พบซากฉลามวาฬเกยตื้น คาดถูกใบพัดเรือฟัน มีถุงดำในท้อง

วันที่ 13 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบซากฉลามวาฬเกยตื้นอยู่บริเวณชายหาดอ่าวนาง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบซากฉลามวาฬตัวใหญ่ ความยาวประมาณ 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 3 ตัน สภาพเน่าเปื่อย บริเวณหัวมีรอยแผลขนาดใหญ่คล้ายถูกใบพัดเรือฟัน

เจ้าหน้าที่จึงทำการชันสูตรซากฉลามวาฬ พบว่าในท้องของฉลามวาฬมีถุงดำจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเป็นถุงพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหาร เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมถุงดำดังกล่าวไว้เพื่อนำไปตรวจสอบหาที่มา

จากการตรวจพบว่าถุงดำดังกล่าวมีตราสัญลักษณ์ของร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าว พบว่าเจ้าของร้านยอมรับว่าได้นำถุงพลาสติกดังกล่าวไปทิ้งในทะเลจริง

เจ้าของร้านอ้างว่าได้นำถุงพลาสติกไปทิ้งในทะเล เพราะเห็นว่าเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัด แต่ไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม

การพบซากฉลามวาฬเกยตื้นในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาขยะทะเลที่ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังในประเทศไทย เจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนช่วยกันลดใช้พลาสติก และคัดแยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ต่อไป

ข้อควรปฏิบัติเพื่อลดปัญหาขยะทะเล

1. ลดการใช้พลาสติก เลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่ายแทนพลาสติก เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม ตะเกียบ ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ
2. คัดแยกขยะก่อนทิ้ง แยกขยะประเภทต่างๆ ออกจากกัน เช่น ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะอันตราย
3. ทิ้งขยะให้ถูกที่ ทิ้งขยะลงในถังขยะที่จัดไว้ให้ ไม่ควรทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง หรือทะเล

หากทุกคนร่วมมือกันลดปัญหาขยะทะเล ก็จะช่วยให้สิ่งแวดล้อมของเราน่าอยู่ขึ้น