หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

มหาลักษมีบูชาในคืนดิวาลี คืนศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องไปมู

เนื้อหาโดย กัลยลิขิต

ในวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 12 หรือ คืนที่ 1 ของเดือนการติก ซึ่งในปีนี้ตรงกับวัน อาทิตย์ ที่ 12 พฤศจิกายน นอกจากจะเป็นช่วงเวลาของเทศกาลดิวาลี दिवाळी เทศกาลแห่งแสงสว่าง เป็นช่วงเวลาของเทศกาลเฉลิมฉลองของทางซีกโลกเหนือ ในคืนนี้ก็ยังมีวันพิเศษซ้อนกันอยู่นั่นก็คือวันมหาลักษมีบูชา लक्ष्मी पूजा

เป็นเทศกาลที่ประชาชนผู้นับถือศาสนาฮินดู โดยเฉพาะนิกายศักติจะทำการจัดแต่งหิ้ง เทวาลัย เพื่อบูชาเทวีลักษมีไปพร้อม ๆ กับการจุดประทีป หรือ ดียา दिया ให้แสงสว่างตลอดทั้งคืนศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่ก่อนจะถึงวันอันศักดิ์สิทธิ์นี้เรามาทำความรู้จักกับเทวีลักษมีกันก่อนดีกว่า

เทวีลักษมี लक्ष्मी หนึ่งในเทวีตรีศักติแห่งลัทธิศักติ เทวีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง
อ่านต่อได้ที่ ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นอิตถีเทวะมหาเทวีองค์หนึ่งซึ่งมีความงดงามเหนือกว่าเทพเทวีทั้งปวง

พระนางทรงเป็นพระชายาคู่บารมีของพระศรีหริวิษณุเจ้า श्री हरि विष्णु ไม่ว่าพระวิษณุจะเสด็จอวตารลงไปปราบมารในปางใด พระลักษมีก็จะทรงเสด็จอวตารตามลงไปคอยปรนนิบัติรับใช้ช่วยเหลืออยู่เป็นคู่คิดด้วยเสมอทุกครั้ง ดังปรากฏในคัมภีร์วิษณุปุราณะอยู่เสมอ ๆ จนได้ชื่อว่าเป็นมหาเทวีที่มีคุณลักษณะอันดีงาม เหมาะสมที่จะเป็นแบบอย่างแก่สตรีทั่วไปในเรื่องของความจงรักภักดีต่อผู้เป็นสามี ในหลาย ๆ ครั้งเราจะเห็นว่าบรรดาสตรีทั้งหลายจะนิยมสักการบูชาและอ้อนวอนพระลักษมีให้ทรงประทานพรในเรื่องราวแห่งความรัก เพราะนอกจากพระนางจะเป็นมหาเทพแห่งโชคลาภและความร่ำรวยแล้ว ก็ยังทรงเป็นมหาเทวีแห่งความรักอีกด้วย

การกำเนิดของเทวีลักษมีนั้นมีอยู่มากมาย ในแต่ละคัมภีร์นั้นประวัติความเป็นมาและการกำเนิดของเทวีลักษมีซึ่งมีรายละเอียดอันพิสดารแตกต่างกันไป เช่น ในตอนหนึ่งของคัมภีร์วิษณุปุราณะ กล่าวถึงกำเนิดของพระนางว่า ทรงเป็นพระธิดาของพระฤาษีนามว่าพระฤคุกับนางขยาติ ครั้นเมื่อเจริญวัยขึ้นก็ได้ อภิเษกสมรสขึ้นเป็นพระมเหสีเอกของพระวิษณุ

ในคัมภีร์คีตภัทราพรหมนา กล่าวถึงกำเนิดของพระนางว่า ทรงเกิดมาจากพระวรกายหรือการแบ่งภาคของพระประชาบดี เทพผู้ใหญ่อีกองค์หนึ่ง และได้ถวายพระนางแด่พระวิษณุเจ้าในเวลาต่อมา

ในคัมภีร์ไตรติรียะสังหิตา กล่าวไว้ว่าพระลักษมีเคยเป็นชายาของพระอาทิตย์มาก่อน และก่อกำเนิดมาจากพระอาทิตย์เป็นแห่งแรก

ในคัมภีร์โบราณของคติฮินดู เป็นคัมภีร์โบราณเก่าแก่ที่ไม่ปรากฏชื่อ กล่าวว่า เทวีลักษมี ทรงเป็นเทพธิดาในสมัยพระเวทย์ที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาล เหล่าทวยเทพพากันมาแย่งฉกชิงเอาทรัพย์สมบัติแก้วแหวนเงินทองของพระนางไปจนเหลือแต่ตัวพระนางเอง พระวิษณุจึงรับพระนางมาอภิเษกสมรสเป็นพระมเหสี ผู้เป็นเสมือนพลังที่คอยส่งเสริมให้แก่พระวิษณุในฐานะผู้ที่ปกปักรักษาโลก

แต่ที่เห็นจะตรงกันและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปคือเทวีลักษมีนั้นถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อครั้งกวนเกษียณสมุทร ซึ่งมีปรากฎอยู่ในคัมภีร์วิษณุปุราณะและในคัมภีร์มหารามายณะ ซึ่งได้กล่าวถึงในปางกูรมาวตาร อวตารครั้งที่ 3 ของพระวิษณุ โดยทรงอวตารเป็นเต่าไปหนุนเขามันทรที่ใช้เป็นไม้กวนเกษียณสมุทร ซึ่งชนวนเหตุมีอยู่ว่า เมื่อครั้งฤๅษีทุรวาสออกจากญาณปฏิบัติ ก็ได้ไปเที่ยวเก็บผลไม้ในป่าหิมพาน

แล้วได้พบนางอัปสราตนหนึ่งนำพวงมาลัยมาถวาย พวงมาลัยดอกไม้มีกลิ่นหอมอบอวล ไม่มีดอกไม้ในโลกที่จะเปรียบเทียบในกลิ่นหอมของดอกไม้จากสวรรค์นี้ได้ ในที่สุดกลิ่นหอมของดอกไม้นั้นก็เริ่มออกฤทธิ์ทำให้มีอาการคลุ้มคลั่ง ฤๅษีทุรวาสเที่ยวร้องเพลงและเต้นรำโดยไม่รู้สึกตัว ในขณะเดียวกันพระอินทร์ได้ทรงช้างเอราวัณผ่านมาทางนั้นก็ได้พบกับฤๅษีทุรวาส ซึ่งขณะนั้นยังคลั่งไคล้ด้วยกลิ่นของดอกไม้จนลืมตัว แต่เมื่อเห็นพระอินทร์ก็จำได้ จึงได้ถวายพวงมาลัยนั้นให้กับพระอินทร์ พระอินทร์ก็รับด้วยความเต็มใจ แล้วจึงนำเอามาวางไว้บนหัวช้างเอราวัณ เมื่อช้างเอราวัณได้กลิ่นดอกไม้นั้นก็เกิดอาการตกมันคลุ้มคลั่งเช่นเดียวกับพระฤๅษี ทุรวาส

จนเผลอเอาเอางวงจับพวงมาลัยนั้นมาฟาดลงกับพื้นแล้วกระทืบจนพวงมาลัยนั้นแหลกไม่มีชิ้นดี ฤๅษีทุรวาสเห็นดังนั้นก็โกรธจัดจึงได้สาปแช่งให้กำลังของพระอินทร์และเทวดานั้นลดถอยลง เป็นเหตุในเหล่าอสูรนั้นขึ้นมาทำการรุกรานสวรรค์ ความทราบถึงพระเป็นเจ้าทั้งสาม แต่พระองค์นั้นไม่สามารถถอนคำสาปของฤๅษีทุรวาสนี้ได้จึงวางแผนแยบยลโดยการจัดพิธีกวนเกษียณสมุทรขึ้นมาเพื่อนำน้ำอมฤตที่ได้จากการกวนเกษียณสมุทรมาให้เหล่าเทพทั้งหลายดื่ม โดยได้เชิญชวนให้เหล่าอสูรมาร่วมพิธีด้วย

เมื่อหาสมุนไพรที่ต้องการทิ้งไปในสมุทรแล้ว ก็เอาภูเขา มันทรเป็นไม้กวน ใช้พญานาควาสุกีเป็นเชือกดึง ก็เกิดการโต้เถียงกันระหว่างเทพกับอสูร ด้วยขณะนั้นอสูรเป็นผู้ครองสวรรค์จึงต้องการชักที่ข้างหัว มหาเทพเห็นเป็นโอกาสจึงสั่งให้เหล่าเทพไปชักข้างหางนาค เพราะหากชักข้างหัวนาคก็อาจจะได้รับพิษของนาคได้ การกวนเกรียณสมุทรจึงได้เกิดขึ้น แต่ระหว่างที่กวนไปนั้นพระวิษณุเกรงว่าแรงเสียดทานจากภูเขามันทรจะทำให้พื้นโลกทะลุจึงได้อวตารไปเป็นเต่าลงไปหนุนเขาเอาไว้ แล้วในขณะเดียวกันพิษของนาควาสุกรีที่พ่นออกมาตลอดเวลาก็ได้ทำให้เหล่าอสูรเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทั้งพิษนาคยังกระจายไปทั่วเกษียณสมุทร

พระศิวะเจ้าเกรงว่าจะมีผลต่อโลกทั้งสามจึงได้ดื่มพิษนาคเข้าไปแล้วเก็บไว้ที่พระศอ พิษนาคได้กัดพระศอจนเป็นสีดำ ทุกคนจึงพร้อมใจกันขานพระนามว่า นิลกัณฐ์ ในที่การกวนเกษียณสมุทรก็สัมฤทธิ์ผล เกิดสิ่งมงคลขึ้นมาในครั้งนั้นมากมาย ร่วมถึงเทวีลักษมี เทวีที่รูปโฉมงดงาม ผุดขึ้นมาจากดอกบัวหลวง มีกลิ่นหอม พระองค์ประทานพรแห่งความสุข ความมั่งคั่งแก่ทุกคนที่พระองค์พบเห็นในตอนนั้น ก่อนที่จะเสด็จมาประทับเคียงข้างพระวิษณุ ถวายตัวเป็นพระชายา จนได้รับขนานนามในตอนนั้นว่า วิษณุปรียาลักษมี विष्णु प्रिया लक्ष्मी

รูปเคารพของพระลักษมีนั้นส่วนใหญ่จะปรากฏเป็นองค์เดี่ยวบ้าง เคียงคู่กับพระนารายณ์บ้าง ซึ่งรูปเคารพส่วนใหญ่จะสร้างขึ้นด้วยโลหะสีทอง นิยมสร้างสรรค์กันในปางที่พระนางทรงประทับนั่งบนดอกบัวบ้าง นั่งหรือยืนเคียงคู่กับพระวิษณุบนพระแท่นบ้าง โดยรูปวาดเคารพจะปรากฏพระวรกายจะมีสีต่าง ๆ เช่น สีขาว สีชมพู สีทอง สีเขียวอ่อน ฉลองพระองค์อย่างนางกษัตริย์ ที่งดงามทั้งพระภูษา และพัตราภรณ์ อีกทั้งเครื่องประดับต่าง ๆ สมกับเทวีแห่งความมั่งคั่งสมบูรณ์


ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเรามักจะพบเห็นและกราบไว้พระองค์ในปางมหาลักษมี ปางนี้ปรากฏเป็นพระลักษมีที่มี 1 พักตร์ 4 กร 2 กรหน้านั้นแสดงปางการุณ ส่วนอีก 2 กรนั้นทรงถือดอกบัวไว้ ปางนี้ พระวรกายเป็นสีชมพู ในท่าประทับยืน

แต่ก็ยังมีรูปวาดรูปปั้นเคารพของเทวีลักษมีในลักษณะอื่น ๆ อีก อาทิ
ปางการุณยลักษมี
ปางนี้ปรากฏเป็นรูปลักษณ์ 1 พักตร์ 4 กร พระหัตถ์ขวาหน้าทรงชี้นิ้วขึ้นข้างบน พระหัตถ์ซ้ายแบปลายนิ้วชี้ลงด้านล่าง ส่วน อีก 2 กรนั้นทรงถือดอกบัวกับพระสังข์ ปางนี้มีพระวรกายสีเขียว

ปางวิทยลักษมี
ปางนี้ปรากฏเป็นรูปลักษณ์ 1 พักตร์ 4 กร พระหัตถ์นั้นแสดง ปางประทานพร ถือเหล็กจาร และถือดอกบัว ส่วนพระฉวีหรือ ผิวนั้นเป็นสีชมพู ปางนี้ประทับยืนอยู่บนดอกบัวแดง

ปางธนลักษมี
ปางนี้ปรากฏเป็นรูปลักษณ์ 1 พักตร์ 4 กร ทรงถือหอย สังข์ ใบพฤกษชาติ ดอกบัวไว้ในพระหัตถ์ ส่วนพระวรกายนั้นเป็น สีขาว ปางนี้ทรงเป็นที่เชื่อถือกันว่ามักประทานโชคลาภและเงินทอง อีกทั้งความสำเร็จแก่ผู้ที่สักการบูชาพระนาง

การบูชาเทวีลักษมีมีมาตั้งแต่สมัยโบราณมาจนตราบปัจจุบัน ตามคติฮินดูนั้นนิยมสักการบูชาพระลักษมี เพื่อขอพรในเรื่องของเงินทองความมั่งคั่ง ร่ำ รวย และโชคลาภ
ต่อมาก็ได้มีขอพรในด้านของความสำเร็จ ความรัก แต่ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่งร่ำรวย ความสำเร็จ และความสมหวังในความรักนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อถือกันทั่วไปว่าเทวีลักษมีจะประทานพรเหล่านี้ให้แก่สาวกผู้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรอันศักดิ์สิทธิ์นั้นจากพระองค์

บางท้องถิ่นผู้เป็นภรรยาและแม่จะทำการสักการบูชาเทวีลักษมีเพื่อขอให้ครอบครัวมีความรักใคร่กลมเกลียวกันดี มีความจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อกันระหว่างสามีภรรยา ส่วนบรรดาสตรีโสดนั้นมักจะขอพรในเรื่องของความงามและคู่ครอง ความรัก ความร่ำรวย

การสักการบูชาส่วนใหญ่นั้นทั่วไปนิยมใช้ดอกบัวสักการบูชา รูปเคารพพระนางลักษมี โดยเฉพาะดอกบัวที่มีสีชมพูเข้มจนเกือบจะ เป็นสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ของพระนางมาบูชานั้นก็ถือว่าจะสมบูรณ์ แบบอย่างยิ่ง แต่หากหาบัวแดงไม่ได้ก็ใช้ดอกบัวธรรมดา และมาลัย ดอกไม้อื่นๆ ได้เช่นกัน โดยยังจะมีเครื่องสักการะบูชาอื่น ๆ เช่น

ปัญจอมฤต อันได้แก่ น้ำสะอาด น้ำนม น้ำผึ้ง ฆีหรือเนยใส และโยเกิร์ตธรรมชาติ บางที่ก็อาจจะใช้เป็นน้ำตาลทรายแทนน้ำเปล่า รวมไปถึงอาหาร ขนม ที่ไม่ส่วนผสมของเนื้อสัตว์และไข่ อาทิ

นาริยัลลัฑฑู ขนมลัฑฑูที่ทำจากมะพร้าวผัดกับนมสด ขนมโมทกะ และขนมอินเดียต่าง ๆ ที่ทำจากมะพร้าว ถั่ว ธัญพืช เช่นเดียวกับการบูชาเทพฮินดูองค์อื่น ๆ

โดยทั่วไปจะสามารถบูชาเทวีลักษมีได้ทุกวัน แต่จะมีเทศกาลพิเศษสำหรับบูชาเทวีลักษมี 5 ครั้งต่อปี ในวันพฤหัสบดี ข้างขึ้นของเดือนยี่ เดือนห้า และเดือนสิบ กับวันขึ้น 15 ค่ำของ เดือน 11 และวันขึ้น 1 ค่ำในเดือน 12 หรือวันมหาลัษมีบูชาในคืนเทศกาลดิวาลีที่จัดขึ้นพร้อมกันในวันที่ 1 ของเดือนการติกนี้เอง

ซึ่งในคืนนี้นอกจากจะทำการบูชาเทวีลักษมีแล้ว ในหลาย ๆ ที่ก็ยังมีการบูชาพระพิฆเนศ เทวีสรัสวตีร่วมด้วย

เนื้อหาโดย: minibuskhonnang
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กัลยลิขิต's profile


โพสท์โดย: กัลยลิขิต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แสงปริศนาโผล่เหนือท้องฟ้าทั่วไทย ไม่ใช่ต่างดาว!..เฉลยแล้วคืออะไร ?เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เตโอตีวากาน (Teotihuacan) กับตำนาน วันสิ้นโลก เมืองโบราณที่ไม่รู้ใครสร้างโอ้ยตูจะบ้า!! หนุ่ม grab car ไปส่งลูกค้าสาวที่บ้าน เจอแม่ของลูกค้าวีนฉ่ำถาม “มึงเป็นอะไรกับลูกกู”สั่งพักงานยกชุด! 18 ตำรวจจราจร ปมตั้งโต๊ะจับปรับ 'เจอจ่ายจบ'"เชน ธนา การเงินวิกฤตหนัก ตัดใจประกาศขายออฟฟิศ 3 ตึก ราคารวมเกือบร้อยล้านนักโทษแดนประหารที่สวยน่ารักที่สุดในโลก!คนดูยังท้อ!! หนุ่มทำคอนเทนต์ตามล่า “ ช็อกโกแลตดูไบ” ในเซเว่น หาทั้งจังหวัด 23 สาขา ก็ยังไม่มี แต่สุดท้ายได้ลองสมใจกรี้ดดด... ออนนี่ #ยุนอึนฮเย #PrincessHours #เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา กลับมาแล้วจ้าาา 20ปี ผ่านไป สวยเหมือนเดิมเลยบุกจับแก๊งคอลเซนเตอร์จีน กลางกรุง ยึด Sim Box 286 เครื่อง ซิมการ์ดกว่า 3 แสนชิ้นThe Bloop เสียงลึกลับใต้ทะเลที่ไม่สามารถอธิบายได้หนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้น
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
โอ้ยตูจะบ้า!! หนุ่ม grab car ไปส่งลูกค้าสาวที่บ้าน เจอแม่ของลูกค้าวีนฉ่ำถาม “มึงเป็นอะไรกับลูกกู”หนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นโศกนาฏกรรมต้อนรับปีใหม่ ที่บราซิล
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
วิธีล้างผักให้สะอาดปราศจากสารพิษตกค้างตายแล้วไปไหน? มาฟังคำตอบจากมุมมองทางศาสนา วิทยาศาสตร์ และปรัชญากันจริงไหมที่คำว่า ‘Salary’ มาจาก ‘Salt’ เพราะทหารโรมันรับค่าจ้างเป็นเกลือ?อยากโกอินเตอร์? เจาะลึกวิธีหางานต่างประเทศ 2567 แบบถูกกฎหมาย ได้สิทธิเต็มที่ ไม่มีโดนหลอก!
ตั้งกระทู้ใหม่