ประเทศที่ค่าไฟแพงที่สุดในโลก!
ไฟฟ้าถือเป็นปัจจัยสำคัญและส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิต เพื่อความสะดวกสบายในหลากหลายด้าน
ไฟฟ้ามีความสำคัญต่อการทำงานและการพัฒนาของสังคมยุคใหม่ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การดูแลสุขภาพ การศึกษา การสื่อสาร และการปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมของเรา
ประเทศที่มีค่าไฟฟ้าแพงที่สุดในโลกก็คือ
อันดับที่ 1 เดนมาร์ก
ราคา 0.54 ดอลลาร์สหรัฐ (16.83บาท) ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
สาเหตุหลักมาจากการพึ่งพาแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างหนัก โดยเฉพาะพลังงานลม เดนมาร์กได้ลงทุนจำนวนมากในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานหมุนเวียน จึงทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น
อันดับ 2 เยอรมนี
ราคา 0.53 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16.65 บาท) ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
เยอรมนีมีชื่อเสียงในด้านการเปลี่ยนผ่านไปสู่แหล่งพลังงานหมุนเวียนและความมุ่งมั่นที่จะยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์
แม้ว่าความพยายามเหล่านี้จะนำไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีส่วนทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้นด้วย ซึ่งได้รับการสนับสนุนบางส่วนผ่านการเก็บค่าธรรมเนียมไฟฟ้า
อันดับ 3 สหราชอาณาจักร
ราคา 0.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14.04 บาท) ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
สหราชอาณาจักรก็เป็นอีกประเทศเปลี่ยนแปลงให้การผลิตเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดขึ้น และลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล การเปลี่ยนแปลงนี้ควบคู่ไปกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและโครงการพลังงานหมุนเวียน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น
อันดับ 4 ออสเตรีย
ราคา 0.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14.29บาท) ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
ออสเตรีย ก็ไปอีกประเทศที่ต้องการเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานน้ำ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วไฟฟ้าพลังน้ำจะถือเป็นแหล่งพลังงานที่ถูกกว่า แต่ค่าไฟฟ้าของออสเตรียได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น ภาษี ค่าบริการเครือข่าย และนโยบายของรัฐบาล
อันดับ 5 อิตาลี
ราคา 0.46 ดอลลาร์สหรัฐ (14.29บาท) ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง
อิตาลีมีแหล่งพลังงานที่หลากหลาย รวมถึงแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม อย่างไรก็ตาม อิตาลียังต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเป็นอย่างมากและนำเข้าพลังงานส่วนสำคัญอีกด้วย
ปัจจัยเหล่านี้ พร้อมด้วยภาษีและต้นทุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการจำหน่ายพลังงาน ส่งผลให้ราคาไฟฟ้าค่อนข้างสูง