อินโดนีเซีย ประเทศหนึ่งที่รับประทานเนื้อสุนัข
อินโดนีเซียเป็นประเทศหนึ่งที่รับประทานเนื้อสุนัข จากการสำรวจของ Dog Meat Free Indonesia พบว่ามีชาวอินโดนีเซียประมาณ 7% (เกือบ 19 ล้านคน) รับประทานเนื้อสุนัข บริโภคเนื้อสุนัขมักพบในพื้นที่ภาคเหนือของอินโดนีเซีย เช่น สุมาตราเหนือ สุลาเวสีเหนือ และนูซาเต็งการาตะวันออก ซึ่งประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์หรือศาสนาอื่น ๆ นอกเหนือจากศาสนาอิสลาม ศาสนาอิสลามถือว่าเนื้อสุนัขเป็นสิ่งต้องห้าม (ฮารอม)
เนื้อสุนัขในอินโดนีเซียมักถูกนำไปปรุงอาหารในหลากหลายรูปแบบ เช่น ตุ๋น เนื้อแดดเดียว ซาลาเปา เกี๊ยว เป็นต้น ชาวอินโดนีเซียบางคนเชื่อว่าเนื้อสุนัขมีสรรพคุณทางยา เช่น ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้หวัด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การค้าเนื้อสุนัขในอินโดนีเซียก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มคนรักสัตว์ เนื่องจากมองว่าการฆ่าสุนัขเพื่อรับประทานเนื้อเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ มีการลักลอบจับสุนัขจรจัดมาฆ่าเพื่อจำหน่าย ทำให้เกิดปัญหาสุนัขจรจัดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคจากสุนัขสู่คน เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคหัดสุนัข เป็นต้น
ทำไมถึงรับประทานเนื้อสุนัข
บางคนเห็นว่าเนื้อสุนัขอร่อยกว่าเนื้อหมู ไม่มีกลิ่นสาบเหมือนเนื้อหมู
รัฐบาลอินโดนีเซียได้พยายามแก้ไขปัญหาการค้าเนื้อสุนัข โดยออกกฎหมายห้ามการฆ่าสุนัขเพื่อจำหน่ายเนื้อในปี พ.ศ. 2566 แต่กฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง การค้าเนื้อสุนัขยังคงมีอยู่ต่อไป
เมื่อวันเสาร์ (6 ม.ค. 67) ที่ผ่านมา ในเมืองเซอมารัง บนเกาะชวา ตำรวจอินโดนีเซียสกัดรถบรรทุกคันหนึ่ง และช่วยเหลือสุนัขกว่า 200 ตัวที่กำลังถูกนำไปที่โรงฆ่าสัตว์ โดยรถบรรทุกคันดังกล่าวถูกสกัดไว้ได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังจับกุมคนบนรถได้อีก 5 คน ซึ่งทั้งหมดถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ และอาจได้รับโทษจำคุก 5 ปี