หนุ่มพาพ่อแม่กินข้าวในห้าง แต่ถูกรปภ.เชิญออก อ้างเพราะจอดรถเข็นไฟฟ้ากีดขวางทางเดิน
เรื่องราวของหนุ่มสิงคโปร์รายหนึ่งชื่อนายเฉิน ที่พาพ่อแม่สูงวัยไปกินข้าวในห้างสรรพสินค้า AMK Hub ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Ang Mo Kio ด้วยความที่พ่อแม่อายุเยอะแล้ว จะเดินเหินก็ไม่สะดวก เขาก็เลยให้พ่อแม่นั่งรถเข็นไฟฟ้า (Personal mobility aids) ไปคนละคัน และไปจอดหน้าร้านอาหารซึ่งอยู่ชั้น 2 ของห้าง และพยุงพ่อแม่ไปนั่งในร้าน
หลังจากนั้นเขาก็ได้สั่งอาหารให้พ่อแม่กินตามปกติ ก็มีรปภ. ของห้างเข้ามาสอบถามว่ารถข้างหน้าเข็นไฟฟ้าที่จอดข้างหน้าเป็นของใคร เขาจึงบอกว่าเป็นของพ่อเเม่เขา ทางรปภ.แจ้งให้เขาย้ายรถเข็น 2 ขันออกเพราะกีดขวางทางเดินหลัก ถึงแม้ว่ารถจะจอดริมทางเดินที่ว่างก็ แต่รปภ.ก็ยังคงยืนยันให้เอารถออก พร้อมให้ใบแนะนำการจอดรถเข็นกับเขา
ด้วยความที่อาหารเพิ่งมาเสริ์ฟได้ไม่ถึง 20 นาที และเขารวมถึงพ่อกับแม่เพิ่งทานไปได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เขาจึงบอกรปภ.ว่าขอกินให้เสร็จก่อนได้มั้ย แต่รปภ.ก็ยังคงยืนยันให้เอารถออกทันที เขาจึงบอกให้พนักงานช่วยห่ออาหารส่วนที่เหลือให้หน่อย และพยุงพ่อแม่กลับ ซึ่งลูกค้าในร้านก็ช่วยกันพยุงคุณตาคุณยายกลับ
เขาบอกว่าจริงๆ เขามาที่ห้างนี้บ่อย เเละพี่คือครั้งเเรกที่พาพ่อเเม่มากินข้าว ก็เข้าใจว่า รปภ. ทำตามหน้าที่ แต่ก็อยากให้ทางห้างมีการผ่อนปรนกฎบางอย่างเพื่อเอื้ออำนวยต่อผู้สูงอายุบ้าง เพราะพวกเขาเคลื่อนที่ค่อยข้างลำบาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สูงอายุทั้งหลายและคนพาพ่อแม่ที่สูงอายุมากินข้าวในห้าง ส่วนตัวมองว่า ถ้าเป็นรถเข็นปกติเเล้วขึ้นลิฟท์ไปน่าจะโอเค เพราะมันพับได้ อาจจะดีกว่ารถเเบบนี้