6 จุดตรวจก่อนเป็นหนี้ สบายใจหายห่วง
จุดตรวจสำรวจตัวเองก่อนเป็นหนี้
หนี้เป็นภาระผูกพันทางการเงินที่ต้องชำระคืนเป็นระยะเวลานาน หลายคนจึงมักหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ แต่ก็มีบางกรณีที่จำเป็นต้องเป็นหนี้ เช่น การซื้อบ้าน ซื้อรถ การศึกษา หรือการลงทุน เป็นต้น ซึ่งหากตัดสินใจเป็นหนี้แล้ว ก็ควรวางแผนให้ดี เพื่อให้ไม่เป็นหนี้ที่ส่งผลเสียต่อการเงินในอนาคต
6 จุดตรวจสำรวจตัวเองก่อนเป็นหนี้ มีดังนี้
- เช็คหนี้
หนี้มี 2 ประเภท คือ หนี้ดี และหนี้เลว
- หนี้ดี คือ หนี้ที่ทำให้เรารวยขึ้น หรือมีรายได้มากขึ้น เช่น หนี้ซื้อรถกระบะคันใหม่ เอาไว้ใช้ส่งของขายไปตลาด แล้วจะทำให้ทำให้มีรายได้มากขึ้น หนี้กู้เพื่อสมัครเรียนคอร์สเสริมภาษาอังกฤษเพิ่มเติม แล้วจะทำให้เราสามารถเลื่อนตำแหน่ง มีเงินเดือนสูงขึ้น ฯลฯ
- หนี้เลว คือ หนี้ที่ยิ่งเป็นแล้วก่อให้เกิดแต่ภาระ เช่น ซื้อรถเก๋งราคาแพงมาเพื่อเอาไว้อวดข้างบ้านว่าเราก็มีรถเก๋งเหมือนกัน แต่ก็ทำให้เราต้องเสียค่าจอดรถ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อม ค่าประกัน แถมไม่ได้ก่อประโยชน์อะไร เพราะทุกวันยังใช้มอเตอร์ไซค์ขับไปทำงานเหมือนเดิม หรือกู้เงินไปเที่ยวต่างประเทศ ตอนไปแสนสนุกแต่กลับมาต้องใช้หนี้หัวโตอยู่หลายปี
ก่อนเป็นหนี้ คิดให้ดีก่อนว่า หนี้ที่เรากำลังจะก่อเป็นหนี้ประเภทใด หนี้ดีจะทำให้กระแสเงินสดเราเป็นบวกคือ ต่อให้มีรายจ่ายจากการผ่อนหนี้ แต่ก็จะทำให้มีโอกาสสร้างรายได้ขึ้น ในขณะที่หนี้เลวกลับกัน ยิ่งเป็นยิ่งจนลง ฉะนั้นควรก่อแต่หนี้ดี
- เช็คกำลัง
ตรวจสอบดูความสามารถในการจ่ายหนี้ของตนเอง โดยดูได้จากบัญชีรับ-จ่ายที่เรามีก่อนว่า เมื่อเรามีรายได้มาหัก ลบค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีเงินเหลือพอในแต่ละเดือนที่จะผ่อนจ่ายหนี้อีกหรือไม่ โดยปกติสัดส่วนของรายได้และค่าผ่อนรายเดือนรวมทั้งหมดสูงสุดไม่ควรเกิน 45%
ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีเงินเดือนเดือนละ 10,000 บาท เราไม่ควรมีภาระผ่อนสรรพสิ่งทั้งหลาย รถ บ้าน บัตรเครดิต โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ รวมแล้วไม่ควรเกิน เดือนละ 4,500 บาท เพราะที่เหลือเรายังต้องเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ รายเดือน
ฉะนั้นก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ ข้อมูลในสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายจะช่วยทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น ว่าหากเป็นหนี้นี้แล้ว ความสามารถในการจ่ายหนี้เราจะไหวมั้ย ถ้าไม่ไหว ก็หยุดคิดก่อหนี้ไปก่อน รอให้มีรายได้มากกว่านี้ หรือลดรายจ่ายประจำบางอย่างให้ได้ก่อน
- เช็คเจ้าหนี้
เช็คให้ดีว่าเจ้าหนี้ที่เรากำลังจะขอยืมเงินเป็นเจ้าหนี้ประเภทใด ต่อให้จนแต้มอย่างไร ขอแนะนำให้หลีกให้ไกลจากการกู้เงินนอกระบบ นอกจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงแล้ว วิธีการคิดดอกเบี้ยยังแสนโหดคือคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นเป็นรายเดือน ซึ่งพอคำนวณแล้วดอกเบี้ยทบต้นที่ต้องจ่ายจะสูงกว่าวิธีคิดดอกเบี้ยปกติแบบสถาบันการเงินคิดกันอยู่หลายเท่าเลย
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เปรียบเทียบการกู้เงิน 20,000 บาท 1 ปี หากกู้ในระบบดอกเบี้ย 28% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ย 5,600 บาท ต่อปี แต่หากกู้นอกระบบดอกเบี้ย 20% ต่อเดือน จะต้องจ่ายดอกเบี้ย 48,000 บาท ต่อปี
ฉะนั้นก่อนเป็นหนี้ อีกเรื่องที่สำคัญ ที่ต้องเช็คคือ เรากำลังกู้เงินนอกระบบหรือไม่ ถ้าใช่ หลีกหนีให้ไกล
- เช็คดอกเบี้ย
พยายามก่อหนี้ให้ถูกประเภท ไม่ก่อหนี้ระยะสั้น เพื่อนำมาใช้ในระยะยาว ถึงแม้ว่าหนี้ระยะสั้นจะกู้ง่ายกว่า แต่อัตราดอกเบี้ยมักจะแพงกว่าหนี้ระยะยาวเยอะ ยกตัวอย่างเช่น หนี้บ้านดอกเบี้ยต่อปี 7% แต่ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด 28% ต่อปี ถ้าเรามีแผนจะต่อเติมบ้าน เราก็ไม่ควรรูดบัตรกดเงินสด แทนการยื่นกู้ขอยืมเงินจากธนาคารเพื่อต่อเติมบ้าน ถึงแม้ว่าขั้นตอนจะง่ายกว่าก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ต่อให้เป็นหนี้ประเภทเดียวกัน แต่การคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมของแต่ละสถาบันการเงินก็จะแตกต่างกันด้วย ฉะนั้นก่อนที่จะเป็นหนี้ เราควรจะหาข้อมูลเปรียบเทียบให้แน่ใจด้วยว่า ดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่าย เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกที่สุดในช่วงเวลานั้น จะได้ไม่ต้องมานั่งรู้งี้กันทีหลัง เพราะหนี้คือภาระที่เราต้องผ่อนจ่ายนานต่อเนื่องอีกหลายเดือน หลายปี
- เช็ควินัยของตนเอง
ถ้ามาถึงจุดตรวจสอบจุดนี้ แสดงว่าเราน่าจะตัดสินใจทำสัญญาเป็นหนี้กันเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญคือ เมื่อเป็นหนี้แล้ว ต้องจ่ายตรง จ่ายครบ ไม่เบี้ยวหนี้ เมื่อไม่ผิดสัญญาก็จะไม่ต้องโดนปรับเสียค่าธรรมเนียมผิดชำระหนี้ ไม่โดนคิดดอกเบี้ยเพิ่มเนื่องจากผิดสัญญา และก็จะไม่เสียประวัติในเครดิตบูโร
- เช็คความคุ้มครอง
ในที่นี้หมายถึงการทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองหนี้สินนั่นเอง การทำประกันคุ้มครองคนที่มีภาระหนี้สินถือว่าเป็นเรื่อง
หนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในชีวิตของคนเรา แต่หากเราวางแผนให้ดี หนี้ก็จะไม่เป็นภาระที่หนักเกินกว่าจะแบกรับไหว 6 จุดตรวจที่เราได้นำเสนอไปนี้ จะช่วยให้เราสำรวจตัวเองก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ เพื่อให้เป็นหนี้อย่างสบายใจ และไม่เป็นหนี้ที่ส่งผลเสียต่อการเงินในอนาคต
นอกจากนี้ เราควรตระหนักไว้เสมอว่า หนี้ที่ดีนั้น คือหนี้ที่ทำให้เรารวยขึ้นหรือมีรายได้มากขึ้น หนี้ที่ทำให้เรามีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต ฉะนั้นก่อนเป็นหนี้ เราควรคิดให้ดีว่าหนี้ที่เรากำลังจะก่อนั้น คุ้มค่ากับความเสี่ยงหรือไม่
สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกคนคิดเสมอว่า หนี้นั้นไม่ใช่ทางลัดสู่ความสำเร็จ แต่เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นเท่านั้น ถ้าเรารู้จักใช้หนี้อย่างฉลาด หนี้ก็จะกลายเป็นเพื่อนคู่คิดที่ช่วยให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
ข้อมูลที่ใช้เขียนกระทู้นี้มาจากแหล่งต่างๆ ดังนี้
* บทความ "6 จุดตรวจสำรวจตัวเองก่อนเป็นหนี้" โดย ศิริรัตน์ ตานะเศรษฐ, CFP® สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
* บทความ "เช็กก่อนเป็นหนี้ 6 จุดสำคัญ วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ" โดย ธนาคารกสิกรไทย
* บทความ "6 จุดตรวจก่อนเป็นหนี้ ระวังให้ดี หนี้ดีๆ ก็มีอยู่นะ" โดย ธนาคารกรุงเทพ
นอกจากนี้ ผมยังได้ทำการค้นคว้าข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมจากเว็บไซต์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และเว็บไซต์ของเครดิตบูโร เป็นต้น
ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเป็นหนี้นะครับ