย มีความชุ่มชื้นปานกลาง ระบายน้ำได้ดี
- การใส่ปุ๋ย : ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 200-300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
- การตัดแต่ง : ควรตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง รวมทั้งตัดกิ่งที่แห้งตายออกด้วย เพื่อลดโรคและแมลง
- การเก็บเกี่ยว : เก็บดอกตูมที่โตเต็มที่ สีขาวนวล วิธีเก็บให้ใช้มือเด็ดตรงก้านดอกใต้กลีบเลี้ยง ควรเก็บดอกเวลาเช้ามืด 03.00-04.00 น.
สรรพคุณของต้นมะลิ
ประโยชน์ทางสมุนไพรของมะลิมีแทบทุกส่วนเลยก็ว่าได้ ไล่กันไปตั้งแต่รากเรื่อยไปจนถึงดอกทีเดียว ดังนี้
ราก : ใช้แก้ได้สารพัดโรค ทั้งปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งช่วยรักษาหลอดลมอักเสบได้ด้วย หากนำรากมาฝนกินกับน้ำ แก้ร้อนในได้ดี คนที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอก ให้นำรากมาประมาณ 1-1.5 กรัม ต้มน้ำกินก็ช่วยได้
ใบ : ใช้แก้ไข้ที่เกิดจากอาการเปลี่ยนแปลงได้ดี รวมทั้งรักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย หากนำใบมาตำแล้วละลายกับน้ำปูนใส แต้มแผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง โรคผิวหนังจะหายไวขึ้น ตลอดจนช่วยบำรุงสายตา และขับน้ำนมสตรีที่มีครรภ์ได้ด้วย
ดอก : ดอกมะลินอกจากความสวยและความหอมแล้ว ยังแก้โรคบิด อาการปวดท้อง หากตำให้ละเอียดพอกที่ขมับ แก้อาการปวดหัวและปวดหูชั้นกลางได้ แถมยังช่วยรักษาแผลพุพอง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย รวมทั้งเป็นยาบำรุงหัวใจได้อย่างดีเยี่ยมอีกขนานหนึ่งด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับคุณนะประโยชน์ของดอกมะลิมีมากมายเลยทีเดียวเชียวใช่ไหมครับเราหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อยหากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถมาแชร์กันไว้ได้ที่ใต้คอมเม้นเลยนะครับ