❗7 พืชกินเนื้อ❗ สวย น่ารัก สร้างรายได้ดี💸💸
ในโลกใบนี้เราเคยเห็นสัตว์กินเนื้อกันแล้วซึ้งมีมากมายหลายชนิด แล้วรู้หรือไม่ว่ายังมีพืชที่กินเนื้อเป็นอาหารด้าย ซึ้งบางชนิดยังสามารถปลูกและเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพที่สามรถสร้างรายได้กันเป็นกอบเป็นำกเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จัก " 7 สายพัน์ุพืชกินเนื้อ " กัน
1. หม้อข้าวหม้อแกงลิง
หม้อข้าวหม้อแกงลิง (Nepenthes) คือ ไม้กินแมลงชนิดหนึ่งที่มีใบพัฒนามาเป็นกับดักเพื่อใช้ในการดักจับแมลง ซึ่งหม้อข้าวหม้อแกงลิงส่วนใหญ่มักจะมีการกระจายตัวในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนั้นยังมีการกระจายตัวไปถึงทางตะวันออกของอินเดีย ศรีลังกา มาดากัสการ์ หมู่เกาะ Seychelles ทางตอนใต้ของจีน และทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันมีการรวบรวมสายพันธ์แท้ทั่วโลกได้มากถึง 100 กว่าชนิด
หม้อข้าวหม้อแกงลิงสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามระดับความสูงของน้ำทะเล ดังนี้
ี้กลุ่มที่หนึ่ง กลุ่ม Lowland
เป็นสายพันธุ์ที่สามารถพบได้ที่ระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 0 – 1000 เมตร ซึ่งไม้ในกลุ่มนี้สามารถเลี้ยงได้ในสภาพอากาศแบบบ้านเรา กลุ่มนี้มีประมาณ 40 กว่าสายพันธุ์ เช่น N.albomarginata, N.ampullaria, N.gracilis, N.northiana, N.mirabilis, N.truncata เป็นต้น ไม้กลุ่มนี้พบได้ในป่าพรุและพื้นที่สภาพดินขาดธาตุอาหาร หรือป่าเสื่อมโทรม
กลุ่มที่สอง กลุ่ม Highland
เป็นสายพันธุ์ที่สามารถพบได้ที่ระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1000 เมตรขึ้นไป ซึ่งไม้กลุ่มนี้มีความต้องการความชื้นค่อนข้างสูง และสภาพอากาศต้องค่อนข้างเย็นยากต่อการเลี้ยงในสภาพอากาศแบบบ้านเรา แต่บางชนิดอาจสามารถปรับตัวจนเติบโตได้แต่ขนาดของหม้ออาจจะไม่ใหญ่เหมือนกับการเลี้ยงในสภาพ Highland กลุ่มนี้มีมากกว่า 60 ชนิด เช่น N.aristolochioides, N.burbidgeae, N.glabrata, N.glandulifera, N.rajah, N.sibuyanensis, N.spectabilis, N.villosa เป็นต้น
2. ลิลลี่งูเห่า
ลิลลี่งูเห่า (Cobra Lilly ) เป็นพืชกินแมลงกลุ่มเดียวกับซาราซีเนียและ Heliamphora มีชื่อเสียงในแง่ของความแปลกประหลาด น่าพิศวงและสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
แต่ขณะเดียวกันก็มีชื่อด้านตรงข้ามในแง่ของความบอบบางจนกล่าวกันว่าลิลลี่งูเห่าเป็นพืชกินแมลงที่เลี้ยงยากที่สุดในโลก
แม้แต่ในถิ่นที่ลิลลี่งูเห่ากำเนิดเป็นดงใหญ่ ชาวบ้านในละแวกนั้น ขุดมาใส่กระถางก็ยังตาย จนถือกันเป็นมาตรฐานในกลุ่มผู้รักพืชกินแมลงว่า ใครที่เลี้ยงลิลลี่งูเห่าสำเร็จ แข็งแรง งดงามดีจะได้รับการยกย่องว่าเป็นเซียน เพราะมีคนไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถเลี้ยงลิลลี่งูเห่าไว้ในกระถางได้
สายพันธุ์
เดิมลิลลี่งูเห่ามีเพียงสายพันธุ์เดียวคือ Darlingtonia californica
มันเป็นพืชที่โตช้า หลังจากที่เมล็ดตกลงพื้น 2 ปี
จึงจะเริ่มโตเป็นต้นเล็กๆ
และอีกหลายปีจึงจะเริ่มออกดอกและจะโตเต็มที่จะต้องใช้เวลาถึง 7-8 ปี
แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ นักปรับปรุงสายพันธุ์พืชของเนอเซอรี Meyers-Rice
สามารถผลิตลิลลี่งูเห่าชนิดใหม่ที่แปลกประหลาดได้ในปี ค.ศ. 1997
คือทำให้เนื่อเยื่อของมันไม่มีการสร้างเม็ดสีจำพวก Anthocyanins
(ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำให้พืชมีสีแดงถึงฟ้า)
ดังนั้นเมื่อสายพันธุ์ใหม่นี้ไม่มี Anthocyanins
มันจึงให้สีเหลืองทองบริสุทธิ์
กรวยมีตั้งแต่เขียวบริสุทธิ์ถึงเหลืองบริสุทธิ์
สายพันธุ์ย่อยที่มนุษย์สร้างขึ้น (Cultivar) ผู้ผลิตตั้งชื่อมันว่า
Darlingtonia californica “Othello” และได้จดทะเบียนไว้กับสมาคมไม้กินแมลง
ICPS ในปี ค.ศ. 1998
3. ซาราซีเนีย
ซาราซีเนีย (Sarracenia) เป็นสกุลของพืชกินสัตว์ มีถิ่นกำเนิดแถบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก รัฐเท็กซัส บริเวณเกรตเลกส์ และตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศแคนาดา ซึ่งสปีชีส์ส่วนใหญ่จะอยู่ในทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
ใบของพืชในสกุลนี้ จะมีการวิวัฒนาการเป็นรูปหลอดเพื่อที่จะดักจับแมลงและย่อยเหยื่อของมันด้วยน้ำย่อยโปรตีนและเอนไซม์อื่นๆ
แมลงจะถูกดึงดูดด้วยน้ำคัดหลั่งอย่างน้ำต้อยที่อยู่บนขอบของหม้อ รวมถึงสีสันและกลิ่น เมื่อเหยื่อพลัดตกลงไปในหม้อจะตายและถูกย่อยกลายเป็นแหล่งธาตุอาหารสำหรับพืช
สายพันธุ์ของซาราซีเนีย
(1) Sarracenia alata
(2) Sarracenia flava (ต้นสูง อาจสูงได้ถึง 1 เมตร)
(3) Sarracenia leucophylla (ต้นสูง อาจสูงได้ถึง 1 เมตร กรวยยาวและตั้งตรง)
(4) Sarracenia minor
(5) Sarracenia oreophila
(6) Sarracenia purpurea (กรวยเอนขนานนอนไปกับพื้น)
(7) Sarracenia psittacina (ชื่อที่มักเรียกกันคือ "ปากนกแก้ว" ต้นเตี้ย เป็นสายพันธุ์ยอดนิยมในบ้านเรา)
(8) Sarracenia rubra
4. สนหยาดน้ำค้างโปตุเกส
สนน้ำค้างโปรตุเกส (Drosophyllum) เป็นพืชกินแมลงชนิดหนึ่ง มีคุณลักษณะใกล้เคียงกับ "หยาดน้ำค้าง" (Sundew) โดยจะแตกต่างกันที่ สนน้ำค้างโปรตุเกสไม่เคลื่อนไหว ใบของมันไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือเติบโตได้
สนน้ำค้างโปรตุเกสเติบโตใกล้กับทะเลทราย ต่างจากพืชกินสัตว์ส่วนใหญที่จะเติบโตในหนองบึงหรือพื้นที่เขตร้อนชื้น
5.โรริดูลา
โรริดูลาRoridula ( / R ɒ R ɪ ดีเจʊ ลิตรə / ; มาจากภาษาละติน roridus "สดชื่น") เป็นสกุลของป่าดิบแมลงดักพุ่มไม้สองชนิดประมาณ1⅓-2 เมตร (4-6⅔ฟุต) มันเป็นประเภทเดียวในครอบครัวRoridulaceae มีลำต้นบาง เป็นไม้ แตกกิ่งอย่างเขินอาย ตั้งตรง ตอนแรกมีสีน้ำตาล ต่อมาเป็นลำต้นสีเทา มีใบรูปใบหอกถึงปลายใบแหลม ดาวสมมาตรดอกไม้ประกอบด้วยจากภายนอกในห้า, สีเขียวหรือสีแดง, ฟรีกลีบเลี้ยงสลับกับห้าสีขาว, สีชมพูหรือสีม่วง, ฟรีกลีบ.
ไกลออกไปตรงกลางและตรงข้ามกับกลีบเลี้ยงมีเกสรตัวผู้ห้าตัวโดยที่อับเรณูจะงอในตอนแรก สิ่งเหล่านี้พลิกขึ้นทันทีหากสัมผัสน้ำหวานที่มีอาการบวมที่ฐาน ศูนย์ของดอกไม้ที่ถูกครอบครองโดยรังไข่ที่เหนือกว่า ใบและกลีบเลี้ยงมีหนวดเหนียวหลายขนาดที่ดักจับแมลง Roridulaไม่ทำลายโปรตีนแมลงแต่แมลงในสกุลPameridea เป็นเหยื่อของแมลงที่ติดอยู่ สิ่งเหล่านี้จะฝากอุจจาระไว้บนใบซึ่งรับสารอาหารจากมูล สายพันธุ์นี้สามารถพบได้ในจังหวัดเวสเทิร์นเคปของแอฟริกาใต้ พวกมันเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในภาษาอังกฤษว่าdewstickหรือfly bushและvlieëbosหรือvlieëbossieในภาษาแอฟริคานส์
6. บัตเตอร์เวิร์ตส์ หรือ พิงกุย
บัตเตอร์เวิร์ตส์ เป็นที่รู้จักกันในไทยว่า พิงกุย หรือ พิงกุยคูล่า มีลักษณะคล้ายกลีบกุหลาบสีเขียวบานน่าหลงใหล หากเรามองจากภายนอกพืชชนิดนี้ดูไม่มีพิษภัย แต่ความจริงแล้วความสวยงามดั่งกลีบกุหลาบของบัตเตอร์เวิร์ตส์เป็นกับดักคอยโจมตีเหยื่อ ‘ สวยพิฆาต ’ เป็นฉายาที่เหล่านัก
พฤกษศาสตร์ได้ใช้เรียกบัตเตอร์เวิร์ตส์ พืชสกุลนี้เป็นพืชกินแมลงที่มีวิธีการจับเหยื่อคล้ายกับต้นหยาดน้ำค้าง ตามบริเวณใบของพิงกุยจะเต็มไปด้วยต่อมเล็กๆที่คอยเป็นประสาทสัมผัสรับรู้เมื่อมีเหยื่อมาติดกับดัก หลังจากนั้นต่อมจะผลิตเมือกเหนียวออกมาเพื่อไม่ให้เหยื่อสามารถหนีรอดไปได้ เหยื่อจะถูกย่อยด้วยเอนไซม์และกลายเป็นอาหารให้บัตเตอร์เวิร์ตส์ในที่สุด
7. กาบหอยแครง
กาบหอยแครงหรือ DIONAEA MUSCI-PULA เป็นพืชกินแมลง ในกลุ่มเดียวกับต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง และไปป์ เป็นพืชกินแมลงที่พัฒนาส่วนปลายใบให้มีลักษณะกาบ 2 ฝาสมมาตรในแนวก้านใบ สามารถจับแมลงเหยื่อโดยการรับสัมผัสด้วยกระเดื่องขนขนาดเล็ก (tiny hairs) จำนวน 3 คู่บริเวณด้านในของกาบใบทั้ง 2 ข้าง แมลงเหยื่อจะถูกงับด้วยกาบทั้ง 2 ข้าง
ภายในเวลาเสี้ยววินาที พร้อมกับแผงหนาม (cilia) บริเวณขอบกาบใบทำหน้าที่กรงป้องกันการหนี หากแมลงเหยื่อหนีไปได้กาบใบจะเปิดอีกครั้งภายในเวลา 12 ชั่งโมง กาบหอยแครงพบในสภาพแวดล้อมที่มีไนโตเจนต่ำ เช่น หนองน้ำ หรือทุ่งหญ้าสะวันนาที่เปียกชื้น กาบหอยแครงมีต้นเตี้ย โตช้า ทนไฟได้ดีและการเผาไหม้จากไฟป่าเป็นระยะถือเป็นการช่วยกำจัดคู่แข่งของมัน กาบหอยแครงรอดได้เพราะขึ้นในดินทราบที่เปียกชื้นและถ่านหินเลน ถิ่นกำเนิดของกาบหอยแครงพบในรัฐนอร์ทแคโรไลนา และรัฐเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา
เป็นอย่างไรบ้างคับกับ " 7 พืชกินเนื้อกินแมลง " ที่นำมาให้รู้จักกัน มีพันธุ์ไหนเป็นที่สนใจกันบ้างมั้ยคับ หรือมีพันธุ์ไหนที่ท่านผูอ่านปลูกหรือเคยปลูกมาแชร์ประสบการณ์ไว้ใต้คอมเม้นได้เลยนะคับ