ความต่างระหว่าง “ฝุ่น PM2.5” VS “หมอก” คล้ายกันจนแทบแยกไม่ออก
ลักษณะของ"หมอก"
หมอก (Fog) เกิดจากไอน้ำที่ควบแน่นเป็นละอองน้ำเล็กๆ เทียบง่ายๆ หมอกก็คือเมฆแต่เป็นเมฆที่เกิดขึ้นใกล้ผิวโลกมาก ก็เลยยังมีการกระจายตัว เราเลยเรียกว่าหมอก ถ้าการควบแน่นนี้เกิดขึ้นสูงจากผิวโลกจะกลายเป็นเมฆที่จับตัวกันเป็นก้อน แต่นอกจากหมอกละอองน้ำแล้ว ในบรรยากาศของเราก็จะมีสิ่งอื่นเกิดขึ้นที่ลักษณะคล้ายๆ หมอกอีก เช่น ควัน (Smoke) หรือ ฝุ่น (Dust) เป็นต้น
ลักษณะของ"ฝุ่น PM2.5"
ฝุ่น PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เป็นฝุ่นที่เกิดจากการเผาไหม้ ทั้งจากยานพาหนะ เผาทางการเกษตร ไฟป่า การเผาไหม้ในกระบวนการอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งการที่มีขนาดเล็กมากแบบนี้ ทำให้ฝุ่นนี้สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจและโรคปอดต่างๆ ทำให้การทำงานของปอดประสิทธิภาพลง อาจะทำให้หลอดลมอักเสบ หรือมีอาการหอบหืดได้ โดยเราจะไม่เห็นเป็นตัวฝุ่นเม็ดๆ เพราะมีขนาดเล็กมาก แต่เราจะเห็นในลักษณ์คล้ายๆ กับหมอก ที่แทบแยกไม่ออกเลยว่า นี่ฝุ่นหรือหมอกกันแน่
ความรู้สึกเมื่อสัมผัสหมอกกับฝุ่น PM2.5 จะแตกต่างกัน ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับร่างกายมาก แต่ถ้าผ่านไปสัก 15-20 นาที จะเริ่มรับรู้ได้แล้วว่าที่เราสัมผัสเป็นหมอกหรือฝุ่น PM2.5 ถ้าเป็นหมอกจะให้ความรู้สึกเย็นๆ จากละอองน้ำ ถ้าหมอกหนามากๆ อาจเกิดหยดน้ำบริเวณศีรษะได้
แต่ถ้าเป็นฝุ่น PM2.5 เมื่อสูดเข้าไปสักพักจะเกิดอาการคันคอ รู้สึกหายใจแปลกๆ ไม่ค่อยสะดวก บางรายอาจรู้สึกหิวน้ำเพราะคอแห้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่าเลยว่าที่เห็นคือหมอกหรือฝุ่น PM2.5 สิ่งที่ช่วยได้คือการโหลด Application เพื่อเช็กค่า AQI ถ้าสูงเกิน 100 ควรหาหน้ากากมาใส่ทันทีเพื่อลดอันตรายที่ฝุ่นจะเข้าสู่ปอดของเรา