5 ความเชื่อเรื่องท้องที่แม่ท้องต้องรู้ ?
แม้วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันจะเจริญก้าวหน้าไปเพียงใด เราก็มักจะได้ยิน “คำ” ของผู้ใหญ่หลายท่านที่มักจะพูดเกี่ยวกับ “ความเชื่อ” ในเรื่องต่างๆ เพื่อห้ามไม่ให้แม่ที่กำลังตั้งครรภ์ปฏิบัติ เพราะจะมีผลต่อลูกน้อย หรือต่อตัวแม่เอง ความเชื่อเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง และเป็นความจริงมากน้อยเพียงไร วันนี้เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้กระจ่างกันค่ะ
1. กินของดำ ลูกคลอดออกมาจะผิวดำ
ความเชื่อนี้ทำเอาคุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนต้องยอมงดอาหาร หรือของหวานจานโปรดที่มีสีดำ เช่น เฉาก๊วย ขนมเปียกปูน งาดำ ชาดำ ไปทันที ทั้งๆ ที่อยากกินแทบใจจะขาด เพราะกลัวลูกออกมาจะมีผิวสีดำ ไม่น่ารักเหมือนเด็กคนอื่นๆ
ความจริง : ในทางการแพทย์ระบุว่า การที่ลูกมีสีผิวขาวหรือดำนั้น จะเป็นไปตามกรรมพันธุ์ของพ่อแม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาหารที่แม่กินเข้าไปขณะตั้งครรภ์1 อาหารสีดำบางอย่างก็มีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างมาก เช่น งาดำ ที่อุดมไปด้วยแคลเซียม มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและประสาท ทั้งช่วยลดการเป็นตะคริวของคุณแม่ได้อีกด้วย แต่ของสีดำอย่าง กาแฟ ชาดำ หรือน้ำอัดลม คุณแม่ก็ไม่สมควรทานอยู่แล้ว เพราะมีคาเฟอีน และน้ำตาลมาก ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพแต่อย่างใดเลย
2. ดื่มน้ำมะพร้าวจะทำให้ลูกผิวขาว ผิวเกลี้ยง
นับเป็นความเชื่อที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่อยากให้ลูกมีผิวพรรณขาวผ่อง เราจึงมักเห็นแม่ท้องส่วนใหญ่จะพยายามหาน้ำมะพร้าวมาดื่มกันแทบทุกวัน
ความจริง : น้ำมะพร้าวจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะมีสารอาหาร และแร่ธาตุหลายชนิด อย่างวิตามินซี วิตามินบี โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดอะมิโน กรดไขมันที่มีประโยชน์ ช่วยทำให้คุณแม่สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ขับถ่ายได้สะดวก และมีเอสโตรเจนที่ทำให้ผิวพรรณสดใส มีน้ำมีนวล แต่หากดื่มมากเกินไปก็จะทำให้เสี่ยงเป็นเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ได้2 เพราะฉะนั้น จึงควรดื่มแต่พอประมาณ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่นั่นเอง
3. กินของแฝด แล้วจะได้ลูกแฝด
บางครอบครัวที่อยากได้ลูกแฝด เมื่อรู้ว่าลูกสะใภ้ หรือภรรยาเริ่มตั้งครรภ์ ก็จะเตรียมอาหารที่มีรูปลักษณ์เป็นแฝด เช่น กล้วยแฝด ไข่ไก่แฝด มาให้กิน เพื่อให้เด็กในท้องออกมาเป็นลูกแฝดตามที่ใจต้องการ
ความจริง : การตั้งครรภ์แฝดนั้น จะเกิดขึ้นตั้งแต่ปฏิสนธิ ซึ่งมีได้ 2 กรณี คือ อสุจิ 1 ตัว ปฏิสนธิในไข่ใบเดียวกัน แล้วเกิดการแบ่งตัวเป็น 2 ตัว หรือเกิดจากผู้หญิงตกไข่มากกว่า 1 ฟอง แล้วอสุจิเข้าไปผสมกับไข่คนละฟอง จึงทำให้เกิดเป็นเด็กแฝด3 ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องอาหารเลยแม้แต่น้อย
4. ห้ามเย็บผ้าเพราะลูกจะคลอดออกมาพิการ
เรามักจะได้ยินคนโบราณพูดอยู่เสมอว่า หากเย็บผ้าขณะตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกคลอดออกมาพิการ หรือเป็นปากแหว่งเพดานโหว่
ความจริง : ความพิการ หรือปากแหว่งเพดานโหว่ของทารกเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมและพันธุกรรม เช่น การติดเชื้อ การกินยา คุณแม่ขาดสารอาหาร ขาดกรดโฟลิค สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้าขณะตั้งครรภ์ รวมถึงหากพบครอบครัวใดที่มีคนเป็นปากแหว่งเพดานโหว่ ก็มีโอกาสที่จะพบเด็กจากครอบครัวนั้นเกิดมาพร้อมกับภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2-4 ดังนั้น คุณแม่ที่มีอาชีพเย็บผ้า หรือต้องการตัดชุดน่ารักๆ ให้ลูกน้อยขณะตั้งครรภ์ ก็ยังคงสามารถทำได้ต่อไป เพียงแต่ไม่ควรหักโหมจนมากเกินไปเท่านั้นเอง
5. ห้ามไปงานศพเพราะผีจะตามมาเอาลูกในท้องไปอยู่ด้วย
เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ผู้ใหญ่คอยเตือนคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างเด็ดขาด เพราะกลัวว่าลูกในท้องจะได้รับอันตรายจากสิ่งที่มองไม่เห็นในงานอัปมงคล
ความจริง : เป็นกุศโลบายของคนเฒ่าคนแก่ที่ไม่ต้องการให้คนท้องไปงานศพนั่นเอง เนื่องจากบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เสียใจ และความเครียด ซึ่งอารมณ์เหล่านี้อาจทำให้คุณแม่รู้สึกหดหู่ เศร้าหมอง และส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ได้
การจะยึดถือความเชื่อใดขณะตั้งครรภ์ ควรพิจารณาถึงเหตุและผลประกอบกัน โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับความปลอดภัย อาหาร และโภชนาการต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อลูกน้อยโดยตรง ทางที่ดีคุณแม่ควรระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน เลือกอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง สดใส เพียงเท่านี้ ลูกน้อยในครรภ์ก็จะคลอดออกมาเป็นทารกที่น่ารัก สมบูรณ์อย่างแน่นอน