ล่องเรือแม่น้ำสาละวิน สายน้ำแห่งชีวิต
หากใครมีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนในช่วงหน้าหนาว นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัด ที่บ้านรักษ์ไทย อ.เมือง เที่ยวอ.ปาย หรือทุ่งบัวตอง อ.ขุนยวมแล้ว หากลงมาเที่ยวทาง อ.สบเมย จะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติดอยพุยโดที่ได้รับความนิยมแล้ว หลายคนคงนึกไม่ออกว่าจะไปเที่ยวต่อที่ไหนดี “ล่องเรือสาละวิน”จึงเป็นตัวเลือกสถานท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับใครที่ยังไม่เคยมีโอกาสมาเที่ยวและล่องเรือสาละวิน
สำหรับการเดินทางมา“ล่องเรือสาละวิน”นั้น สามารถเดินทางได้โดยรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ หากมาถึงยังอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขับรถตามถนนหลัก 108 อีกประมาณ 14 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวขวาข้ามสะพานห้วยสิงห์เดินทางต่ออีก 1 กิโลเมตร ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนใหญ่เดินทางผ่านหมู่บ้านห้วยสิงห์และเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านแม่สามแลบอีกประมาณ 32 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดหมายคือท่าเรือแม่สามแลบ ซึ่งจะมีเรือให้เช่าสำหรับนักท่องเที่ยวในการล่องเรือสาละวิน ชมความงามของธรรมชาติและทิวทัศน์สองฟากฝั่งริมน้ำสาละวิน
การล่องเรือสาละวินนั้น สามารถติดต่อได้ที่ป้อมที่ทำการของหน่วยทหารพรานที่ 36 ค่ายเทพสิงห์ ซึ่งจะประจำการที่หมู่บ้านแม่สามแลบ จะคอยดูแลความปลอดภัยและอนุญาตให้ท่องเที่ยวในแม่น้ำสาละวินได้ สามารถที่จะเช่าเรือชาวบ้านที่ลงทะเบียนไว้กับหน่วยทหารพรานหรือเรือชาวบ้านอื่น ๆ ที่เรารู้จัก แต่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อลงบันทึกการเข้าออกของคนนอกพื้นที่
โดยทริปของเราใช้บริการเรือของพี่ทีเซที่เรารู้จักและมีประสบการณ์ขับเรือมานาน พอลงเรือปุ๊บ เพื่อความปลอดภัยพี่ทีเซคนขับเรือไม่ลืมที่จะยื่นเสื้อชูชีพให้เราสวมใส่ เสียงเครื่องยนต์เรือดัง ฉึ่ง ๆ ๆ ๆ พร้อม ๆ กับหัวใจเต้นรัวของพวกเราที่จะได้สัมผัสการล่องเรือสาละวินครั้งแรก จากจุดลงเรือบ้านแม่สามแลบ พี่ทีเซบอกว่าเราจะล่องเรือลงไปยังจุดปลายทางคือบ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ในระหว่างที่เรือเราล่องลงไปเราจะเริ่มเห็นโขดหินที่โผล่กลางลำน้ำและตลอดสองข้างริมฝั่งสาละวิน ซึ่งมีขนาดรูปร่างเล็กบ้างใหญ่บ้าง บางจุดมองดูสวยงามมีลวดลายแลดูเหมือนศิลปะ แต่บางจุดก็ดูน่ากลัวชวนให้พิศวง ประกอบกับเสียงเรือดังและแรงกระเพื่อมของน้ำที่มากระทบตัวเรือพาหัวใจตื่นเต้นหวาดหวั่นเลยทีเดียว ในระหว่างที่เรือล่องลงไปนั้น ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินบางจุดจะมองเห็นหาดทรายสีขาวมีนกกระยางลงมาหาปลา เป็นภาพที่ประทับใจของพวกเราแต่ละคนก็พยายามถ่ายรูปเก็บไว้อวดเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้มาเที่ยว
นอกจากโขดหิน หาดทราย ต้นไม้นานาพันธุ์ที่เราเห็นแล้ว ในหลาย ๆ จุดพวกเราก็จะเห็นการตั้งด่านของทหารพม่า กะเหรี่ยง KNU และทหารพรานของไทยประจำการอยู่ พี่ทีเซบอกว่าไม่น่ากลัวอะไร เพียงแต่เป็นด่านทหารที่คอยดูคนเข้าออกในพื้นที่ชายแดน แต่สิ่งที่คนขับเรือจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก็คือบางด่านที่ต้องบันทึกคนเข้าออก ต้องจอดเรือและไปบันทึกลงประจำวันไว้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงของหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน ล่องเรือไปได้สักพักใหญ่ ๆ ก็มาถึงยังบ้านสบเมยหมู่บ้านปลายทางที่พี่ทีเซบอกไว้ ลงจากเรือปุ๊บพี่ทีเซไม่ลืมที่จะไปลงบันทึกยังจุดที่ทหารพรานตั้งด่านอยู่
เราเดินขึ้นฝั่งไปยังศาลาจุดชมวิวบ้านสบเมย จะมองเห็นภาพมุมกว้างที่แม่น้ำเมยและสาละวินมาบรรจบหลอมรวมกันก่อนไหลลงไปยังฝั่งประเทศพม่า จนเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านและเป็นชื่ออำเภอสบเมย จนถึงปัจจุบัน ในช่วงปลายฝนและช่วงหน้าแล้งประมาณตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ชาวบ้านริมฝั่งสาละวิน จะปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ชาวบ้านบอกว่าพืชผักที่เขาปลูกนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยใด ๆ เพราะช่วงน้ำหลากน้ำจะขึ้นสูงท่วมพื้นที่เกษตรริมน้ำที่ชาวบ้านปลูกจะพัดพาเอาปุ๋ยและแร่ธาตุอาหารมาด้วย จึงสบายใจได้ผักที่ปลูกนั้นปลอดสารพิษอย่างแน่นอน
เราให้เวลากับการชมบรรยากาศโดยรอบ ๆ พอสมควร รู้สึกคุ้มค่ากับสิ่งที่เราได้คาดหวังไว้เราได้ซึมซับบรรยากาศชายแดน ทิวทัศน์ริมฝั่งทั้งสองข้างแม่น้ำสาละวินและโขดหินที่น่าตื่นตาตื่นใจ จึงได้ตัดสินใจบอกพี่ทีเซว่าเราจะกลับขึ้นไปที่ท่าเรือเพื่อเดินทางกลับบ้าน หากท่านได้มีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงมาทางอำเภอสบเมย อย่าลืมมาเที่ยวล่องแพแม่น้ำสาละวิน รับรองว่าทุกท่านจะต้องประทับใจแน่นอน เชิญมาเที่ยวกันเยอๆ นะครับ
เกล็ดความรู้: KNU ย่อมาจาก Karen National Union เป็นกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งปกครองโดยอิสระในประเทศพม่า ส่วนใหญ่จะอยู่พื้นที่ติดชายแดนประเทศไทย