15 เส้นทางที่น่าทึ่งที่สุดในโลก

ทางหลวงที่สวยที่สุดในโลกพิสูจน์ให้เห็นว่าบางครั้งการเดินทางก็สำคัญกว่าจุดหมายปลายทาง เรามักจะให้ความสำคัญกับจุดหมายปลายทาง แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสิ่งที่พบระหว่างการเดินทางไป แต่ในการเดินทางนั้นเองที่ช่วยให้เราค้นพบว่าเราเป็นใครและเกิดมาเพื่ออะไร การเดินทางถือเป็นเคล็ดลับอย่างหนึ่งของการมีความสุขในชีวิต การไปยังสถานที่ใหม่ๆ จะช่วยให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นด้วยการได้สัมผัสกับสถานที่ใหม่ๆ และเลิกทำกิจวัตรประจำวันเดิมๆของคุณ ถ้าคุณพร้อมแล้ว ไปสำรวจกัน

 

15. อุโมงค์สะพาน CHESAPEAKE BAY - เวอร์จิเนีย, สหรัฐอเมริกา

อุโมงค์สะพาน Chesapeake Bay เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่เวอร์จิเนียที่เวอร์จิเนียบีชใกล้กับนอร์ฟอล์กกับชายฝั่งตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนีย เวลาข้ามโดยตรงคือประมาณ 25 นาที กลุ่มอาคารอุโมงค์สะพานนี้มีความยาว 28 กม. จากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่ง และส่วนใหญ่ประกอบด้วยสะพานที่มีขาหยั่งต่ำซึ่งมีทางหลวงสองเลน สะพาน-อุโมงค์ Chesapeake Bay ได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมของโลกสมัยใหม่ และก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม! เป็นคอมเพล็กซ์ที่น่าทึ่งซึ่งมีทั้งส่วนที่อยู่บนทะเลและใต้ทะเล และเป็นคอมเพล็กซ์ที่ยาวที่สุดในโลก

 

 

14. เส้นทางสายไหม – อินเดีย

เส้นทางสายไหมหมายถึงเครือข่ายเส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมระหว่างเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา เส้นทางสายไหมที่ทอดยาวกว่า 6,500 กม. ถูกใช้เป็นหลักในการขนส่งผ้าไหมจีนไปยังยุโรปผ่านทางเอเชีย เป็นทางด่วนข้อมูลสายแรกของโลก สินค้าสำคัญอื่นๆ ที่ซื้อขายในเส้นทางนี้ ได้แก่ น้ำตาล ชา ม้า เกลือ ทองแดง และฝ้าย ยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและหุบเขาอันเขียวชอุ่มดูน่าดึงดูดใจจนไม่อาจละสายตาจากผู้เสพติดการขับรถทางไกล เป็นหนึ่งในการเดินทางบนท้องถนนที่ดีที่สุดในโลก จุดชมวิวธัมบิถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุดตามเส้นทางสายไหม

 

13. เส้นทางระหว่างประเทศ LOS LIBERTADORES – ชิลี

Paso Internacional Los Libertadores หรือที่เรียกว่า Cristo Redentor เป็นเส้นทางผ่านภูเขาในเทือกเขาแอนดีสระหว่างอาร์เจนตินาและชิลี ด้วยการผ่านแดนมากกว่า 40 ครั้งระหว่างทั้งสองประเทศที่แผ่กระจายไปทั่วภูเขา จุดที่งดงามและสำคัญที่สุดคือปาโซเดลอสลิเบอร์ตาโดเรส นี่เป็นหนึ่งในเส้นทางขับรถที่สวยงามที่สุดในโลก ถนนฝั่งชิลีนั้นขับยากมาก เป็นหนึ่งในเส้นทางที่คดเคี้ยวที่สุดในโลก ถนนฝั่งอาร์เจนตินาขับง่ายกว่าและได้รับการดูแลที่ดีกว่ามาก นอกจากนี้ยังมีการจราจรหนาแน่นมากขึ้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากขับรถขึ้นและกลับเพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์

 

12. PASSAGE DU GOIS – ฝรั่งเศส

Le Passage du Gois สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นทางหลวงระหว่าง Beauvoir-sur-Mer และเกาะ Noirmoutier ในVendée บนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของฝรั่งเศส ทางหลวงถูกน้ำท่วมวันละสองครั้งเนื่องจากน้ำขึ้น นับเป็นตัวอย่างอันน่าทึ่งของพลังอันดุร้ายของธรรมชาติ ความยาวของถนน (4.5 กม.) ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น หากคุณเจอน้ำท่วม เพราะยากที่จะไปถึงพื้นที่แห้งก่อนที่เส้นทางทั้งหมดจะกลายเป็นน้ำลึกถึงอก

 

11. เส้นทาง CABOT – โนวาสโกเทีย แคนาดา

ถนนสายนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยทิวทัศน์มหาสมุทรอันน่าทึ่ง ป่าไม้ที่เก่าแก่ และหินที่ถูกกัดเซาะจากธารน้ำแข็ง เส้นทาง Cabot Trail สร้างขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นหลัก และก็ประสบความสำเร็จมีนักท่องเที่ยวมากมายนิยมเดินทางไปตามเส้นทางนี้ ถนนสายนี้ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติ Cape Breton Highlands มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย สำหรับการผจญภัยกลางแจ้งรอบๆ เส้นทาง Cabot Trail คุณสามารถลองเดินป่า พายเรือคายัค ดูปลาวาฬ ขี่ม้า ว่ายน้ำ และดำน้ำลึก

 

10. ถนนมหาสมุทรแอตแลนติก – นอร์เวย์

ถนนสายนี้ถูกเรียกหลายอย่าง เช่น "การก่อสร้างของนอร์เวย์แห่งศตวรรษ" "การเดินทางบนถนนที่ดีที่สุดในโลก" และ "ถนนที่จะพาคุณออกไปสู่ขอบมหาสมุทร" ถนนยาว 8.3 กม. สร้างขึ้นบนเกาะเล็กๆ หลายแห่งและสะพานข้ามแปดแห่ง วิวทะเลเปิดเป็นประสบการณ์พิเศษที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ขับขี่และนักเดินทาง มีทิวทัศน์มุมกว้างและพื้นที่พักผ่อนหลายแห่ง ซึ่งคุณสามารถสัมผัสทั้งธรรมชาติและสถาปัตยกรรมที่กลมกลืนกันอย่างยอดเยี่ยม

 

9. ทางหลวงฮานา – ฮาวาย

ทางหลวง Hana มีความยาว 84 กม. และตั้งอยู่ในเมาอิ ถนนสายนี้ตัดผ่านป่าฝนเขตร้อนอันเขียวขจีอันน่าทึ่ง เส้นทางเลียบชายฝั่งแคบๆ คดเคี้ยวนี้เป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบในการหลีกหนีจากกิจวัตรประจำวัน เพราะคุณจะต้องผ่านโค้ง 600 แห่งและสะพาน 59 แห่ง การขับรถครั้งนี้คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง และนำเสนอทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายของแนวชายฝั่งทางตอนเหนือ ป่าฝนเขตร้อน น้ำตก และหาดทรายสีดำ ต้องระมัดระวังบริเวณโค้งหักศอก ถนนเส้นนี้มีทางโค้งมากมายแต่ลาดยางตลอดทาง เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับผู้ขับขี่

 

8. Rohtang Pass – อินเดีย

ชื่อ Rohtang แปลว่า 'กองศพ' เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากที่พยายามจะข้ามถนนสายนี้ ถนนนี้อยู่ในสภาพแย่มาก เป็นถนนสายหนึ่งที่อันตรายที่สุดของอินเดีย ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับยานพาหนะใดๆ ที่จะผ่านไปได้ โดยปกติถนนสายนี้จะเปิดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน หิมะและพายุหิมะเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ฉันพนันได้เลยว่าถนนจะทำให้คุณขนลุกหากคุณโชคดีพอจะไม่พบการจราจรติดขัด แม้จะอันตรายมาก แต่ถนนสายนี้เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม และใครๆ ก็เพลิดเพลินกับการเดินทาง ในสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งของยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ แม่น้ำ และธารน้ำแข็ง

 

7. Col de I'Iseran – ฝรั่งเศส

หากคุณต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่และใช้เวลาอย่างมีคุณภาพไปกับธรรมชาติที่สวยงาม ถนน Col de I'Iseran ถือเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ  Col de l'Iseran เป็นกษัตริย์แห่งเทือกเขาแอลป์โดยแท้จริง ตั้งอยู่ในเขต Savoie ในประเทศฝรั่งเศส ใกล้กับชายแดนอิตาลี เป็นเส้นทางเดินเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ที่ระดับความสูง 2.764 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ถนนนี้สามารถเข้าถึงได้เฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น ขณะขับรถบนถนนที่สวยงามสายนี้ คุณจะต้องตื่นตาตื่นใจกับความงามของน้ำตก อุโมงค์ และวิวทิวทัศน์ทั้งหมดอย่างแน่นอน

 

6. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 40 – อาร์เจนตินา

ไม่ว่าคุณจะแวะพักระหว่างการเดินทางระยะสั้น หรือการเดินทางไกล National Route 40 ก็เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอาร์เจนตินา ถนนสายนี้ยาวมากและเชื่อมต่อกับอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกและเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ การเดินทางบนถนนสาย 40 แห่งชาติยังเปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจวัฒนธรรมที่หลากหลายในอาร์เจนตินา คุณจะรู้สึกได้ว่าการเดินทางของคุณเป็นการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด เนื่องจากถนนเส้นนี้ตัดผ่านภูเขา แม่น้ำ และอุทยานแห่งชาติมากถึง 20 แห่ง

 

5. The Overseas Highway– คีย์ลาร์โกไปยังคีย์เวสต์ฟลอริดา

ทางหลวงที่สวยงามแห่งนี้มีทิวทัศน์อันน่าทึ่งที่จะทำให้คุณสบายใจและสบายตาอย่างแน่นอน The Overseas Highwayเป็นทางหลวงยาว 181 กม. ซึ่งมีเส้นทาง US 1 ผ่านฟลอริดา  คีย์ส  ไปยัง  คีย์เวสต์ การเดินทางจากไมอามีไปยังคีย์ลาร์โกใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง คุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงาม เนื่องจากถนนเส้นนี้ตัดผ่านแนวปะการัง เกาะ และบริเวณกระแสน้ำอุ่นหลายแห่ง

 

4. ถนนวงแหวน ประเทศไอซ์แลนด์

ถนนสายนี้จะทำให้คุณตื่นเต้นและดึงความเป็นนักเดินทางและนักสำรวจในตัวคุณออกมา! ถนนวงแหวนยาว 1,332 กม. ตัดรอบเกาะ เชื่อมต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ของประเทศ เป็นการเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจผ่านภูมิประเทศที่น่าหลงใหล ภูเขาไฟที่น่าทึ่ง ธารน้ำแข็งที่เหลือเชื่อ ชายหาดหิน น้ำพุร้อน ฟยอร์ด และน้ำตกที่น่าตื่นตาตื่นใจ หากคุณเดินทางระหว่างเดือนกันยายนถึงเมษายน มีโอกาสที่คุณจะได้ชมแสงเหนืออันโด่งดังที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า คุณสามารถขับรถไปตามถนนวงแหวนทั้งหมดได้ภายใน 24 ชั่วโมง แต่เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ฉันแนะนำให้ใช้เวลาอย่างน้อย 7 วันในไอซ์แลนด์

 

3. ทางหลวงคาราโครัม ประเทศปากีสถาน

ปากีสถานมีถนนที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ และน่าทึ่งอย่างยอดเยี่ยมในแบบของตัวเองสำหรับนักเดินทาง เส้นทางนี้ตัดผ่าน Kunjerab Pass ที่ความสูง 4,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งเชื่อมต่อปากีสถานกับจีนตะวันตก ถนนสายนี้เป็นเส้นทางคาราวานซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของเส้นทางสายไหมโบราณอันโด่งดัง เส้นทางนี้ช่วยให้นักเดินทางเข้าถึงยอดเขาที่ดีที่สุดในแคชเมียร์และซินเจียง รวมถึงการชมทะเลสาบและแม่น้ำธารน้ำแข็ง ทางหลวงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดอันดับสามในปากีสถาน เชื่อหรือไม่ว่านี่คือจุดผ่านแดนที่สูงที่สุดในโลก

 

2. ถนนมิลฟอร์ด – นิวซีแลนด์

หากคุณอยู่ในนิวซีแลนด์ อย่าพลาดการขับรถบนถนนมิลฟอร์ด! การเดินทางบนถนนจาก Te Anau ไปยัง Milford Sound เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่งดงามที่สุดที่คุณสามารถมีได้ เป็นการเดินทางที่ไม่น่าเชื่อสู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติ Fiordland และพื้นที่มรดกโลก Te Wahipounamu เป็นถนนที่สูงที่สุดสายหนึ่งในประเทศและเป็นถนนที่อันตรายที่สุดสายหนึ่งในการขับรถ ถนนเส้นนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีการเลี้ยวหักศอกที่บ้าระห่ำ พร้อมด้วยทิวทัศน์อันน่าหลงใหลที่จะทำให้คุณประทับใจ คุณได้ตัดสินใจจุดหมายปลายทางสำหรับการออกนอกบ้านแล้วหรือยัง?

 

1.The Blue Ridge Parkway – Appalachia, สหรัฐอเมริกา

Blue Ridge Parkway เป็นเส้นทางขับรถที่สวยงามมากทั่วเวอร์จิเนียและนอร์ธแคโรไลนา ในสหรัฐอเมริกา ถนนสายนี้ยาว 755 กม. และลาดยางทั้งหมด ถนนสายนี้วิ่งผ่าน 29 เมืองในเวอร์จิเนียและนอร์ธแคโรไลนา และแล้วเสร็จในปี 1987 โดยปกติแล้วถนนดังกล่าวจะเปิดตลอดทั้งปี โดยมีการปิดเป็นครั้งคราวในฤดูหนาวเนื่องจากสภาพอากาศที่เป็นอันตราย (น้ำแข็ง หิมะ หรือพายุ) ทางหลวงสายนี้มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในเรื่องของ ทัศนียภาพอันงดงาม แม่น้ำ ลำธาร และถ้ำหินปูนที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทิวทัศน์อันน่าทึ่งเป็นสวรรค์สำหรับนักเดินทางทุกคนในโลก