หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เอน่า ตอนที่ 2

โพสท์โดย daowthamalak

ตอนที่ 2

 

        เช้าวันรุ่งขึ้น เอน่าถูกจับแต่งตัวใหม่อีกครั้ง ด้วยเสื้อผ้าชั้นดี เธอไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถามอะไร เธอได้ทานอาหารครบสามมื้อ รวมมื้อดึกเป็นสี่ ได้อ่านหนังสือการ์ตูน ได้เดินเล่นที่ตลาด ได้ลองไปเล่นร่วมกับเด็กที่หมู่บ้าน

"นี่ เจ้าน่ะเป็นลูกคนชนชั้นสูงเหรอ?"

        เสียงเด็กผู้ชายถามเธอ เอน่ามองเขาแล้วยิ้ม

"ข้าไม่รู้..."

        เอน่าตอบกลับไปแค่นั้น เด็กคนอื่นก็ไม่ถามเธออีก ราวกับไม่สนใจที่จะถามมากกว่า พวกเขาเล่นกันจนพอใจแล้วจึงแยกย้ายกลับ

(สนุกจัง จะได้เป็นแบบนี้อีกกี่วันกันนะ)

        เอน่าคิด แม้ใจจะอยากใช้ชีวิตไปวัน ๆ แบบนี้ แต่เธอตระหนักรู้ดีว่า สิ่งนั้นไม่มีทางง่ายดาย เมื่อเธอกลับไปถึงที่พัก ได้เห็นพ่อบ้านเคราท์ยืนรออยู่ และส่งยิ้มให้เธอ

"สนุกหรือเปล่า?"

"อื้ม"

        เอน่าตอบกลับแค่นั้น และเดินเข้าไปในที่พักโรงแรม ชีวิตยามดึกของเธอปกติเหมือนวันก่อนหน้า และล่วงเลยมาอีกหนึ่งสัปดาห์เต็ม และได้เวลาออกเดินทางแล้ว

        เอน่าได้ขอแผนที่กับพนักงานที่พัก และเธอก็อ่านมัน แม้จะรู้ว่ามีอาณาจักรใหญ่สองแห่ง อย่างเกรซีน่า รัฐที่ปกครองโดยวิหาร กับโซราเฟีย จักรวรรดิใหญ่ระบอบการปกครองโดยมหาจักพรรดิ

(มีนักบุญหญิงด้วยสินะ เธอคงจะอยู่รัฐเกรซีน่าสินะ ที่นี่ไม่มีใครสนใจพระเจ้า ที่นี่คงจะเป็นจักรวรรดิใหญ่โซราเฟีย)

        เธอคิดวิเคราะห์ และคาดหวังว่าคำตอบจะถูกต้อง เอน่าก้าวขาขึ้นรถม้าไม่ได้ ทหารนายหนึ่งจึงอุ้มเธอขึ้นไปนั่ง เขายิ้มให้เธอ เอน่าก็ยิ้มกลับ

"ขอบคุณนะคะ"

        เธอพูดตอบไป แล้วเข้าไปนั่งในรถ พ่อบ้านเคราท์ตามขึ้นมา ส่วนคนอื่นนั่งคันอื่น ๆ ตามกันไป

(น่าแปลกที่สัมภาระมากมายขนาดนี้ แต่คนกลับมีจำนวนไม่มาก)

        เอน่ามองและหันกลับมาสนใจแผนที่ต่อ เธอไม่คิดอยากรู้ว่าตัวเองจะไปไหน เพราะต่อให้เธอถูกหลอกอีก ก็ไม่เสียดายแล้ว

"หลังจากนี้ เราจะเดินทางระยะยาวอีกสองวันเต็ม จากนั้นเราจะไปถึงบ้านพักตากอากาศที่มอคโก และพักกันที่นั่น"

        พ่อบ้านเคราท์อธิบาย เอน่ามองเขาแล้วพยักหน้า

"เข้าใจแล้ว"

        เธอพูดไม่มีหางเสียงกับเขา และนั่นก็ทำไปโดยที่เด็กหญิงไม่รู้ตัว ดวงตาของเธอนิ่งสนิท ไม่แสดงอารมณ์ ตลอดการเดินทางจนไปถึงที่บ้านพักตากอากาศในมอคโก

        เมื่อไปถึง มันเป็นสถานที่ขนาดไม่ใหญ่มาก สร้างอยู่บนยอดเขา น่าประหลาดใจไม่น้อยที่มีคนเสี่ยงมาสร้างบ้านถึงตรงนี้

(ข้างล่างสามารถมองเห็นวิวเมืองด้านล่าง และมองไปจนถึงขอบฟ้าได้เลย)

        เอน่ามองอย่างตื่นตา เธอรู้สึกอยากรู้อยากเห็น จึงกางแผนที่ในมือออกและค้นหามอคโก เห็นส่วนของมันบนแผนที่ และมันก็เขียนว่าเป็นภูมิประเทศเขตอบอุ่นเสียด้วย

"ที่นี่ อากาศเหมาะกับการฟื้นฟูร่างกาย พักผ่อนต่อให้พออีกสักหน่อยเถอะ"

        พ่อบ้านเคราท์บอก และยิ้มให้ เอน่ามองตาโตแล้วยิ้มกลับพร้อมกับพยักหน้า

(เยี่ยมเลย ข้าชอบที่นี่)

        เด็กหญิงคิดแล้วยืนอยู่แบบนั้นจนกระทั่งทุกคนจัดข้าวของกันจนเสร็จ หญิงรับใช้วัยกลางคนมาพาเธอไปทานมื้อเย็น และพาเธออาบน้ำแต่งตัวเข้านอน

        เอน่าใช้ชีวิตแบบนี้เป็นกิจวัตรแล้วประมาณสี่ปีเต็ม เธอจำวันเกิดตัวเองไม่ได้ และไม่คิดจะสนใจมัน เธอใช้เวลาทุกวันกับการอ่านหนังสือต่าง ๆ ในห้องหนังสือที่บ้านพักตากอากาศ ใช้ชีวิตเดินเที่ยวไปกับตลาดยามเย็น และเช้า รวมถึงช่วงค่ำด้วย

        เธอเดินเข้าออกร้านหนังสือเช่ามือสอง เพื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่นั่นเกือบสี่ชั่วโมงทุกวัน และผู้คนที่นี่ก็น่ารักมากจนเธอได้เห็นโลกอันสดใส

        รอยยิ้มของเด็กหญิงผุดขึ้นทุกวัน ราวกับท้องฟ้าราตรีที่ยิ้มแย้มแด่ผู้คนรอบข้าง เอน่ากลับมาที่บ้านพักตากอากาศและมองตัวเองในกระจก

        เธอตัวสูงขึ้นชัดเจน ผมที่สั้นประบ่าถูกบำรุงรักษาอย่างดีทุกวัน เสื้อผ้าที่ใส่สวยงามแต่ไม่แปลกแยก ใบหน้าของเธอเริ่มสาวขึ้น แต่เธอก็ไม่เคยรู้ว่าเธออายุเท่าไหร่

(ข้าสิบขวบหรือเปล่านะ? หรือสิบสอง?)

        เธอถามตัวเอง และสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ ผู้คนที่บ้านพักตากอากาศแห่งนี้ ไม่มีใครเรียกชื่อของเธอเลยแม้แต่คนเดียว เพราะเธอไม่เคยขานชื่อตัวเองออกมาเลยสักครั้ง และไม่ขานชื่อผู้ใดในที่นี้ด้วย

        คนในเมืองต่างก็ไม่รู้จักชื่อของเธอ และเอาแต่เรียกเธอว่าเด็กน้อย เธอก็ไม่เคยขานชื่อของพวกเขาด้วยเหมือนกัน ชีวิตของเอน่าดำเนินไปแบบนี้จนกระทั่งวันต่อมา

        ได้มีขบวนรถม้ามาจอดที่หน้าบ้านพักตากอากาศ และคนรับใช้ทุกคนรวมพ่อบ้านเคราท์ออกไปต้อนรับทันที เอน่ายืนมองอย่างประหลาดใจ

(คนในรถนั้น คือใครกัน? เธอต้องต้อนรับยังไง?)

        เอน่าไม่เคยเรียนรู้การต้อนรับแขกมาก่อน ทำให้เธอประหม่า แต่การวางตัวของเธอกลับดีเกินคาด เมื่อเธอเดินไปที่หน้ารถม้าและย่อเข่าทำการทักทายเมื่อประตูเปิด

        ดวงตาสีม่วงกระทบกับแสงยามเย็น และตอนนั้นเองที่ผู้มาเยือนได้ก้าวเท้าลงมา

"นี่หรือ บุตรสาวของข้า?"

 

เนื้อหาโดย: daowthamalak
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
daowthamalak's profile


โพสท์โดย: daowthamalak
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์คลิปฝนตกหนัก กลายเป็นไวรัลในจีน30 แคปชั่นต้อนรับเดือนพฤษภาคม 2567 ความหมายดี สวัสดีเดือนพฤษภา hello mayไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!สัญญาณเตือนอาการสมองเริ่มเสื่อม ถ้าเริ่มมีอาการแบบนี้ต้องระวังละเน่อเลขเด็ดวันแรงงาน เลขไหนดัง เลขไหนเข้า มาเช็คกันก่อนลุ้นรางวัลเลย!!!ปลานับแสนตายเพราะน้ำในเขื่อนร้อนจนแห้งโลกจะหายไปภายใน 72 นาที หลังเกาหลีเหนือยิงนิวเคลียร์วันนี้หวยออก "มนต์สิทธิ์" เผยเลขเด็ดเน้นๆ..รีบไปซื้อก่อนเกลี้ยงแผง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์ข้าวไข่ดาว 2 ฟอง 70 บาทความสุขอยู่ที่ตัวเราคลิปฝนตกหนัก กลายเป็นไวรัลในจีน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา สุสานใต้น้ำหรือแค่ตำนานลี้ลับ?รู้กันไหม?หญิงจีนสมัยราชวงศ์ถัง เปิดกว้างเรื่องเwศสุดๆเกินไปมั๊ย! มานั่งชิลที่ร้านกาแฟ..แต่ดันจับปลาคาร์ฟในบ่อให้ลูกเล่นเจ้าของสวนโพสต์ "ทุเรียนเป็นฮีทสโตก"..เหตุเพราะอากาศร้อน
ตั้งกระทู้ใหม่