Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เชิญคุณผีเข้าห้องค่ะ

เนื้อหาโดย กัลยลิขิต

ย้อนกลับไปช่วงปี 2554 ตอนนั้นดิฉันเรียนอยู่ม.5 เทอม 1 ณ โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งแถวชานเมืองของกรุงเทพ และน้องสาวของดิฉันก็เรียนอยู่ระดับชั้นม.3 โรงเรียนเดียวกัน ซึ่งอีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงช่วงเวลาของการสอบปลายภาคเทอม 1 และบ่อยครั้งที่พอใกล้ถึงช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ทีไรไม่ว่าจะเป็นการสอบปิดภาคเรียน ทัศนศึกษา เข้าค่าย กีฬาสี ทำบุญโรงเรียน มันก็มักจะเกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้นในโรงเรียนอยู่เสมอ ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน


เย็นวันนั้นดิฉันจำได้ว่าเป็นวันอังคาร ตอนเช้านักเรียนชายบางส่วนจะต้องไปเรียนวิชานักศึกษาวิชาทหาร แล้วจะกลับเข้ามาเรียนในช่วงบ่าย ซึ่งห้องของดิฉันก็เช่นกัน ด้วยเพื่อนผู้ชายบางส่วนแทบจะทั้งห้องต้องไปเรียนวิชานักศึกษาวิชาทหาร ทำให้การสอบวิชาดนตรีไทยในคาบแรกของวัน ถูกเลื่อนมาเป็นช่วงเย็นหลังเลิกเรียนแทน หลังจากเรียนวิชาต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อย พวกเราก็พากันลงมารอสอบที่ห้องดนตรีไทย ขณะที่รอสอบอยู่นั้น ดิฉันและเพื่อน ๆ ทั้งห้องก็ได้ยินเสียงคนบรรเลงเครื่องดนตรีไทยที่อยู่ด้านหลัง แม้แต่คุณครูที่สอนอยู่ก็ออกปากดุที่แอบไปเล่นเครื่องดนตรีซึ่งมันรบกวนการสอบ แต่คุณครูก็ต้องชะงัก รวมถึงพวกเราทุกคนด้วย เพราะพอหันกลับไปมองก็ไม่เห็นใครสักคน เพื่อนผู้ชายแสบ ๆ ก็นั่งรอสอบตามเลขที่อยู่ด้านหน้ากันหมด

แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะพอดิฉันสอบเสร็จไปได้ไม่นาน ก็มีเพื่อนของน้องสาวดิฉันพากันมาอออยู่หน้าห้องดนตรีไทย ทีแรกดิฉันก็คิดว่าเด็ก ๆ แค่มานั่งรอเฉย ๆ แต่ก็นึกเอะใจเพราะเห็นมากันทั้งห้อง จนมีน้องคนนึงเดินเข้ามาตามดิฉัน บอกให้ดิฉันรีบออกไปดูน้องสาว เพราะน้องโดนผีเข้า ดิฉันก็รีบกระโจนออกไปทันที ตอนแรกเตรียมคำด่าไว้มากมายนึกว่าน้องมันแค่เล่น ๆ กัน แต่พอดิฉันเดินออกมาก็เห็นน้องสาวนั่งหมดแรง เรียกก็ไม่ยอมขยับตัว งัวเงียเหมือนคนนอนหลับ ดิฉันก็คิดว่าน้องมันแกล้งเลยเดินไปเอามือรองน้ำจากก๊อกน้ำใกล้ ๆ แต่ก็อดห่วงไม่ได้ระหว่างที่เดินกลับมาก็เลยสรรเสริญบูชาพระพิฆเนศ บูชาพ่อแก่ในห้องดนตรีไทยในใจไปด้วย เพื่อความสบายใจ เผื่อมันเป็นเรื่องจริง พอเดินมาถึงดิฉันก็เอาน้ำลูบหน้าน้องสาวเบา ๆ ปรากฎว่าน้องสาวของดิฉันกลับกรีดร้องออกมาสุดเสียง ลืมตาขึ้นจ้องมองตาเขม็ง ดีดดิ้นไม่ยอมหยุด ขนาดเพื่อนผู้ชายยังเอาไม่อยู่ ดิฉันเลยแน่ใจว่าใช่แล้วแน่ ๆ น้องสาวของดิฉันโดนผีเข้าแล้วแน่ ๆ เลยถามพวกน้อง ๆ ไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่าเมื่อตอนคาบบ่าย พวกเด็ก ๆ ขึ้นไปเรียนวิชาวิทยาศาสตร์กันที่ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ 231 แค่ได้ยินชื่อห้องดิฉันก็อ๋อเลย

ห้อง 231 นี้อยู่ที่ตึก 2 เป็นตึกวิทยาศาสตร์ม.ต้น ซึ่งเป็นตึกแยกมาหมวดวิทยาศาสตร์ที่อยู่ตึก 1 แล้วห้อง 231 เป็นห้องริมตึก มีบันไดขั้นกลางจากห้องเรียนอื่น ๆ ประตูห้องมันจึงอยู่ตรงกับทางเดินพอดี ฝั่งตรงข้ามกันก็เป็นห้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษ 235 ซึ่งเป็นห้องริมตึกมีบันไดขั้นกลางเช่นกัน ประตูก็อยู่ตรงทางเดิน และตรงกันกับห้อง 231 พอดี ซึ่งตามความเชื่อนั้น ห้องที่ประตูอยู่ตรงกับบันได และประตูห้องอีกฝังตรงกันแบบนี้ มันเป็นทางผีผ่าน เป็นพื้นที่ที่มีพลังงานไม่ดีไหลเวียนผ่านไปผ่านมา

ขอเท้าความกลับไปตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ม. 1 และม.4 นิดนึง ตอนที่ดิฉันเรียนปรับพื้นฐานม.1 ตอนเดินสำรวจโรงเรียน พี่เลี้ยงเคยแอบเล่าให้ฟังว่าที่ห้องวิทย์ริมทางเดินอาคาร 1 ดิฉันห้องไม่ได้แล้ว น่าจะห้อง 1306 หรืออย่างไรนี่แหละ กับห้องวิทย์ 231 นี้ เคยมีคนขึ้นมานอนตาย แถมตรงซอกอาคาร 2 ฝั่งห้องวิทย์นี้เองมีนักการภารโรงมานอนเสียชีวิตอยู่ 

ตอนที่ดิฉันเรียนม.4 เทอม 1 ก็เคยเรียนที่ห้องนี้ ทุกครั้งที่ไปเรียนทั้งเด็กใหม่เด็กเก่าก็จะเจอเรื่องแปลก ๆ กันอยู่ตลอดเวลา เลยไม่มีใครกล้าขึ้นไปรอก่อนถึงเวลาเรียน พอพักเที่ยงเสร็จก็จะรอกันอยู่ด้านล่างอาคาร พอคุณครูมาถึงจะเดินขึ้นห้องไปพร้อมกัน

แล้วก่อนหน้านั้นไม่กี่เดือนตอนเรียนอยู่ม.4 เทอม 2 ดิฉันต้องถ่ายวิดีโอโครงงานนำชมโรงเรียนส่งครู ตอนที่ขึ้นมาถ่ายชั้นห้องวิทย์นี้เอง ดิฉันก็เห็นเงาคน ยืนขนานไปกับมุมห้อง ปกติเงาคนจะต้องตกกระทบไปข้างใดข้างหนึ่ง แต่นี่มันแบะออกขนานไปกับมุมห้องราวกับรูปวาด ดิฉันอาจจะคิดว่าใครมือดีมาวาดรูปพ่นสีเล่นก็ได้นะ ถ้าดิฉันไม่รู้สึกว่ามันกำลังมองดิฉันอยู่ และอยู่ดี ๆ มันก็หายวับไปกับตา

ซึ่งในวันที่เกิดเรื่องกับน้องสาวของดิฉัน ระหว่างที่พวกน้อง ๆ กำลังรอเรียนกันอยู่ก็ได้เกิดมีลมหนุมเล็ก ๆ ขึ้นที่หน้าห้องแล้วพัดซัดประตูห้องดังปังอยู่หลายรอบ เพื่อนของน้องสาวดิฉันคนหนึ่งก็พลั้งปากพูดไปด้วยความคะนองว่า เชิญคุณผีเข้าห้องค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้นกับเพื่อนน้องสาวของดิฉันก่อน แต่อาการไม่หนักเท่าน้องสาวของดิฉัน ส่วนน้องสาวของดิฉันเพิ่งจะมาเป็นตอนที่เลิกเรียนแล้วและกำลังจะออกจากห้องเรียน ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็นึกเอะใจได้ว่า เด็กทั้ง 2 คนนี้อายุกำลังจะ 15 แล้วตอนนั้นก็เป็นเดือนกันยายน พรุ่งนี้กำลังจะเป็นวันเกิดครบรอบอายุ 15 ปีของน้องสาวของดิฉันพอดี ดิฉันเลยแน่ใจแบบสนิทใจเลยว่าน้องสาวคงจะโดนผีเข้าจริง ๆ แล้วล่ะ มันไม่ได้แกล้งดิฉันแล้ว รอบนี้ดิเลยบอกขอขมาเขาแทนน้อง ๆ ขอให้ออกจากน้องสาวของดิฉันก่อน เด็ก ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดิฉันจะให้เด็ก ๆ ขึ้นไปขอขมา แต่อาการเขากลับรุนแรงขึ้น กรีดร้อง ดีดดิ้นหนักกว่าเก่า เพื่อนในห้องของดิฉันคนหนึ่งที่ออกมานั่งซ้อมดนตรีรอด้านนอกก็เลยเดินเอาสร้อยพระมาสวมให้ แต่อาการก็ยิ่งรุนแรงเข้าไปกันใหญ่ ดิฉันเลยบอกวิญญาณที่สิงน้องสาวดิฉันไปว่า ถ้าทนไม่ไหวก็ถอยออกไป พูดแบบนี้ไปสามครั้ง จนครั้งที่ 3 ดิฉันเห็นว่าเขายังดื้ออยู่ ณ ตอนนั้นดิฉันเริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาแปลก ๆ ดิฉันเลยตะหวาดว่า ถ้ามึงทนไม่ไหว กูบอกให้มึงออกไป ถ้ามึงอยากจะลองดีกับกูก็ได้ ดิฉันรีบจ้ำอ้าวไปที่ก๊อกน้ำที่เดิม รินน้ำใส่มือ รอบนี้ดิฉันตั้งใจสวดบูชาพระพิฆเนศ เป็นองค์ปฐมบูชาอย่างจริงจังตั้งแต่เริ่มรองน้ำ สวดทุรคาสูกตัม แล้วสรรเสริญเทวีกาลีตบท้าย ขออำนาจของพระเทวีช่วยคุ้มครองน้องสาวของดิฉัน พอเดินมาถึงตัวดิฉันก็เอาน้ำนั้นน่ะสาดไปที่น้องสาวตอนที่เขาไม่ทันตั้งตัว ก็กรีดร้องใหญ่เลยทีนี้ ก่อนจะสลบไป ตอนนั้นทุกคนตกใจกันมาก ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริง พวกเพื่อน ๆ ของดิฉันก็พากันกรูเข้าห้องเรียนไป ครูถึงกับปิดหน้าต่างประตูห้องเรียน พวกเพื่อนน้องบางคนก็วงแตกวิ่งไปรวมกันที่องค์พระของโรงเรียน รวมถึงตัวดิฉันเองก็ยืนงงอยู่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน ไม่คิดว่ามันจะเกิดกับขึ้นคนใกล้ตัวขนาดนี้ พอเห็นน้องสาวนอนตัวสั่นดิฉันเลยให้เพื่อน ๆ ของน้องกับเพื่อนของดิฉันอุ้มน้องพาไปส่งที่ห้องพยาบาล เพราะที่นั่นดิฉันจำได้ว่ามียันต์ท้าวเวสสุวรรณอยู่ และมีครูพยาบาล คิดดูเอาแล้วกันค่ะว่าเด็กหนุ่มม.ปลาย ตัวใหญ่ ๆ กับเด็กวัยรุ่นอายุ 14 15 แทบจะอุ้มเด็กผู้หญิงน้ำหนัก 40 กว่า ๆ ไม่ขึ้น ตอนที่ถึงห้องพยาบาลเพื่อนของดิฉันบอกว่าน้องมึงตัวหนักฉิบหาย แขนของเพื่อนดิฉันนี่แดงเถือกเลยค่ะ ราวกับยกของหนัก ๆ มา

ดิฉันก็ยังคิดไปในทางวิทยาศาสตร์อยู่นะคะว่าน้องสาวของดิฉันอาจจะไม่สบายก็ได้ แต่อาจารย์พยาบาลวัดไข้ ตรวจชีพจรให้ ดูม่านตา ทุกอย่างก็ปกติ แถมตอนที่เข้าห้องพยาบาลมาอาการน้องสาวก็ดูสงบลงไปมาก ดิฉันเลยติดต่อกลับไปหาคนที่บ้าน ให้เข้าเอารถกู้ชีพมารับน้องไปส่งโรงพยาบาล ดิฉันจำได้ดีว่าตอนพาน้องขึ้นรถน้องสาวของดิฉันสลบไม่มีสติเลย ตกเย็นวันนั้นคุณปู่ของดิฉันเป็นคนตามไปหาน้องที่โรงพยาบาล น้องสาวของดิฉันเป็นปกติดีทุกอย่าง คุณหมอบอกว่าอาจจะเป็นสภาวะเครียดก็ได้ ไม่ได้ให้ยาไม่ได้รักษาอะไรเลย เพราะพอไปถึงโรงพยาบาลน้องสาวของดิฉันก็ฟื้นขึ้นมาเฉย ๆ คุณปู่เลยพาน้องสาวกลับบ้าน

ซึ่งน้องสาวของดิฉันก็กลับบ้านมาในลักษณะปกติเลย ไม่มีอะไรแปลกเลย แถมยังถามดิฉันด้วยว่าตอนที่อยู่หน้าห้องดนตรีไทยเอาน้ำร้อนมาสาดทำไม ดิฉันนี่งงเลยค่ะ น้ำจากก๊อกที่อยู่ติดกับสระน้ำของโรงเรียน แถมอยู่ใต้ต้นไม้ มันเย็นมากเลยนะ แต่น้องสาวดิฉันบอกว่าร้อนไปทั้งตัวอย่างกับไฟไหม้ มันทำให้ดิฉันเชื่อสนิทใจเลยว่า นั่นน่ะ ผีเข้าแน่นอน แล้วก็น่าจะเป็นผีแม่บ้านที่เขาลือกันในโรงเรียนแน่ ๆ เพราะต่อให้น้องสาวของดิฉันจะสร้างเรื่องโกหกนี้ขึ้นมาเอง ก็ไม่มีทางพูดว่าน้ำมันร้อนได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าน้ำนั้นน่ะดิฉันสวดบูชาเทพ เพราะดิฉันสวดในใจ ทำทุกอย่างเป็นปกติ เหมือนคนรองน้ำเพื่อเอาไปสาดเท่านั้น และทำไวมาก แถมสวดบูชาในใจ ไม่ได้ไปยืนทำพิธีหรือสวดบูชาอะไรต่อหน้า ไม่มีเสียง ไม่ได้ทิ้งเวลาให้เจ้าตัวได้เห็นหรือตั้งตัวเลย เพราะดิฉันเองก็ตกใจและเป็นห่วงน้อง มันเลยทำให้ดิฉันมั่นใจว่าใช่แน่ ๆ ดิฉันเลยเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนในบ้านฟัง แล้ววันรุ่งขึ้นจะเป็นวันเกิดของน้องด้วย ดิฉันเลยบอกให้ตื่นแต่เช้ามาใส่บาตรอุทิศบุญให้เขาซะ แล้วให้เพื่อนน่ะขึ้นไปขอขมาเขา

วันรุ่งขึ้น ทุกอย่างก็ดำเนินไปปกติ ผ่านไปได้หนึ่งวันดิฉันก็วางใจแล้วว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก

แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น ผ่านวันเกิดน้องไปแค่วันเดียว มันก็เอา ช่วงพักกลางวันของม.ปลายซึ่งมันหมดเวลาของม.ต้นแล้ว แต่เพื่อนของน้องสาวของดิฉันกลับวิ่งขึ้นมาหาดิฉันถึงห้องเรียนที่อยู่ชั้น 5 ของอาคาร 1 บอกว่าน้องสาวของดิฉันโดนผีเข้าอีกแล้ว ดิฉันก็รีบวิ่งลงไปดูเลย ก็เห็นน้องสาวกับเพื่อนอีกคนนึงนอนหมดสติอยู่บนม้านั่งหินอ่อนกลางโรงเรียน น้องสาวของดิฉันก็อาการเหมือนเดิมเลยค่ะ ดิฉันเลยถามว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น เพราะเมื่อวานก็ยังดี ๆ อยู่ แล้วพระที่คอน้องสาวหายไปไหน ดิฉันให้เขาใส่ไว้ เพื่อนน้องบอกว่าก่อนหน้านี้เพื่อนคนเดิมที่โดนสิงคนแรก โดนสิงอีกแล้ว น้องสาวของดิฉันด้วยความเป็นห่วงเพื่อนเลยถอดสร้อยพระสวมให้ เขาก็กรีดร้องเหมือนที่น้องสาวของดิฉันเป็นเมื่อวันก่อน แล้วก็สลบไป เพื่อน ๆ ของน้องเขาจำคำพูดของดิฉันได้ว่าในห้องพยาบาลมียันต์ติดอยู่เลยพาน้องผู้หญิงคนนั้นเข้าไปนอนในห้องพยาบาล ผ่านไปได้สักพักเพื่อนอีกคนที่กำลังนอนอยู่ใกล้ ๆ ก็โดนสิง แต่แป๊บเดียวแล้วก็ออกไป คนต่อมาก็เป็นน้องสาวของดิฉัน ที่นี้อาการของนัองสาวของดิฉันนั้นหนักสุด ก่อนหน้าที่ดิฉันจะลงมาเขากรีดร้อง เพื่อนผู้ชายช่วยกันจับก็เอาไม่อยู่ จะอุ้มเข้าห้องพยาบาลก็อุ้มไม่ไหวเพราะตัวหนักมาก ราวกับคนอ้วน ๆ ร่วมร้อยกิโล ทั้ง ๆ ที่น้องสาวของดิฉันหนักแค่ 40 50 กิโลเท่านั้นเอง แล้วเพื่อนของน้องสาวคนหนึ่งก็โทรไปหาคุณพ่อของดิฉันที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลให้รีบมาดูอาการ ซึ่งคุณพ่อของดิฉันก็ได้เอารถพยาบาลของโรงพยาบาลมารับด้วย ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนนั้นดิฉันเริ่มรู้สึกโมโหขึ้นมาอีกแล้ว พอตะหวาดสิ่งที่อยู่ในตัวน้องสาวเสร็จ ดิฉันก็หันไปตะหวาดคุณพ่อว่า เอาน้องขึ้นรถไปเร็ว ๆ ทุกคนก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่ก็ทำตาม ซึ่งไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจให้ดิฉันพูดไปแบบนั้น และไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรือว่าอย่างไร พอบุรุษพยาบาลอุ้มน้องสาวของดิฉันนอนบนเตียง น้องสาวของก็ดีดดิ้นใหญ่ราวกับจะไม่ยอมไป จนเขาเข็นเตียงตั้งลำเตรียมจะดันเข้าไปในรถพยาบาล ยังไม่ทันจะเข้าไปในรถดีเลย น้องสาวของดิฉันแอ่นอกโก่งตัวกรีดร้องออกมาสุดเสียงราวกับเจ็บปวดทรมานมาก ๆ ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นก็พากันแตกตื่นตกใจเดินหนีวิ่งหนีกับไปคนละทิศคนละทาง บุรุษพยาบาลก็ไม่กล้าเข็นต่อ แม้แต่ดิฉันเองก็ยืนงงทำอะไรไม่ถูก จังหวะเดียวกัน คุณลุงคนขับรถพยาบาลซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณพ่อของดิฉันท่านคงจะเห็นว่ามันผิดปกติเลยวิ่งลงมาจากรถมาดู ท่านยกมือไหว้เข้าไปในรถแล้วรีบเข็นน้องสาวของดิฉันเข้าไปเลย น้องสาวของดิฉันก็กรี๊ดสุดเสียงแล้วสลบไป ดิฉันพอได้สติก็รีบโดดขึ้นรถไปกับน้อง ตอนที่ดิฉันก้าวขึ้นไปก็ถึงกับชะงัก เพราะตรงกระจกกั้นในรถ ตรงหัวนอนผู้ป่วย มียันต์ท้าวเวสสุวรรณติดอยู่ ดิฉันนี่งงไปเลย สรุปมันคือเรื่องจริงเหรอ น้องสาวของดิฉันโดนผีเข้าจริง ๆ เหรอ ดิฉันเชื่อเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็นนะ แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ขนาดนี้ และจะเกิดกับคนใกล้ตัวขนาดนี้

ยังไม่ทันจะออกจากโรงเรียนเลยอาการของน้องสาวดิฉันก็สงบลง มีแต่อาการเหนื่อยหอบ สรุปการรักษาทุกอย่างก็เป็นปกติอีกแล้ว คุณหมอไม่ได้สั่งยา ไม่ได้ทำการรักษาอะไรเลย เพราะน้องสาวไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอะไร พบจิตแพทย์น้องก็ไม่ได้มีอาการวิตกกังวลอะไร รอดูอาการจนถึงตอนเย็นก็กลับบ้านได้ปกติ

ดิฉันเลยให้พ่อพากลับมาส่งโรงเรียนในตอนบ่าย แล้วคุณพ่อก็ไปพูดคุยกับคุณครูที่ปรึกษาของน้อง ซึ่งท่านก็เคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ดิฉันตอนเรียนอยู่ม.3 ดิฉันก็เล่าทุกอย่างให้ท่านฟัง ร่วมถึงเรื่องของวิญญาณดวงนี้ด้วย เพราะท่านเองก็เพิ่งย้ายมาที่นี่ได้ 2 ปี ตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ม.3 นี่เอง ท่านบอกว่าเอาแอบนี้ เพื่อความสบายใจ พรุ่งท่านในฐานะผู้ใหญ่ เป็นครูที่ปรึกษา จะพาเด็ก ๆ ไปขอขมาเอง แต่ให้น้องสาวของดิฉันหยุดเรียนไปก่อน อย่าเพิ่งให้มารวมกัน มันอาจจะเป็นช่วงที่เขาสื่อถึงกันได้เลยมาทำแบบนี้

ซึ่งในบ่ายวันนั้นเองที่ดิฉันจะต้องขึ้นไปเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่ห้อง 235 ตอนเรียนเสร็จก่อนจะเดินกลับห้องเรียนประจำโดยทางลัดจากอาคาร 2 ไป อาคาร 1 มันต้องผ่านห้องเรียนวิทยาศาสตร์ 231 ดิฉันเลยหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ซึ่งก็มีการเรียนการสอนอยู่นะ ดิฉันยกมือไหว้ขอขมากรรมแทนน้อง ๆ ไปก่อน แล้วสวดมนตร์ แผ่เมตตาในทางพุทธเท่าที่จำได้ แล้วสรรเสริญพระพิฆเนศ เทวีในศักติ ให้พระองค์ชี้ทางสว่างให้กับเขา เปิดทางให้เขาได้หลุดพ้นจากตรงนี้

วันรุ่งขึ้นดิฉันก็ได้ยินว่าคุณครูที่ปรึกษาของน้องสาวดิฉันได้พาเด็ก ๆ ไปขอขมากรรมที่ปากพล่อยพูดสนุกโดยไม่คิดกับดวงวิญญาณที่อยู่ ณ ที่ตรงนั้น แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็ถึงกิจกรรมทอดผ้าป่าประจำปีของโรงเรียน ทางโรงเรียนก็เลยถือโอกาสนี้ทำบุญโรงเรียนไปด้วย แล้วหลังจากนั้นช่วงที่ฉันยังเรียนอยู่ จนไม่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีกเลย

จนจบออกมาช่วง 2 3 ปี ดิฉันก็ยังไปมาหาสู่คุณครูในโรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง ก็ได้พูดคุยและเล่าให้คุณครูฟัง คุณครูไม่ได้พูดอะไร แต่แค่พยักหน้าว่ามีจริง ๆ และเมื่อต้นปี 2559 ก็มีนักการภารโรงผู้ชาย เสียชีวิตในโรงเรียน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันไปอีก 2 ศพ

เนื้อหาโดย: minibuskhonnang
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
กัลยลิขิต's profile


โพสท์โดย: กัลยลิขิต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: chubbybossmnaphat
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"โตโน่" ขอโทษทุกคน..เผยคำพูดสุดท้าย! ต่อไปอาจจะกลับไปอยู่นาเหมือนเดิมได้ทั้งบุญทั้งฮา! สงกรานต์ "วัดป่าธรรมวงศาราม" ชาวบ้านสรงน้ำพระเต็มเหนี่ยว ประแป้งขาวโพลนกันทั้งวัดจีนเรียกร้องให้มะกันยกเลิกมาตรการภาษีทั้งหมด!!มองผ่านๆ นึกว่าสายไฟ...นี่คือชุดพรางตัวของพลซุ่มยิงอังกฤษในสงครามโลกครั้งที่ 1 ส่วนหัวของชุดนี่ดูคุ้นๆยังไงไม่รู้เหมือนกันเด้อครับเด้อเผยบริษัทรับเหมาก่อสร้างของ "ออง เพียะ โซน" บุตรชายของ พล.อ.อาวุโส มิน ออง หล่าย กำลังจะเข้ารับงานใหญ่ในการฟื้นฟูเมืองหลวงเนปิดอว์ ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวเกอิชา: จากศิลปินชายสู่สัญลักษณ์ความงามของสตรีญี่ปุ่น กว่า 800 ปีแห่งวิวัฒนาการอียิปต์ประณามอิสราเอลหลัมยิงถล่มโรงพยาบาลในกาซาความลับที่ซ่อนอยู่ของโลโก้ McDonald's "สีแดง + เหลือง"กองทัพจีนเสริมความพร้อมรบด้วยปฏิบัติการรอบไต้หวันสรุปเรื่องราวของ "โตโน่" ที่เกิดดราม่าขึ้น!หาก Netflix ต้องการทำ One Piece ให้ดีที่สุด ก็จำเป็นต้องทำฉากที่ดีที่สุดของลูฟี่ด้วย
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จีนเรียกร้องให้มะกันยกเลิกมาตรการภาษีทั้งหมด!!สรุปเรื่องราวของ "โตโน่" ที่เกิดดราม่าขึ้น!"ปลาหมาป่า" ผู้พิชิตใต้ทะเลลึก! เผยโฉมหน้าสุดสะพรึง ฟันแหลมคมราวปีศาจเกอิชา: จากศิลปินชายสู่สัญลักษณ์ความงามของสตรีญี่ปุ่น กว่า 800 ปีแห่งวิวัฒนาการทำไมถึงเรียกสุนัขตำรวจ สุนัขทหาร สุนัขกู้ภัยว่า K9 อยากรู้ห้ามพลาด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ดูดวง เรื่องลึกลับ
ดวงของทั้ง 12 ราศีในเดือนเมษายน 2568 หมอบาสGPSดวงเด่นประจำเดือนเมษายน 2568 by หมอบาสGPSเช็กดวง 12 ราศี ดาวอาทิตย์ย้ายราศี 14 เม.ย. 68–15 พ.ค.68 by พี่ตี๋เตรียมตัวรับแรงสะเทือนจากดาวพฤหัสบดี "ไพ่รูนส์Byกาลจักกวาฬ"
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง