สมุนไพรแก้อาการท้องผูก
ปัญหาท้องผูก เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวันของทุกคน คนไทยในอดีตเคยใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาและบรรเทาอาการอาการท้องผูกได้ผล จึงนำความรู้เรื่องสมุนไพรแก้อาการท้องผูกที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ทรงคุณค่าจากอดีตถึงปัจจุบันมานำเสนอได้แก่
- มะขามแขก ฝักและใบมะขามแขกใช้เป็นยาระบาย โดยใช้ใบแห้ง 1-2 หยิบมือ หรือ ใช้ฝัก 4-5 ฝัก หักเป็นชิ้นเล็กๆ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วย นาน 15 นาที ดื่มก่อนนอนถ้ามีอาการแน่นจุกเสียดให้ใช้ร่วมกับยาขับถ่าย เช่น ขิงแก่ กระวาน หรือ กานพูล เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการท้องผูกประจำ
ข้อควรระวัง ควรใช้มะขามแขกเพื่อแก้อาการท้องผูกเป็นครั้งคราว ไม่ควรรับประทานมะขามแขกติดต่อกันนาน เพราะจะทำให้ขาดธาตุโปแตสเซียม และทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้
- แมงลัก แมงลักหรือยาสกัดจากเมล็ดแมงลักใช้เป็นยาระบายที่ดีช่วยเพิ่มกากอาหารทำให้อุจจาระมาก เมือกจะช่วยหล่อลื่นและช่วยให้อุจจาระอ่อนตัว
วิธีใช้ เมล็ดแมงลัก 1ช้อนชา แช่น้ำ 1 แก้ว ทิ้งให้พองเต็มที่ ใช้รับประทานก่อนนอน
ข้อควรระวัง ใช้น้ำให้มากพอเพื่อให้เม็ดแลงลักพองตัวเต็มที่ เม็ดแลงลักที่พองตัวไม่เต็มที่ จะดูดน้ำจากกระเพาะอาหารและลำไส้ทำให้อุจจาระแข็ง และอุดตันเกิดอาการท้องผูกมากขึ้น
- ขี้เหล็ก ขี้เหล็กเป็นสมุนไพร มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้นเหมาะสำหรับผู้สูงอายุซึ่งมักจะนอนไม่หลับ รับประทานอาหารไม่ได้ และมีอาการท้องผูก
วิธีใช้ 1.นำใบอ่อนหรือดอกตูมประกอบอาหารรับประทาน
2. นำใบขี้เหล็ก 4-5 กำมือ ต้มกับน้ำพอท่วมใช้ดื่มก่อนนอน
- กล้วยน้ำว้า กล้วยน้ำว้าสุกใช้แก้อาการท้องผูกได้ดีเพราะในกล้วยน้ำว้าสุกมีสารเพ็กตินสูง ช่วยเพิ่มกากอาหาร นอกจากนี้ยังมีเมือกลื่นช่วยในการขับถ่ายได้สะดวก
วิธีใช้ รับประทานกล้วยน้ำว้าสุกวันละ 2-4 ผล จะช่วยให้มีการขับถ่ายที่ดีทุกวัน
- ขี้เหล็ก
สมุนไพรตัวนี้มีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น ดีต่อคนที่มีอาการท้องผูกเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เบื่ออาหาร รับประทานอะไรไม่ค่อยได้ ให้นำใบอ่อนหรือดอกตูมของขี้เหล็กมาประกอบอาหารรับประทาน หรือจะนำใบขี้เหล็กมาต้มกับน้ำพอท่วม เคี้ยวเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนนอนก็ได้เช่นกัน
- ใบมะรุม
สมุนไพรไทยอย่างมะรุมก็เด็ดไม่เบา โดยเฉพาะสรรพคุณแก้ท้องผูก เนื่องจากใบมะรุมมีใยอาหารสูงมาก อีกทั้งยังพกคุณค่าทางสารอาหารอื่น ๆ มาเพียบ มะรุมจึงเป็นทั้งยาระบายจากธรรมชาติ และช่วยบำรุงระบบย่อยอาหารได้ในคราวเดียวกัน
- ชุมเห็ดเทศ
เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายชั้นเลิศที่น่าลอง โดยใช้ดอกสดมาต้มจิ้มกินกับน้ำพริก หรือนำใบสดไปหั่นแล้วตากแห้ง จากนั้นนำไปต้มเป็นน้ำชาไว้ดื่ม
- ส้มแขก
ส้มแขกมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ โดยเราจะนำส่วนใบสดของส้มแขกมาต้มกับน้ำ หรือหากเป็นใบอ่อนจะนำมาจิ้มน้ำพริกกินสด ๆ ก็อร่อย และช่วยแก้ท้องผูกไปในตัว
- จำปา
เปลือกรากของต้นจำปามีสรรพคุณเป็นยาถ่ายอ่อน ๆ ช่วยแก้อาการท้องผูก ทำให้ประจำเดือนมาปกติ แถมยังรักษาโรคปวดตามข้อได้ด้วย วิธีใช้ให้นำเปลือกรากจำปีไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาต้มกับน้ำและดื่มเป็นยาระบาย
- คูน
นำเนื้อในฝักแก่ของดอกคูนออกมาสักประมาณเท่าหัวแม่มือ (ราว ๆ 4 กรัม) ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยตวง ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย กรองแต่น้ำเอาไว้ดื่มก่อนนอนหรือก่อนอาหารเช้า เหมาะเป็นยาระบายสำหรับคนที่ท้องผูกเป็นประจำ อีกทั้งสตรีมีครรภ์ก็กินเป็นยาระบายได้
- สมอไทย
สมอไทยเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายตัวเด็ด แถมยังช่วยขับลมในลำไส้ โดยใช้ผลอ่อน 5-6 ผลต้มกับน้ำ 1 ถ้วยตวง ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย แล้วกรองเอาแต่น้ำมาดื่มวันละ 1 ครั้ง ภายใน 2 ชั่วโมงจะเห็นผล ได้ถ่ายจนโล่งสบายท้องแน่นอน
- ผักกาดขาว
ใครจะรู้ว่ารากของผักกาดขาวมีฤทธิ์เป็นยาระบาย แก้หวัด แก้อาการผิวหนังอักเสบและผื่นแพ้ได้อีกต่างหาก โดยนำรากผักกาดขาว 1 กำมือล้างให้สะอาด แล้วนำไปต้มกับน้ำดื่ม กรองเอาแต่น้ำมาดื่มก่อนนอน เท่านี้ก็ปราบอาการท้องผูกได้อยู่หมัด
แก้ท้องผูกด้วยอาหารที่เราทานอยู่แล้วได้อย่างดี