Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

🇹🇭ใครเป็นคนให้กำเนิด🏆กีฬาฟุตบอล⚽

โพสท์โดย ote1986

เราคงปฏิเสธหรือไม่ต้องสงสัยกันเลยว่า ฟุตบอล คือกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยในศึกฟุตบอลโลกที่มีผู้ชมหลายร้อยล้านคนทั่วโลก เป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนี้ได้ดี ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เข้าถึงง่าย คุณสามารถเล่นได้บนถนนหรือสวนหลังบ้าน เล่นได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง หรือแม้แต่ที่ชายหาด ขอแค่คุณมีลูกฟุตบอลและโกลเท่านั้น
ฟุตบอลเป็นการเล่นของมนุษย์มานานมากแล้ว อย่างที่หลายคนรู้ว่าเรารู้จักกีฬาเตะลูกหนังมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 วันนี้เราจะพูดถึงประวัติและการถือกำเนิดกีฬาฟุตบอลกัน

ผู้คิดค้นและการกำเนิดกีฬาฟุตบอล


ฟุตบอลที่เรารู้จักในปัจจุบัน หรือที่ถูกเรียกว่าสมาคมฟุตบอล เริ่มขึ้นในอังกฤษ โดยมีการกำหนดกติกาขึ้นโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษในปี 1863 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กฏและกติกาของฟุตบอลพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ (จนปัจจุบันมีการใช้ VAR) ฟุตบอลยังคงรักษาเอกลักษณ์และจุดประสงค์โดยรวมไว้ได้เกือบทั้งหมด
ยุคหนึ่งมีเกมการแข่งขันฟุตบอลหลายรายการในอังกฤษที่แข่งโดยใช้สนามหญ้าของโรงเรียน แต่ไม่ได้มีกติกามาตรฐานใดๆ ทำให้การแข่งขันออกมาวุ่นวายและสับสน
ในแต่ละพื้นที่จะมีกติกาที่แตกต่างกัน เช่น กฏของเคมบริดจ์และกฏของเชฟฟิลด์ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้เล่น ไม่มีใครสามารถชี้ชัดได้ว่าผู้ที่กำหนดกติกาของฟุตบอล แต่ อีเบเนเซอร์ มอร์ลีย์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “บิดาของสมาคมฟุตบอลังกฤษและฟุตบอลสมัยใหม่” มอร์ลีย์ เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรบาร์นส์ และจดหมายที่เขาส่งถึงหนังสือพิมพ์ Bell's Life ก่อให้เกิดการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งได้กำหนดกติกาของฟุตบอลสมัยใหม่ขึ้น

การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ปี 1863 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนถนนเกรทควีน ในกรุงลอนดอน ซึ่งมีตัวแทนจาก 12 สโมสรเข้าร่วม และการแข่งขันฟุตบอลก็มีกฏและกติกาในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน ฟีฟ่า เป็นประธานการแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1904 (41 ปีหลังสมาคมฟุตบอลอังกฤษ) IFAB (คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ) ทำหน้าที่เป็น'ผู้พิทักษ์' กฏและกติกาต่างๆของฟุตบอล และอยู่ภายใต้การดูแลของฟีฟ่า

รูปแบบฟุตบอลก่อนหน้านี้

ในขณะที่อังกฤษภูมิใจว่าพวกเขาเป็นผู้คิดค้นฟุตบอลสมัยใหม่ แต่จริงๆแล้วฟุตบอลในรูปแบบอื่นๆได้รับการบันทึกไว้ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว อันที่จริง รูปแบบฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดถูกเรียกว่า 'cuju' ซึ่งมีการเล่นที่ประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น หรือตั้งแต่ประมาณ 206-220 ปีก่อนคริสตกาล cuju' แปลว่า 'เตะบอล' และกติกาคือการเตะลูกบอลให้เข้าประตู โดยห้ามใช้มือ ซึ่งเป็นรูปแบบและกติกาเดียวกับที่อังกฤษ
ในสมัยกรีกโบราณก็มีเกมที่คล้ายกับฟุตบอลซึ่งเรียกว่า 'เอพิสกีรอส'

เกมนี้ใช้ผู้เล่นสองฝ่ายกับลูกบอลหนึ่งลูก โดยผู้เล่นฝ่ายป้องกันได้รับอนุญาตให้ใช้มือได้ แต่เชื่อกันว่าเกมการเล่นนี้มีความรุนแรงมากกว่าฟุตบอล
ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าเกมฟุตบอลเกิดขึ้นมากมายทั่วโลกและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา โชคดีของแฟนบอลยุคปัจจุบันที่ เอฟเอและฟีฟ่า ตัดสินใจสร้างมาตรฐานขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ทุกคนทั่วโลกเพลิดเพลินกับกีฬาชนิดนี้ไปพร้อมๆกัน ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คือประวัติศาสตร์ที่สำคัญเช่นกัน

ประวัติฟุตบอลไทย ประวัติฟุตบอลในประเทศไทย
ประวัติฟุตบอลไทย กีฬาฟุตบอลในประเทศไทย ได้มีการเล่นตั้งแต่สมัย “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสิทร์ เนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ได้ส่งพระเจ้าลูกยาเธอ พระเจ้าหลานยาเธอ และข้าราชบริพารไปศึกษาวิชาการด้านต่างๆ ที่ประเทศอังกฤษ และผู้ที่นำกีฬาฟุตบอลกลับมายังประเทศไทยเป็นคนแรกคือ “เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี(สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)” หรือ ที่ประชนชาวไทยมักเรียกชื่อสั้นๆว่า “ครูเทพ” ซึ่งท่านได้แต่งเพลงกราวกีฬาที่พร้อมไปด้วยเรื่องน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง เชื่อกันว่าเพลงกราวกีฬาที่ครูเทพแต่งไว้นี้จะต้องเป็น “เพลงอมตะ” และจะต้องคงอยู่คู่ฟ้าไทย

ประวัติฟุตบอลไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2440 – 2451

เมื่อปี พ.ศ. 2454-2458 ครูเทพ หรือ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการครั้งแรก เมื่อท่านได้นำฟุตบอลเข้ามาเล่นในประเทศไทยได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆมากมาย โดยหลายคนกล่าวว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ไม่เหมาะสมกับประเทศที่มีอากาศร้อน เหมาะสมกับประเทศที่มีอากาศหนาวมากกว่า และเป็นเกมที่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่นและผู้ชมได้ง่าย ซึ่งข้อวิจารณ์ดังกล่าวถ้ามองอย่างผิวเผินอาจคล้อยตามได้ แต่ภายหลังข้อกล่าวหาดังกล่าวก็ได้ค่อยหมดไปจนกระทั่งกลายเป็น กีฬายอดนิยมที่สุดของประชาชนชาวไทยและชาวโลกทั่วทุกมุมโลก ซึ่ง วิวัฒนาการฟุตบอลไทย ดังกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลต่อไปนี้
พ.ศ. 2440 รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จนิวัติพระนคร กีฬาฟุตบอลได้รับความสนใจมากขึ้นจากบรรดาข้าราชการบรรดาครูอาจารย์ ตลอดจนชาวอังกฤษในประเทศไทยและผู้สนใจชาวไทยจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ กอร์ปกับครูเทพท่านได้เพียรพยายามปลูกฝังการเล่นฟุตบอลในโรงเรียนอย่างจริงจังและแพร่หลายมากในโอกาสต่อมา


พ.ศ. 2443 (รศ. 119) การแข่งขันฟุตบอลเป็นทางการครั้งแรกของไทยได้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2443 (รศ. 119) ณ สนามหลวง ซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกายและประกอบงานพิธีต่างๆการแข่งขันฟุตบอลคู่ประวัติศาสตร์ของไทย ระหว่าง “ชุดบางกอก” กับ “ชุดกรมศึกษาธิการ” จากกระทรวงธรรมการหรือเรียกชื่อการแข่งขันครั้งนี้ว่า “การแข่งขันฟุตบอลตามข้อบังคับของแอสโซซิเอชั่น” เพราะสมัยก่อนเรียกว่า “แอสโซซิเอชั่นฟุตบอล” (ASSOCIATIONS FOOTBALL) สมัยปัจจุบันอาจเรียกได้ว่า “การแข่งขันฟุตบอลของสมาคม” หรือ “ฟุตบอลสมาคม” ผลการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษดังกล่าวปรากฏว่า “ชุดกรมศึกษาธิการ” เสมอกับ “ชุดบางกอก” 2-2 (ครึ่งแรก 1-0) ต่อมาครูเทพท่านได้วางแผนการจัดการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนอย่างเป็นทางการพร้อมแปลกติกาฟุตบอลแบบสากลมาใช้ในการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนครั้งนี้ด้วย

พ.ศ. 2444 (รศ. 120) หนังสือวิทยาจารย์ เล่มที่ 1 ตอนที่ 7 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2444 ได้ตีพิมพ์เผยแพร่เรื่องกติกาการแข่งขันฟุตบอลสากลและการแข่งขันอย่างเป็นแบบแผนสากล
การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนครั้งแรกของประเทศไทยได้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2444 นี้ ผู้เข้าแข่งขันต้องเป็นนักเรียนชายอายุไม่เกิน 20 ปี ใช้วิธีจัดการแข่งขันแบบน็อกเอาต์ หรือแบบแพ้คัดออก (KNOCKOUT OR ELIMINATIONS) ภายใต้การดำเนินการจัดการแข่งขันของ “กรมศึกษาธิการ” สำหรับทีมชนะเลิศติดต่อกัน 3 ปี จะได้รับโล่รางวัลเป็นกรรมสิทธิ์

พ.ศ. 2448 (รศ. 124) เดือนพฤศจิกายน สามัคยาจารย์ สมาคม ได้เกิดขึ้นครั้งแรกเป็นการแข่งขันฟุตบอลของบรรดาครูและสมาชิกครู โดยใช้ชื่อว่า “ฟุตบอลสามัคยาจารย์”

พ.ศ. 2450-2452 (รศ. 126-128) ผู้ตัดสินฟุตบอลชาวอังชื่อ “มร.อี.เอส.สมิธ” อดีตนักฟุตบอลอาชีพได้มาทำการตัดสินในประเทศไทย เป็นเวลา 2 ปี ทำให้คนไทยโดยเฉพาะครู-อาจารย์ และผู้สนใจได้เรียนรู้กติกาและสิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาก
พ.ศ. 2451 (รศ. 127) มีการจัดการแข่งขัน “เตะฟุตบอลไกล” ครั้งแรก

ประวัติฟุตบอลไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2452 – 2458
พ.ศ. 2452 (รศ. 128) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสวรรคต เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2452 นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของผู้สนับสนุนฟุตบอลไทยในยุคนั้น ซึ่งต่อมาในปีนี้ กรมศึกษาธิการก็ได้ประกาศใช้วิธีการแข่งขัน “แบบพบกันหมด” (ROUND ROBIN) แทนวิธีจัดการแข่งขันแบบแพ้คัดออกสำหรับคะแนนที่ใช้นับเป็นแบบของแคนาดา (CANADIAN SYSTEM) คือ ชนะ 2 คะแนน เสมอ 1คะแนน แพ้ 0 คะแนน และยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงมีความสนพระทัยกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างยิ่งถึงกับทรงกีฬาฟุตบอลเอง และทรงตั้งทีมฟุตบอลส่วนพระองค์เองชื่อทีม “เสือป่า” และได้เสด็จพระราช ดำเนินประทับทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลเป็นพระราชกิจวัตรเสมอมา โดยเฉพาะมวยไทยพระองค์ทรงเคย ปลอมพระองค์เป็นสามัญชนขึ้นต่อยมวยไทยจนได้ฉายาว่า “พระเจ้าเสือป่า” พระองค์ท่านทรงพระปรีชาสามารถมาก จนเป็นที่ยกย่องของพสกนิกรทั่วไปจนตราบเท่าทุกวันนี้
จากพระราชกิจวัตรของพระองค์รัชกาลที่ 6 ทางด้านฟุตบอลนับได้ว่าเป็นยุคทองของไทยอย่างแท้จริงอีกทั้งยังมีการเผยแพร่ข่าวสาร หนังสือพิมพ์ และบทความต่างๆทางด้านฟุตบอลดังกำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลต่อไปนี้

พ.ศ. 2457 (รศ. 133) พระยาโอวาทวรกิจ” (แหมผลพันชิน) หรือนามปากกา “ครูทอง” ได้เขียนบทความกีฬา “เรื่องจรรยาของผู้เล่นและผู้ดูฟุตบอล” และ “คุณพระวรเวทย์ พิสิฐ” (วรเวทย์ ศิวะศริยานนท์) ได้เขียนบทความกีฬา “เรื่องการเล่นฟุตบอล” และ “พระยาพาณิชศาสตร์วิธาน” (อู๋ พรรธนะแพทย์) ได้เขียนบทความกีฬาที่ประทับใจชาวไทยอย่างยิ่ง “เรื่องอย่าสำหรับนักเลงฟุตบอล”

พ.ศ. 2458 (รศ. 134) ประชาชนชาวไทยสนใจกีฬาฟุตบอลอย่างกว้างขวาง เนื่องจาก กรมศึกษาธิการได้พัฒนาวิธีการเล่น วิธีจัดการแข่งขัน การตัดสิน กติกาฟุตบอลที่สากลยอมรับ ตลอดจนระเบียบการแข่งขันที่รัดกุมยิ่งขึ้น และผู้ใหญ่ในวงการให้ความสนใจอย่างแท้จริงนับตั้งแต่พระองค์รัชกาลที่ 6 เองลงมาถึงพระบรมวงศานุวงศ์จนถึงสามัญชน และชาวต่างชาติ และในปี พ.ศ. 2458 จึงได้มีการแข่งขันฟุตบอลประเภทสโมสรครั้งแรกเป็นการชิงถ้วยพระราชทานและเรียกชื่อการแข่งขันฟุตบอลประเภทนี้ว่า “การแข่งขันฟุตบอลถ้วยทองของหลวง” การแข่งขันฟุตบอลสโมสรนี้เป็นการแข่งขันระหว่าง ทหาร-ตำรวจ-เสือป่า ซึ่งผู้เล่นจะต้องมีอายุเกินกว่าระดับทีมนักเรียน นับว่าเป็นการเพิ่มประเภทการแข่งขันฟุตบอล
ราชกรีฑาสโมสร หรือสปอร์ตคลับ นับได้ว่าเป็นสโมสรแรกของไทยและเป็นศูนย์รวมของชาวต่างประเทศในกรุงเทพฯ ซึ่งยังอยู่ในปัจจุบัน และสโมสรสปอร์ตคลับเป็นศูนย์กลางของกีฬาหลายประเภท โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลได้มีผู้เล่นระดับชาติจากประเทศอังกฤษมาเข้าร่วมทีมอยู่หลายคน เช่น มร.เอ.พี.โคลปี. อาจารย์โรงเรียนราชวิทยาลัย นับได้ว่าเป็นทีมฟุตบอลที่ดี มีความพร้อมมากทั้งทางด้านผู้เล่น งบประมาณและสนามแข่งขันมาตรฐาน จึงต้องเป็นเจ้าภาพให้ทีมต่างๆของไทยเรามาเยือนอยู่เสมอ ทำให้วงการ ฟุตบอลไทย ในยุคนั้นได้พัฒนายิ่งขึ้น และรัชกาลที่ 6 ทรงสนพระทัยโดยเสด็จมาเป็นองค์ประธานพระราชทานรางวัลเป็นพระราชกิจวัตร ทำให้ประชาชนเรียกการแข่งขันสมัยนั้นว่า “ฟุตบอลหน้าพระที่นั่ง” และระหว่างพักครึ่งเวลามีการแสดง “พวกฟุตบอลตลกหลวง” นับเป็นพิธีชื่นชอบของปวงชนชาวไทยสมัยนั้นเป็นอย่างยิ่ง และการแข่งขันฟุตบอลสโมสรครั้งแรกนี้ มีทีมสมัครเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 12 ทีม สมัครเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 12 ทีม ใช้เวลาในการแข่งขัน 46 วัน (11 ก.ย.-27 ต.ค. 2458) จำนวน 29 แมตช์ ณ สนามเสือป่า ถนนหน้าพระลาน สวนดุสิต กรุงเทพมหานคร หรือสนามหน้ากองอำนวนการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติปัจจุบันพระองค์รัชกาลที่ 6 ได้ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการแข่งขันนับว่าฟุตบอลไทยมีระบบในการบริหารมานานนับถึง 72 ปีแล้ว

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ote1986's profile


โพสท์โดย: ote1986
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"คาวาซากิ" เปิดตัวหุ่นยนต์ม้า ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ล่าสุด!!โหนกระแสขุดวีรกรรมสุดแสบ ของไฮโซคอคาร์บอน ที่แอบอ้างเบื้องสูงและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เพื่อหลอกดาราสาวให้ตๅยใจปี 2568 เขมรมี "นางสงกรานต์เทวี" เป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ชาติเขมร!ชาวเน็ตขุดคลิปเชฟกระทะฮ่างสอนทำอาหาร จิ้มนิ้วในกระบวยก่อนชิม!จีนเดินหน้า! สร้าง “สะพานที่สูงที่สุดในโลก” ข้ามหุบเขาแกรนด์ฮัวเจียง สูงเทียบตึกกว่า 200 ชั้นตรวจพบ 52 อาคารในไทยแตกร้าว หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวพระพุทธรูปเล่อซาน มหัศจรรย์หินแกะสลักแห่งราชวงศ์ถัง มรดกโลกอันยิ่งใหญ่ของจีนกุนขแมร์หน้าแหก แห่เข็มขัดจัดงานใหญ่โต "อ้าง WBC รับรอง" สุดท้ายแค่ของที่ระลึก!5 วิธีวางแผนเกษียณ สำหรับอาชีพค้าขาย“บาชิรี” มัมมี่ต้องห้าม: ปริศนาแห่งร่างไร้วิญญาณที่ไม่มีใครกล้าแกะผ้านักบินเกาหลีต่อยกันในค็อกพิท ขณะเครื่องบินกำลังบินอยู่บนฟ้ารีวิว “Law of attraction กฎแห่งรักดึงดูด” ซีรีส์วายแนวสืบสวนสอบสวนปี 2023 สุดเข้มข้นที่อยากแนะนำให้ทุกคนดู
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
5 วิธีวางแผนเกษียณ สำหรับอาชีพค้าขาย"คาวาซากิ" เปิดตัวหุ่นยนต์ม้า ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานใหม่ล่าสุด!!จีนเดินหน้า! สร้าง “สะพานที่สูงที่สุดในโลก” ข้ามหุบเขาแกรนด์ฮัวเจียง สูงเทียบตึกกว่า 200 ชั้นกุนขแมร์หน้าแหก แห่เข็มขัดจัดงานใหญ่โต "อ้าง WBC รับรอง" สุดท้ายแค่ของที่ระลึก!พม่าไม่หยุดยิงจริง! กองทัพยิงถล่มหมู่บ้านในมิตจีนา แม้มีคำสั่งหยุดยิงชั่วคราวเพื่อบรรเทาภัยแผ่นดินไหว
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
5 วิธีวางแผนเกษียณ สำหรับอาชีพค้าขายวิหารพระมงคลบพิตร ในวันต้อนรับเจ้านายต่างชาติ: ประวัติศาสตร์อยุธยาผ่านภาพเก่าในรัชกาลที่ ๖"พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 กษัตริย์ผู้มีชีวิตรักอันลือชื่อ และ 'เก้าอี้lซ็กซ์' อันโด่งดัง"“บาชิรี” มัมมี่ต้องห้าม: ปริศนาแห่งร่างไร้วิญญาณที่ไม่มีใครกล้าแกะผ้า
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง