5 อันดับจุดกางเต็นท์ยอดนิยมในไทย

1. ลำตะคอง - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 

ลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ช่วงเทศกาลคนเยอะมาก ฤดูหนาวอากาศหนาวจัด ฤดูร้อนอากาศก็ยังเย็นอยู่ ฤดูฝนบรรยากาศชุ่มชื่น ลานกางเต็นท์กว้างขวาง และเป็นจุดกางเต็นท์ที่เป็นศูนย์กลางที่เที่ยวของเขาใหญ่ จะไปที่ไหนๆในเขาใหญ่ จุดกางเต็นท์ลำตะคองจะไกล้กว่าที่กางเต็นท์ที่อื่นๆ  มีกวางเดินเล่นอยู่บริเวณลานกางเต็นท์ ห้องน้ำสะดวกสบาย อาหารมีขาย

สถานที่กางเต็นท์ลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเขื่อนลำตะคอง แต่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่นี่เป็นสถานที่กางเต็นท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในวันเสาร์อาทิตย์มีคนมากางเต็นท์ตลอดปี เพราะอากาศเย็นสบายตลอดปี แม้ในหน้าร้อน อุณหภูมิก็ไม่เกิน 30 องศา ส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 24 - 28 องศาเท่านั้น อากาศดี เย็นสบาย หลายคนจึงนิยมขึ้นมากางเต็นท์สูดอากาศบริสุทธิ์ มีบางคนอายุ 80 แล้ว ก็ยังขับรถมาคนเดียวได้ ร่างกายแข็งแรง

การท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย สถานที่กางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มี 2 แห่ง ผากล้วยไม้ และลำตะคอง โดยลำตะคองเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สถานที่โปร่ง โล่งตา น้ำสะอาดกว่า สวยงามกว่า ผากล้วยไม้ ซึ่งมีต้นไม้ทึบกว่า ในวันธรรมดา อาจจะมีคนมากางเต็นท์ไม่มาก แต่วันหยุดศุกร์และเสาร์ อาจจะมีหลักร้อยคนขึ้นไป และหลักพันคนขึ้นไปสำหรับหน้าหนาว

2. อุทยานแห่งชาติหาดวนกร - จ.ประจวบคีรีขันธ์

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ชายหาดอันลือชื่อของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวลงไปในทะเล ทิวทัศน์ที่เงียบสงบ หาดทรายขาวสะอาด บนฝั่งมีทิวสนทะเลและสนประดิพัทธ์เป็นแนวขนานกับทะเล มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 23,750 ไร่ หรือ 38 ตารางกิโลเมตร ในเขตตำบลห้วยทราย ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง และตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้ที่ปลูกขึ้นใหม่ได้แก่ สนทะเล สนประดิพัทธ์ สะเดา เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร แต่เดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าวังด้วนและป่าห้วยยาง เป็นที่ตั้งของสวนป่าห้วยทราย ท้องที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สวนป่าห้วยยาง สวนรุกขชาติห้วยยาง และสถานีวนกรรมห้วยยาง ท้องที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาสถานีวนกรรมห้วยยางได้ถูกยกเลิกไป เมื่อทางกรมป่าไม้มีนโยบายที่จะจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จึงได้โอนพื้นที่แห่งนี้มาให้กองอุทยานแห่งชาติดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2532 เป็นต้นมา และได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าวังด้วน ป่าห้วยยาง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และตำบลห้วยยาง อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมเนื้อที่ 38 ตารางกิโลเมตร โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 126 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2535 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 76 ของประเทศไทย

อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชายหาดสะอาด ห้องน้ำมี 2 จุด แต่เดินจากหาดประมาณ 100 เมตร มีร้านอาหารของ อร่อยนะขอบอกเลย มีที่จอดรถยนต์  ทะเลใสพอควรเลย บรรยากาศดี ที่สำคัญคนไม่เยอะ เหมาะสำหรับมากับครอบครัวจริงๆ ดูไม่อันตราย เข้มในเรื่องระเบียบด้วยครับ เที่ยวได้ทุกดูหน้าร้อนหัวค่ำร้อนนิดหน่อย กลางคืนเย็นสบาย เจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่แปลกใจเลยว่า หลายๆคนจึงตกหลุมรักหาดนี้ไปซะแล้ว

 

 

3.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - จ.เพชรบุรี

 

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีพื้นที่ถึง 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.8 ล้านไร่ ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานฯ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2524 และมียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดเขางะงันนิกยวงตอง อยู่ในเขตรอยต่อของเมียนมาร์และไทย มีความสูง 1,513 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีความสูง 1,207 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง และที่สำคัญ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแห่งนี้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวประจำปี พ.ศ. 2551 รางวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยมีสถานที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ ทะเลสาบ/อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแก่งกระจาน มีเนื้อที่ประมาณ 45 ตารางกิโลเมตร เกิดจากการสร้างเขื่อนดินปิด 3 ช่องทางระหว่างหุบเขา ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมเป็นพื้นน้ำอาณาเขตกว้างขวาง มีเกาะกลางแม่น้ำอยู่มากมายหลายเกาะ นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะล่องเรือชมทิวทัศน์เพื่อพักผ่อนหรือตกปลาน้ำจืดในทะเลสาบ ก็สามารถเช่าเรือได้ที่ร้านอาหารหรือชมรมเรือที่อยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ - ยอดเขาพะเนินทุ่ง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานฯ ในเขตประเทศไทยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 50 กิโลเมตร เป็นภูเขาสูง มีบริเวณที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างในระดับความสูง 960 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบเขา มีสัตว์ป่าชุกชุม ทิวทัศน์งดงาม จากยอดเขาสามารถเห็นทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนเเละฤดูหนาว

 

 

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี บรรยากาศดี ห้องน้ำสะอาด  ยังสามารถตกปลาได้อีกด้วย เพื่อนๆ คนไหนที่มีจุดหมายไปยังพะเนินทุ่งก็ติดต่อขอลงทะเบียนขึ้นที่นี่ก่อนน่าจะสะดวกที่สุด ถ้าใครไม่มีรถมาทางอช.มีไว้บริการไปพะเนินทุ่ง ใครมาไกลไปพักแรมที่บ้านกร่างไม่ไหวก็กางเต็นท์นอนซึมซับธรรมชาติที่ตัวแก่งกระจานก่อนก็ได้ครับ บรรยากาศดี ถนนดีรถอะไรก็มาถึง เที่ยวได้ทุกฤดู มากางเต็นท์กันเยอะช่วงฤดูหนาว สถาที่เที่ยวใกล้เคียง บ้านถ้ำเสือ (ล่องแก่งแม่น้ำเพชร) โครงการชั่งหัวมัน, ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง, แค้มป์บ้านกร่าง, พะเนินทุ่ง 

 

 

4. อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช - จ.ตาก

 

อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ตั้งอยู่ในท้องที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองตาก และอำเภอแม่สอด ติดถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (ตาก–แม่สอด) ห่างจากตัวอำเภอเมืองตากประมาณ 35 กิโลเมตร ซึ่งประกาศทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ละเมา ตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 954 (พ.ศ.2524) และประกาศทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ท้อ–ห้วยตากฝั่งขวา ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 145 (พ.ศ.2509) มีพื้นที่ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาจำนวน 93,125 ไร่ แต่มีพื้นที่จริงจากการคำนวนเท่ากับ 163,750 ไร่

 

อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อ.เมือง จ.ตาก ถนนดีรถอะไรก็ขึ้นได้ ทำเลกางเต็นท์ถือว่ากว้างขวางมีหลายโซน อากาศที่นี่เย็นเกือบตลอดปี เป็นที่แคมป์ที่พลาดไม่ได้อีกที่หนึ่งเลยครับ อย่างเช่น สถานที่กว้างขวางมีจุดกางเต็นท์ใหญ่ ๆ 3 จุดด้วยกัน+บ้านพักอีก, อากาศที่ดีตลอดทั้งปี, ห้องน้ำสะอาดมาก, อาหารกินก็สะดวกร้านที่ให้บริการก็อร่อย พอได้-ราคาไม่แรง, มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงหลายที่, แหล่งอาหารของดีราคาถูก-ตลาดมูเซอ (ห่างจากจากที่ทำการประมาณ 3กิโลเมตร) รวมถึงไร่ สตรอว์เบอร์รี่ ใกล้ๆ เที่ยวได้ตลอดปี มีต้นตะแบกยักษ์ให้เยี่ยมชม

อีกด้วย 

 

5. ภูทับเบิก - จ.เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก - จ.เพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ต.วังตาล ห่างจากอ.หล่มเก่า 40 กม.ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 97 กม.หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีความสูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยทัศนียภาพแบบทะเลภูเขา และมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นดินแดนในฝันของนักเดินทางที่ต้องมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต หากแวะมาเยือนช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม จะได้ยลโฉมดอกซากุระ หรือนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา จนกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่สุดแสนโรแมนติก ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่จะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสักในเบื้องล่าง จนถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "ดาวบนดิน" เลยทีเดียว

 

 

ภูทับเบิก สวยและสูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์ นอกจากใกล้หมู่บ้านม้ง ได้เห็นวิถีชีวิตอย่างใกล้ชิดแล้ว ข้างบนภูทับเบิก ยังมีเต้นท์ที่พักให้เช่า สําหรับผู้ที่ต้องการค้างคืน เพื่อสัมผัสความหนาวเย็น หรือต้องการชมทะเลหมอกตอนเช้าด้วย สำหรับราคาค่าเต็นท์เล็ก 400 บาท นอนได้ 2 คน และเต็นท์ใหญ่ ราคา 650 บาท นอนได้ 4 คน โดยเขาจะมีเครื่องนอนให้ ทั้งผ้าห่ม หมอน เสื่อให้ ส่วนใครกลัวหนาวสามารถเช่าผ้าห่มเพิ่มได้ โดยคิดผืนละ 60 บาท ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมค่าบำรุงสถานที่ 50 บาท เช่าหมอน 20 บาท/ใบ , ผ้าห่ม 60 บาท/ผืน และเสื่อ 30 บาท/ใบ 
นอกจากนี้ยังมีบ้านเป็นหลังบริการ โดยบ้านหลังใหญ่นอนได้ประมาณ 10 คน หลังละ 2,500 บาท หลังเล็กหลังละ 1,500 บาท  มีห้องน้ำในตัว (ราคาอาจจะปรับเปลี่ยนตามช่วงเทศกาล) ทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่น สามารถโทรไปสอบถามได้ที่ 085 733 9737 

6. ดอยชัวร์ญ่า - จ.เชียงใหม่

 

 ตั้งอยู่บริเวณดอยอินทนนท์ เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของดอยอินทนนท์อีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ โดยเบื้องหน้าจะเห็นวิวน้ำตกสิริภูมิ วิวหมู่บ้านและชุมชนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งที่นี่ยังมีสภาพอากาศที่เย็นสบายเกือบตอลดทั้งปี เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวพักแรม และในช่วงที่สวยที่สุดเหมาะจะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม ไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อีกทั้งที่นี้ยังเป็นจุดเคาร์ดาวน์ที่หลายๆ คนอยากมาเยือนอีกด้วย  สถานที่พักลานกางเต้นท์ ดอยชัวร์ญ่า หรือ ดอยโสว์ญ่า แปลว่า เป็นสถานที่ธรรมชาติที่มีทิวทัศน์สวยงามและบรรยากาศเย็นร่มรื่น เหมาะสมในการพักผ่อน จึงเป็นที่มาของโครงการที่พัก-กางเต้นท์ของชุมชน สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ (กลุ่มชาวบ้านที่มีนิมิตร่วมกัน) เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

 

ดอยชัวร์ญ่า ตั้งอยู่บริเวณดอยอินทนนท์ เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของดอยอินทนนท์อีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ โดยเบื้องหน้าจะเห็นวิวน้ำตกสิริภูมิ วิวหมู่บ้านและชุมชนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งที่นี่ยังมีสภาพอากาศที่เย็นสบายเกือบตอลดทั้งปี เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวพักแรม และในช่วงที่สวยที่สุดเหมาะจะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม ไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อีกทั้งที่นี้ยังเป็นจุดเคาร์ดาวน์ที่หลายๆ คนอยากมาเยือนอีกด้วย

 

(เเถมให้)

 

จุดกางเต็นท์สวยๆในประเทศไทยมีอีกเยอะนะครับ ข้อมูลบางส่วนเอามาจาก ชิลไปไหน สามารถไปตามอ่านเพิ่มเติมได้ครับ