PM 2.5 อันตรายแค่ไหน ป้องกันยังไง กลุ่มอาชีพไหนที่มีความเสี่ยง
PM2.5 หมายถึง ฝุ่นขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (micrometers) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฝุ่นที่ลอยในอากาศ. PM2.5 สามารถมีผลกระทบที่อันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากมีขนาดเล็กพอที่จะเข้าถึงทางเดินหายใจของมนุษย์ได้.
การสูบหายใจ PM2.5 สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้มากมาย, เช่น:
-
โรคทางเดินหายใจ: การสูบหายใจ PM2.5 อาจเกิดการอักเสบในทางเดินหายใจ, ซึ่งสามารถทำให้เกิดโรคหลายชนิด เช่น หลอดลมอักเสบเรื้อรัง, หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน, และภูมิแพ้.
-
โรคหัวใจและหลอดเลือด: PM2.5 ยังมีความเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือด, เนื่องจากสารพิษที่มีใน PM2.5 สามารถเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อหลอดเลือด.
-
การกระตุ้นการเกิดโรค: การถูกสารพิษใน PM2.5 ไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย, นั่นทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ.
ทั้งนี้, ระดับของความเสี่ยงนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ PM2.5 ที่มีในอากาศ และระยะเวลาที่ต้องการถูกปฏิบัติต่ออย่างไร. การควบคุมและลดปริมาณ PM2.5 ในอากาศสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชากรได้.
การป้องกันตัวจาก PM2.5 และลดความเสี่ยงต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 มีหลายวิธี ดังนี้:
-
สวมหน้ากาก: การสวมหน้ากากป้องกันได้ดีในการป้องกันการสูบหายใจ PM2.5. ควรเลือกหน้ากากที่มีระบบกรองอากาศที่ดี, เช่น N95 หรือหน้ากากที่มีความสามารถในการกรอง PM2.5.
-
หลีกเลี่ยงที่ตั้ง: หากเป็นไปได้, หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีระดับ PM2.5 สูง, เช่น ใกล้ถนนหรือพื้นที่ที่มีการเผาไหม้.
-
ปรับการใช้รถ: การลดการใช้รถส่วนตัวหรือการใช้รถที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือบริการขนส่งสาธารณะที่ให้บริการที่ดีที่สุด.
-
การบำบัดอากาศ: การใช้เครื่องกรองอากาศในบ้านหรือที่ทำงาน, ซึ่งสามารถช่วยลดการเข้าถึง PM2.5 ในอากาศ.
-
ระวังดูแลสุขภาพ: หากมีอาการทางสุขภาพเช่น ไอ, น้ำมูก, หรือไหม้ตา, ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการหายใจแรง, และพบแพทย์หากมีอาการทางสุขภาพที่เป็น.
-
ติดตั้งระบบลดมลพิษ: การติดตั้งระบบลดมลพิษในที่ทำงานหรือที่อยู่อาศัย, เช่น ระบบทำลาย PM2.5 หรือระบบกรองอากาศ.
PM2.5 สามารถเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพได้. บางกลุ่มคนมีความเสี่ยงต่อการได้รับผลกระทบจาก PM2.5 มากขึ้นเนื่องจากการทำงานในสถานที่ที่อาจมีฝุ่น PM2.5 สะสมมาก, หรือทำงานที่มีการใช้งานหรือผลิตสารพิษที่สามารถสร้าง PM2.5 ได้. นี่คือตัวอย่างบางประการ:
-
การทำงานในภาคอุตสาหกรรม: ในสถานีงานที่มีการผลิตหรือใช้สารที่อาจสร้างฝุ่น PM2.5, คนที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรมอาจเผชิญกับระดับ PM2.5 ที่สูงขึ้น.
-
การทำงานในสถานที่ก่อสร้าง: การทำงานในสถานที่ก่อสร้าง, เช่น การตัดเจาะ, การเจาะ, หรือการประกอบอาคาร, อาจสร้างฝุ่น PM2.5 จากการกระทำเหล่านี้.
-
การทำงานในฟาร์มหรือการเกษตร: การใช้สารเคมีในการเกษตรหรือการประมง, อาจส่งผลให้เกิด PM2.5 จากกระบวนการเหล่านี้.
-
การเป็นนักขับรถ: คนที่ทำงานในอาชีพที่ต้องขับรถตลอดเวลา, เช่น นักขับรถบรรทุกหรือรถโดยสาร, อาจต้องเผชิญกับฝุ่น PM2.5 ที่สร้างจากการเผาไหม้หรือจากจราจรทางถนน.