นิยายเรื่อง ยมทูตเก็บวิญญาณ
ยายเรื่อง ยมทูตเก็บวิญญาณ
จะโปรโมทให้อ่านสองตอน ถ้าหากสนใจตามอ่านต่อได้ที่ >>> https://www.readawrite.com/a/5136827e140bae4870107aefc997af17
แนะนำเรื่อง
เป็นเรื่องราวของยมทูตตนหนึ่งมีหน้าที่เก็บดวงวิญญาณบนโลกมนุษย์ที่ได้เสียชีวิตให้มายังแดนตัดสินเพื่อฟังคำพิพากษาว่าจะได้ขึ้นสวรรค์หรือตกนรก
วันหนึ่งดวงวิญญาณในแดนตัดสินได้หนีออกมาสู่โลกมนุษย์เพราะความผิดพลาดของยมทูตตนนี้เขาจึงถูกลงโทษให้มายังโลกมนุษย์
หญิงสาวที่ยมทูตตนนี้เคยช่วยไว้ด้วยคำสัญญาที่หญิงสาวเคยให้ไว้ทำให้เขาทั้งสองได้ร่วมชะตากรรมด้วยกัน
ตอนที่1ความเป็นความตาย
ยาราหญิงสาวที่น่ารัก ตัวเล็ก ผิวขาว เธอกำลังนั่งมองสายน้ำในบ่อใหญ่ มองผู้คนที่กำลังเดินไปเดินมาในสวนสาธารณะแห่งนี้ หลังจากที่ได้ออกมาในโรงพยาบาลได้ไม่กี่วัน เธอกำลังครุ่นคิดกับบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ
“โลกหลังความตายมันมีจริงๆ สินะ สิ่งที่ฉันเห็นมันคือเรื่องจริงใช่ไหม?”
15วันที่แล้ว
ยารากำลังเลิกงานและเดินทางกับบ้านเมื่อลงจากรถประจำทางแล้วระหว่างทางที่ยารากำลังเดินเข้าซอยบ้านของเธอก็ได้มีรถเก๋งสีขาวขับมาด้วยความเร็วสูงและระหว่างที่เลี้ยวรถออกมาจากซอยก็ได้ชนยาราเต็มๆ
“ยารา ยารา ยารา” เสียงเรียกนั้นก้องอยู่ในหูของยาราเหมือนตกอยู่ในภวังค์หลังจากนั้นยาราก็หมดสติไปดวงวิญญาณของเธอได้ออกจากร่าง ยืนดูร่างกายที่ไร้วิญญาณของตัวเอกถูกกู้ภัยกำลังพาไปส่งโรงพยาบาลและพี่ชายของเธอที่กำลังนั่งร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจ
"นะ.นั่น ทะ.ทำไมคนนั้นหน้าตาเหมือนฉันเลยคนที่โดนรถชนมีเลือดอาบเต็มหน้า" ยาราเดินไปดูคนที่ถูกรถชนร่างกายนอนแน่นิ่งเต็มไปด้วยเลือดเธอเดินไปใกล้ๆเพื่อจะได้เห็นหน้าชัดๆ
"นั้นมันฉันนี่ทำไมถึงมีเลือดไหลเยอะขนาดนี้"
"พี่ธาม พี่ธาม"
พี่ชายของยารา เอาแต่นั่งร้องไห้ และเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงเรียกของยาราเลยสักนิดเดียวอยู่ ดีๆ ก็มีลมลูกใหญ่มาพัดดวงวิญญาณของยาราไป ยาราหลับตาและยกมือทั้งสองข้างเพื่อบังสายลมลูกนั้นไว้ เมื่อสายลมลูกใหญ่สงบลง ยาราลืมตาขึ้นมา เธอเห็นดวงวิญญาณของตัวเองกำลังยืนอยู่สถานที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน รอบข้างมีต้นไม้ใหญ่ทั้งสองข้างทาง ตรงกลางเป็นถนนทางเดินไกลสุดลูกหูลูกตา บรรยากาศหนาวเย็นยะเยือก มีหมอกควันปกคลุม เต็มไปหมด ยาราตัดสินใจเดินไปตามเส้นทางที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว ทั้งรอบข้างไม่เห็นใครเลยแต่ยาราต้องใจแข็งเดินไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นผีเสื้อสีแดงเปล่งประกายตัวหนึ่งบินมาทางยาราเธอพยายามที่จะจับผีเสื้อตัวนั้นแต่ยังไม่ทันได้สัมผัสผีเสื้อสีแดงก็ปรากฏร่างเป็นดวงวิญญาณผู้ชายคนหนึ่ง
“คุณเป็นใคร” ยาราถามด้วยความตกใจ
“เดินตามฉันมา” หลังจากที่ชายผู้นั้นพูดจบก็มีโซ่ใหญ่มาล็อกที่ข้อเท้าของยาราไว้เธอตกใจมากแต่ทำอะไรไม่ได้
"ซะ โซ่นี้มาได้ยังไง คุณเป็นใครกันแน่ แล้วที่นี่มันที่ไหน"
ทุกคำถามระหว่างทางที่ยาราถาม กลับไม่ได้คำตอบ เพราะชายผู้นั้นไม่ตอบคำถามของยาราเลยสักคำเดียว จนเดินทางมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีดวงวิญญาณมากมายกำลังยืนต่อแถวรออะไรบางอย่าง ซึ่งยาราเองก็ต้องต่อแถวนั้นด้วยเช่นกันข้างในนั้นมีผู้พิพากษา รูปร่างตัวสูงใหญ่ นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นและข้างซ้ายของบัลลังก์ก็มีผู้ชายสีผิวคล้ำคนหนึ่งยืนอยู่ดวงวิญญาณที่นี่ต่างก็เรียกเขาว่าผู้ควบคุมวิญญาณ และข้างซ้ายของบัลลังก์ก็มีผู้ควบคุมวิญญาณอีกคนแต่คนนี้เป็นผู้ที่ควบคุมวิญญาณของยารามา ผู้พิพากษาบนบัลลังก์ได้มองลงมาข้างล่างเหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายนั้นเปรียบเสมือนตัวเล็กเท่ากับมดเลยก็ว่าได้ ระหว่างที่ยารายืนรอต่อแถวอยู่ก็ได้ถามดวงวิญญาณข้างหน้าว่านี่เขาต่อแถวกันทำไมกันหรอ ก็ต่อแถวรอคำตัดสินนะสิว่าจะได้ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์กัน ที่นี่เรียกว่าดินแดนตัดสินหรือหน่วยควบคุมวิญญาณ
“หน่วยควบคุมวิญญาณหรอ?”
"ใช่คนที่ตายแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมวิญญาณพามาที่นี่เพื่อรอคำตัดสิน"
“อ่๋อ งั้นหรอคะ แล้วเขาใช้อะไรตัดสินคะ”
ก็บุญและกรรมที่เราทำกันตอนยังเป็นมนุษย์ไงใครมีบุญมากกว่ากรรม ก็จะได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนใครที่ทำกรรมมากว่าบุญก็จะไปชดใช้กรรมในนรก ดวงวิญญาณที่ถูกตัดสินให้ขึ้นสวรรค์ต่างก็ดีใจ ส่วนดวงวิญญาณที่ได้ตกนรกต่างก็ร้องไห้เสียใจอ้อนวอนผู้ตัดสินและก็มาถึงคิวยารา ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ควบคุมวิญญาณรีบวิ่งมากระซิบกระซาบอะไรสักอย่างกับผู้พิพากษาที่อยู่เบื้องหน้าของยาราท่าทางสายตาท่านผู้นั้นดูตกใจเป็นอันมาก แต่ไม่ได้พูดอะไรกลับแค่พยักหน้ารับทราบเฉยๆ เท่านั้น ผู้พิพากษาได้เปิดสมุดเล่มใหญ่ดูประวัติการบันทึกความดีความชั่วของยารา เจ้ามีความชั่วมากว่าความดี1เปอร์เซ็นต์ เจ้าต้องลงไปชดใช้กรรมในนรก
"แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เองนี่คะ หนึ่งเปอร์เซ็นต์เอง"
"ให้โอกาสฉันได้กลับเข้าร่างมนุษย์ของฉันได้ไหมคะ"
"ฉันยังไม่อยากตาย ฉันยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ของฉันเลยให้ฉันช่วยอะไรก็ได้ ให้แลกด้วยอะไรก็ได้ฉันก็ยอมค่ะ”
"ไม่ได้เจ้าต้องไปชดใช้กรรมในนรกซะ โมนาร์ค พานางไปชดใช้กรรม" เสียงดุดันของผู้พิพากษาทำให้ยารากลัวและไม่กล้าพูดอะไรต่อ
สิ้นเสียงคำสั่งของผู้พิพากษา ชายที่ชื่อโมนาร์คดวงตาสีแดงพร้อมมีผีเสื้อสีแดงเกาะอยู่ที่ไหล่ของเขาเป็นเหมือนสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง ชายผู้นี้เป็นคนที่พายาราเข้ามาในแดนตัดสินตอนแรก ตามมาโมนาร์คพูดกับยาราให้เดินตามเขาไปในระหว่างทางนั้นโมนาร์คก็เอ่ยปากถาม
"เจ้าอยากกลับไปบนโลกมนุษย์อีกไหม"
"อยากกลับสิท่านจะช่วยข้าให้กลับไปหรอ"
"ถ้าเจ้าได้กลับไปบนโลกมนุษย์แต่การใช้ชีวิตของเจ้าจะไม่เหมือนเดิมเจ้าจะยอมรับไหมล่ะ"
"ได้ๆ ขอแค่ข้าได้กลับไปท่านจะให้ข้าช่วยท่านเรื่องอะไรก็ได้ข้าก็ยอม"
"อย่าลืมสัญญาละกัน"
โมนาร์คได้ชี้นิ้วไปทางที่มีแสงสว่างสีขาวบอกให้ยาราเดินไปทางนั้น เมื่อยาราเดินไปก็ได้มีลมลูกใหญ่พัดยาราไปอีกรอบหนึ่ง ยาราตกใจมากระหว่างที่ลมพัดยาราได้ยื่นมือไปเพื่อที่จะจับโมนาร์คไว้แต่ก็ไม่ทันได้จับเธอเห็นแค่ใบหน้าของโมนาร์คที่กำลังยิ้มมุมปากแลดูมีเลศนัยจนยาราลืมไม่ลงเลยทีเดียว
ตอนที่2 การกลับมา
ยารา ยารา เสียงก้องกังวานในภวังค์ทำให้ยาราสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้พบกับเจ้าของเสียงเรียกในขณะที่เธอกำลังหลับไหลอยู่ ธามพี่ชายของเธอ เมื่อธามเห็นยาราตื่นก็รีบไปตามพยาบาลให้มาดูอาการทันที
"เป็นไงบ้างยาราในที่สุดเธอก็ฟื้นซักทีนะ" พี่ชายเอามือมาลูบหัวน้องสาวของเขาด้วยความเป็นห่วง
"ที่นี่ที่ไหน" ยาราถามด้วยความมึนงง
"ที่นี่คือโรงพยาบาล" จำได้ไหมว่าเกิดอะไรชึ้นบ้าง
"เห็นผู้ชายที่ชื่อโมนาร์คไหม"
"ไม่มีนะไม่เห็นใครเลยเธอฝันไปหรือเปล่า"
"สงสัยคงจะเป็นแค่ฝันไปจริงๆสินะ"
"พักผ่อนเถอะจะได้หายไว"
ณ แดนตัดสินโทษ
เจ้าต้องไปเก็บดวงวิญญาณที่หลุดออกไปกลับมาให้ได้เพราะความสะเพร่าของเจ้าที่ออกไปเก็บดวงวิญญาณที่โลกมนุษย์แต่ดันลืมปิดมิติที่เชื่อมระหว่างโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์ทำให้เหล่าดวงวิญญาณได้หนีจากแดนตัดสินไปยังโลกมนุษย์ได้หลายตน เจ้าจะกลับมาดินแดนตัดสินได้ก็ต่อเมื่อเจ้านำดวงวิญญาณที่หลุดกลับมาได้ครบเท่านั้น นี่คือสิ่งที่เจ้าต้องรับผิดชอบ นี่คือความผิดข้อแรกของเจ้า
ความผิดข้อที่สองเจ้าปล่อย ผู้หญิงคนนั้นกลับสู่โลกมนุษย์ได้ยังไงจะอดีตหรือปัจจุบันข้าไม่สนใจความผิดเจ้าครั้งนี้ใหญ่นัก เจ้าจะกลับมาทำหน้าที่ในดินแดนตัดสินได้ก็ต่อเมื่อผู้หญิงที่เจ้าปล่อยไปหมดอายุไขอีกครั้งในโลกมนุษย์นี่คือบทลงโทษของเจ้า ข้อที่สอง สิ้นสุดเสียงคำสั่งนั้นดวงวิญญาณของโมนาคก็ได้ถูกลมมรสุมลูกใหญ่พัดออกมาจากดินแดนตัดสินโทษในทันที
โมนาร์คได้พยายามตามหาดวงวิญญาณที่หลุดไปเพื่อจับมารับโทษแต่ก็พบบ้างไม่พบบ้าง บางดวงวิญญาณเมื่อเห็นโมนาร์คก็หนีทันทีเพราะรู้ว่าโมนาร์คเป็นยมทูตบ้างก็หลบหนี บ้างก็สิงร่างผู้อื่น
"ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปข้าต้องได้อยู่บนโลกมนุษย์นี้อีกนานแน่ๆ"
เมื่อเป็นเช่นนี้โมนาร์ค จึงตัดสินใจไปหายารา เพื่อให้ยาราช่วย แล้วจะได้คอยจับตาดูด้วยเมื่อยาราสิ้นอายุไขอีกครั้ง
ยาราออกจากโรงพญาบาลแล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้าน
“พี่กลับไปนอนที่ห้องก่อนนะ"
"ถ้ามีอะไรก็เรียกได้นะ”
“โอเครไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่ธามไปพักผ่อนเถอะเหนื่อยมาเยอะละ”
เมื่อยารานุ่งผ้าขนหนูเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่บนเตียงนอนของเธอ
ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัญสีดำทั่วร่างกายได้เงยหน้าขึ้นมามองยาราในตาแดงกล่ำของชายผู้นั้นทำให้ยารารู้ได้ทันทีว่านี่อาจจะไม่ใช่มนุษย์ ยารายืนอึ้งอยุ่กับสิ่งที่เห็นตรงหน้าแข็งไปทั้งตัวเหมือนมีใครมาดึงขาของเธอไว้ ดวงวิญญาณตนนั้นได้เลื่อนตัวมาใกล้ยาราและยื่นมือมาทางยาราหลับตาและกำลังจะกรี๊ดร้องให้พี่ชายมาช่วย ก็ได้ยินเสียงดวงวิญาณตนนั้นร้อง เมื่อยาราลืมตาขึ้นมาก็ได้เห็น ชายคนหนึ่งรอบตัวเปล่งประกายสีแดงยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ ใบหน้าที่คุ้นเคยนี้ ชายผู้นั้นได้ทำการส่งดวงวิญญาณนั้นกลับไปยังแดนตัดสิน
"นี่ฉันฝันไปหรือเปล่านะ"
"เธอไม่ได้ฝันหรอก"
ยาราใช้มือตบหน้าตัวเองเพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าเธอไม่ได้ฝันไปจริงๆ
"แล้วคุณมาทำไมจะมานำวิญญาณฉันกลับไปอีกหรอ ไม่นะฉันยังไม่อยากตายยยยย"
"หยุดโวยวายก่อนสักทีฉันไม่ได้มาเอาดวงวิญญาณเธอ"
"จำสัญญาที่เธอให้ไว้ได้หรือเปล่า"
"สัญญา สัญญาอะไร"
"ก็สัญญาณที่เธอให้ไว้ว่าจะช่วยฉันทุกเรื่องไงเพื่อแลกกับการที่เธอได้กลับเข้าร่างเธออีกครั้ง"
"อ๋อ แล้วจะให้ฉันช่วยอะไรละ"
"เรื่องที่ง่ายมากๆ ช่วยฉันตามหาวิญญาณที่หลุดออกมาจากแดนตัดสิน เพราะฉันจะต้องนำพวกมันกลับไปรับโทษ"
"ฮ่า ฮ่า นายจะบ้าหรอ ฉันจะไปหาจากไหนแล้วจะหาได้ยัง จะให้ฉันช่วยโดยการดมกลิ่นหรือไง หรือจะให้ฉันใช้มือคลำสัมผัสเอาดีละ"
"ใช้สายตาเธอนี่แหละ"
"จะใช้สายตาได้ไง ฉันมองเห็นวิญญาณได้ที่ไหนกันละ"
"แล้วก่อนหน้านี้ที่เธอเห็นเธอคิดว่ามันคืออะไรแล้วที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ละคิดว่าฉันเป็นคนหรอ"
โมนาคพูดพร้อมกับโน้มใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้กับใบหน้าของยารา ยาราเงียบและกำลังคิดในสิ่งที่เขาพูด
"นายหมายความว่าฉันมองเห็นวิญญาณได้งั้นหรอ ทำไมกันละทำไมถึงเป็นแบบนี้"
"ก็อย่างที่ฉันบอกเธอไว้แล้วไงถ้าได้กลับมาในโลกมนุษย์ในชีวิตเธอจะไม่เหมือนคนปกติ จะมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เพราะเธอได้ผ่านความเป็นความตายมาแล้ว"
"ถึงแม้ว่าดวงวิญญาณจะกลับมาเข้าร่างได้เหมือนเดิมแต่ก็เปรียบเสมือนเธอได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง เธอจึงมองเห็นดวงวิญญาณได้และเธอต้องช่วยฉันจับดวงวิญญาณพวกนั้น"
"แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าดวงวิญญาณไหนที่หลุดออกมาจากแดนตัดสิน"
"ง่ายมากเธอสังเกตที่ข้อเท้า จะมีโซ่ใหญ่ๆล็อกข้อเท้าอยู่นั้นคือดวงวิญญาณที่หนีออกมาจากแดนตัดสิน"
โมนาร์คนำด้ายสีแดงผูกไว้ที่ข้อมือของยารา นี่เป็นด้ายแดงที่ผูกกับมือของโมนาคและยารา
"ถ้าหากว่าเธอเจอดวงวิญญาณที่หนีออกจากแดนตัดสิน ให้เธอดึงได้นี้ทันทีและฉันก็จะมาจัดการกับดวงวิญญาณนั้น"
ยาราคิดในใจสงสัยต้องได้ตายอีกรอบแน่นอนเลย
ไม่ต้องกลัวว่าเ ธอจะเป็นอันตรายหรอกนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอเป็นอันตรายแน่นอน
"แล้วทำไมนายถึงช่ายให้ฉันได้กลับมาละ"
โมนาร์คเงียบไม่ตอบอะไร ไปใส่เสื้อผ้าแล้วไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว
คำว่าไปใส่เสื้อผ้า ยารา ก้มมองตัวเองที่กำลังห่มผ้าขนหนูอยู่หลังจากพึ่งอาบน้ำเสร็จ ยาราหน้าแดงและกรี๊ดดดออกมาด้วยความตกใจ
"ก๊อกๆ ยาราเป็นอะไรหรือเปล่า"
เปิดประตูหน่อย พี่ชายของยาราวิ่งมาหายาราเพราะได้ยินเสียงกรี๊ดของเธอ
"อ๋อพอดี หนูเจอแมลงสาบนะแต่มันหนีไปแล้วไม่เป็นอะไรแล้วค่ะพี่ไม่ต้องเป็นห่วง"
"อ่อเคร งั้นพี่ไปนอนแล้วนะ"
การฉีกยิ้มมุมปากและทำหน้าเจื่อนๆของโมนาร์ค แสดงออกได้ถึงความสงสัย "แมลงสาบงั้นหรอ หึ"
"นายจะไปได้ยัง ฉันจะใส่เสื้อผ้า"
"ก็ได้ถ้ามีอะไรก็ดึงได้ละกัน"