มารู้จัก"วนิลลากันเถอะ"
วานิลลา (Vanilla) มีลักษณะเป็นฝักยาว สีเขียว คล้ายกับถั่วฝักยาว เป็นไม้เลื้อย สามารถเลื้อยพันขึ้นไปได้ถึง 10 เมตร สีเขียวออกตามข้อ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนาน โคนใบมนกลม ปลายใบแหลม ช่อดอกแบบช่อกระจะ มีหลายดอก ออกตามซอกใบ สีเขียวปนเหลืองอ่อน มีกลีบปากขอบย่นลักษณะคล้ายดอกกล้วยไม้ มีเส้นผ่านศูนย์กลางของดอก 4-6 เซนติเมตร ฝักอ่อนสีเขียว แก่จัดสีเหลือง เมื่อฝักสุกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและมีกลิ่นหอม สายพันธุ์ที่มีคุณค่าทางการค้ามีอยู่เพียง 3 สายพันธุ์คือ
1.Vanilla planifolia (Andrews.)
2.วานิลลอน Vanilla pompona
3.วานิลลาตาฮิติ Vanilla tahaitensis
วานิลลาเป็นพรรณไม้ที่อยู่ในวงศ์เดียวกับกล้วยไม้ เป็นพืชที่สามารถนำฝักมาใช้ประโยชน์ โดยกลิ่นวานิลลาที่ให้ความหอมหวานนี้มีประโยชน์ในหลายด้าน พบว่ากลิ่นวานิลลามีความสามารถในการสร้างความรู้สึกสงบนิ่ง และลดความตื่นตระหนกได้เป็นอย่างดี
วิธีการปลูก
การขึ้นค้างเป็นแถวในโรงเรือนพรางแสง สามารถควบคุมปริมาณน้ำที่รดและให้ตามเวลาที่กำหนดเวลาต้องการได้
วัสดุปลูก
ใช้กาบมะพร้าวทั้งเปลือกเป็นวัสดุปลูกเพราะช่วยรักษาความชื้นและให้รากยึดเกาะได้ดีทำโดยกองเปลือกมะพร้าวให้พูนเต็มโคนเสาสูงกว่าบริเวณข้างเคียงเพื่อให้ระบายน้ำออกไปได้ดี มะพร้าวทั้งเปลือกและเป็นชิ้นใหญ่ใช้ได้ทนนานเหมาะสมดีกว่าการใช้มะพร้าวสับไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กหรือสับขนาดใหญ่ เนื่องจากมะพร้าวชิ้นสับจะผุเร็วและไม่ค่อยระบายน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งมะพร้าวชิ้นเล็กที่ผลิตมาจากเปลือกที่ฝานผลมะพร้าวอ่อนจะยิ่งผุได้ง่ายและมีปริมาณแป้งอยู่มากทำให้ความชื้นระบายออกไปได้ยากก่อให้เกิดเชื้อราจำนวนมากเป็นปัญหาใหญ่ต่อระบบรากและต้นวานิลลาทำให้รากและต้นเน่าได้ง่าย ในแถวของวานิลลาจึงควรมีพื้นสูงกว่าด้านข้างนอกหรือรอบนอกเพื่อให้ระบายน้ำออกไปการก่อแนวแปลงด้วยอิฐหรือซีแพค และใส่ชิ้นเปลือกมะพร้าวลงไปตามแนวช่วยป้องกันไม่ให้เปลือกมะพร้าวกระจายตัวไปที่อื่นได้ดีส่วนใต้พื้นแนวแปลงจะทำเป็นรางสามเหลี่ยมให้น้ำมารวมกันแล้วระบายออกไปนอกโรงเรือนก็ได้หรือจะทำเป็นร่องด้านข้างหน้าอิฐซีแพคแล้วต่อไปนอกโรงเรียนก็ได้เช่นกัน
การปลูก
เลือกยอดที่แข็งแรง เเละมีสีเขียวเข้มโดยให้มีความยาว 50 ถึง 100 cm จากยอด ให้ปลายยอดอยู่ชิดเสาเเละใช้เชือกผูกมัดปลายยอดให้ติดกับเสาขึ้นไปในแนวตั้ง ไม่จำเป็นจะต้องพันยอดติดกับเสา วานิลลาจะออกรากเฉพาะตรงข้อที่สัมผัสกับกาบมะพร้าวภายในระยะเวลา 1 เดือน โดยให้รากยึดติดกับกาบมะพร้าว เพื่อให้เจริญเติบโตเกาะไต่ขึ้นไปกับเสา ซึ่งเกษตรกรหลายรายไม่เข้าใจเทคนิคการปลูกเเละนิยมใช้โดยวิธีปรับยอดลงในดิน ทำให้เชื้อโรคจากดินเข้าไปในยอด ลำยอดที่อยู่ใต้ข้อแรกจะมีอาการเหลืองอย่างรวดเร็วภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์แล้วลุกลามไปสู่ส่วนบน ดังนั้นจึงไม่ควรปรับยอดปลูกลงดินเพราะจะทำให้วานิลลาเสี่ยงงต่อการเกิดโรค
การให้น้ำ
การรดน้ำต้นวานิลลาในช่วงที่ปลูกใหม่ 1 เดือนแรกให้รด 2 ครั้งเช้า-เย็น หลังจากนั้นรดเพียงวันละครั้งก็เพียงพอ และดูแลจัดการเหมือนต้นกล้วยไม้ทั่วไป ทั้งในเรื่องของการพ่นปุ๋ยและยาป้องกันเชื้อโรค
การติดดอกและการผสมดอก
วานิลลาจะออกดอกเมื่ออายุประมาณ 3 ปี หลังการปลูก และจะให้ดอกเต็มที่เมื่ออายุได้ 7 ถึง 8 ปี หลังการปลูก ดอก ออกดอกปีละ 1 ครั้งในเดือนพฤศจิกายนและจะบานในเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงเวลา 8:00 น. ถึง 10:00 น. เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการผสมเกสรมากที่สุด เนื่องจากดอกจะบานเต็มที่และทำได้โดยการเขี่ยเกสรตัวผู้ให้ติดเข้าไปในช่องของเกสรเพศเมียเหมือนกับการผสมกล้วยไม้ทั่วไป
การตัดฝักและเก็บเกี่ยว โดยปกติ หลังการผสมเกสรประมาณ 7 ถึง 9 เดือน สามารถเก็บฝักได้ หรือถ้าอากาศเย็น อาจต้องรอถึง 12 เดือน เพราะวานิลลาชอบอากาศร้อนชื้น โดยใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดเฉพาะฝักที่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ที่บริเวณปลายฝัก
ฝักวนิลลาที่ทำการบ่มเรียบร้อยแล้ว
อ้างอิงจาก: หนังสือวารสารเคหเกษตร ฉบับเดือน พฤษภาคม 2562
https://www.gib.co.th/เรื่องน่ารู้_Und_วานิลลา_Und_ปลูกอย่างไรให้ผลผลิตดี