หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

หอพักหรรษาและบรรดาเพื่อนร่วมหอ

เนื้อหาโดย patra225

มาต่อกันจากการตัดสินก้าวมาเรียนในมหาวิทยาลัยจากกะทู้ มหาลัย...หอพักและเอริก้า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในหอพักนักศึกษาจนหนึ่งเดือนผ่านไปจะครบกำหนดวิชาเรียนปรับพื้นฐานภาษาอังกฤษ เอาเข้าจริงฉันเองก็พยายามมาก ถึงแม้จะยังฟัง พูด อ่าน เขียนได้ไม่ดีเท่าคนอื่นๆ แต่ในความเครียดเหล่านั้น ก็มีความแปลกใหม่ทั้งสถานที่ เพื่อนใหม่ และกลิ่นอายชีวิตในรั้วมหาลัยให้ผ่อนคลายอยู่บ้าง และแล้ววันที่กำหนดให้ทุกคน ทุกคณะเข้ามาพร้อมกันก็มาถึง ฉันจำวันนั้นได้ดีว่าบรรยากาศหอพักคึกคักเป็นอย่างมาก จะมีรถบรรทุกของของแต่ละคนเข้ามา มีการขนย้ายสิ่งของ มีเสียงครึกโครม มีเสียงเดินเสียงคุยที่กึกก้องไปหมด และจะเห็นด้วยว่ามีผู้ปกครองที่มาส่งลูกหลานด้วยความอาลัยอาวรณ์ มีการร้องไห้ร่ำลา และอีกทั้งมีกลุ่มนักศึกษาผู้ชายที่ดูจะสนุกสนานกันเป็นอย่างยิ่ง ฉันผู้เดินกลับเข้าหอพักก็มีอาการงงงวยกับบรรยากาศเป็นอย่างมาก ฉันเดินขึ้นห้องไป แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตู เพื่อนสาวรูมเมทก็เปิดโผล๊ะออกมาและพูดว่า เธอออ เธอเป็นรูมเมทเราใช่มั้ย เราชื่อมดนะ เราดีใจมากเลยที่มีเพื่อน เนี๊ยะเรามาแบบคนเดียว คนเดียวเลยนะเธออออ พ่อกับแม่ก็กลับไปแล้ว กว่าเราจะถึงห้องนี่มันลำบากมากเลยเธอ ที่นี่ร้อนมาก ลิฟท์ก็ไม่มีเนอะ แล้วนี่เตียงเราใช่มั้ย เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอมาไวมากเลยนะ...... ฉันผู้อ้าปากค้างๆไว้ รอว่าหล่อนจะหยุดพูดเมื่อไหร่ก็เท่านั้น

จากที่เราเข้าใจในวันนั้นคือทุกคนมาจากทั่วประเทศ บางคนมาไกลจากภาคเหนือ ภาคอีสาน เพราะด้วยระบบเอนท์ทรานซ์ในสมัยนั้น แต่ส่วนใหญ่ก็มาจากกรุงเทพและจังหวัดใหญ่ๆ ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่เด็กกลุ่มนี้จะมีโอกาสมากกว่ากลุ่มอื่นๆ รูมเมทฉันนั้นถึงแม้ไม่ได้มาจากเมืองใหญ่มากนักแต่ก็คุณหนูเอาการอยู่ และความหรรษาก็เกิดเมื่อทุกห้องเต็มไปด้วยนักศึกษา บางคนอาจคิดซะด้วยซ้ำว่านี่คือการเข้าค่ายหรือเปล่า จากที่ช่วงแรกมีความเงียบสงบแต่ตอนนี้ฉันต้องปรับตัวอีกครั้ง นอกจากรูมเมทมดตะนอยของฉันแล้ว ฉันเดินออกมาก็ถูกรุมล้อมจากเพื่อนโซนห้องเดียวที่พยายามส่งเสียงบอกชื่อกันซึ่งในโซนฝั่งห้องฉันคือโซน C ปีกขวา และพระเจ้าก็ช่างคัดสรรเพื่อนให้ฉันอย่างบันเทิงเป็นอย่างมาก ถึงขนาดเอริก้าต้องขอย้ายไปอยู่โซนอื่นกันเลยทีเดียวโดยสรุปแล้วฉันมีเพื่อนใหม่ร่วมโซนโดยนามว่า จุ๊ แป้งร่ำ มินนี่ แป๋ม มดตะนอย ตัวฉัน และรุ่นพี่ห้องในสุดชื่อพี่อร

และในเช้าวันแรก หกนาฬิกา.....

ฉันไม่เคยสังเกตุเลยว่าบนหอแต่ละชั้นจะมีเครื่องกระจายเสียงไว้ประกาศข่าวต่างๆ ซึ่งเสียงที่ดังคือเป็นการปลุกเด็กปีหนึ่งทุกคนให้ตื่นและรีบลงมาข้างล่างภายในห้านาที แน่นอนว่าทุกคนไม่มีเวลาเตรียมตัวและต้องมาในสภาพชุดนอน มินนี่เพื่อนร่วมโซนฉัน คือหัวหน้าโซนที่แท้ทรู หล่อนเคาะทุกห้องและพาพวกเราไปยังลานหน้าหออย่างรวดเร็ว

ลงมาถึง ฉันถึงเข้าใจว่านี่คือการเริ่มต้นการรับน้องของรุ่นพี่มหาลัย ตอนนั้นฉันรู้สึกเฉยๆมากเพราะเหมือนจะเคยได้ยินมาบ้างแล้ว ในขณะที่ยืนเหม่อลอยครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้น ก็มีเสียงแปร้ดข้างหูว่า ไปเข้าแถววววว!!! หลังจากนั้นฉันก็ตาสว่างขึ้นมาทันใด

ในขณะที่พวกเราเข้าแถวแยกคณะและหญิงชายมาสักพัก แน่นอนมันต้องกลุ่มเด็กโข่งที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นยังไม่ลงมาซึ่งจะโดนรุ่นพี่ขึ้นไปเคาะที่ห้องและพาตัวลงมา สิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับฉันและเพื่อนผู้หญิงก็คือการได้เห็น นักศึกษาชายที่ใส่แค่บ้อกเซอร์ลงมา แถมยังต้องโดนทำโทษวิดพื้นอีกต่างหาก สำหรับฉันมันคือภาพที่น่ามองมาก

สิ่งที่รุ่นพี่ทำกับพวกเราเช้านั้นคือการยกมือวันทยาหัทถ์เหมือนทหารแล้วพูดว่า น้องชื่อ...... รหัส(เลขประจำตัวนักศึกษา)อยู่คณะ...... ค่ะ/ครับ เสียงต้องดังฟังชัด และแน่นอนว่าจะมีบางคนที่เขินอายและเสียงเบาซึ่งจะโดนทำโทษตามๆกัน ฉันผู้เคยเป็นนักร้องนำ จิงเกิลเบล ที่โรงเรียนเก่าก็ไม่ได้ยากเย็นแต่ประการใด 

จากนั้นพวกเราก็โดนปล่อยตัวกลับห้องเพื่อเตรียมตัวไปเข้าปฐมนิเทศที่หอประชุม เพื่อรับฟังกฎระเบียบการเรียนพร้อมทั้งรับตารางเรียนที่จริงจังมากขึ้น ซึ่งฉันก็รู้สึกตื่นเต้นกับทุกอย่างด้วยบรรยากาศที่คึกคักและชุดนักษาใหม่ และเพื่อนใหม่ที่แข่งกันพูดใส่กันตลอดเวลา ไม่มีท่าทีความเกรงใจหรือเขินอายอย่างเพื่อนในสมัยมัธยมฉันเลย ในทุกๆวันหลังเลิกเรียนพวกเราต้องเข้าไปหอประชุมเพื่อทำกิจกรรมรับน้องที่เริ่มต้นด้วยการสอนให้ร้องเพลงประจำของมหาวิทยาลัยให้ได้เสียก่อน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นสำหรับเด็กปีหนึ่งในทุกมหาวิทยาลัย บางวันพวกเราก็ถูกเรียกมาสนามหน้าหอและให้ทำกิจกรรมต่างๆเช่นออกกำลัง เล่นเกมส์ทายชื่อ และรับฟังคำขู่ต่างๆนาๆของกลุ่มรุ่นพี่

นอกจากการเรียนที่เข้มข้นขึ้นและยังเป็นสิ่งที่ยากสำหรับฉัน เพราะด้วยหลักสูตรเนื้อหา หนังสือเรียนและทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษล้วน ทำให้ฉันเข้าใจได้ช้ากว่าคนอื่น เพื่อนเลยเป็นสิ่งจำเป็นมากที่ช่วยให้ฉันผ่านจุดนี้ไปได้ ถึงแม้เพื่อนในโซนฉันจะมีความทะโมนกันอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่าทุกคนหัวไวและเรียนเก่งกันเป็นอย่างมาก นอกจากพวกเราจะช่วยกันติววิชาเรียนยามค่ำคืนแล้ว เราก็ยังมีกิจกรรมช่วงพักเบรคในแบบของเรานั่นคือ การจัดตารางออกไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอด ที่ร้านน้ำชาในเมืองซึ่งเป็นเหมือนตลาดโต้รุ่งยามค่ำคืนที่พวกเราเรียกกันว่า ดาวน์ทาวน์ การออกไปตลาดดาวทาวน์ แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเราต้องผ่านด่านยามออกไปหลังสี่ทุ่ม ที่ช่วงแรกต้องพยายามหนีกันหลายวิธี สุดท้ายทางหอพักก็ยินยอมให้กับความหิวของนักศึกษายามค่ำคืนด้วยการให้ทุกคนที่ออกไปต้องแลกบัตรนักศึกษาเท่านั้น และออกไปได้ครั้งละไม่เกินสองคน ยานพาหนะที่นิยมในช่วงนั้นก็คือ มอเตอร์ไซน์ นั่นเอง

ทุกๆคืนโซนเราจะจัดเวรกันไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดอันเลื่องชื่อ อาจพ่วงด้วยชาเย็น ปาท่องโก๋ หรือโจ๊กกันพะรุงพะรัง แถมกระนั้นเมื่อกินกันอิ่มแล้ว ก็ง่วงและนอนกันที่ห้องใครคนในคนนึง หรือถ้านอนไม่หลับก็จะจบด้วยการเล่นเกมส์ตีหมอนกัน แน่นอนว่าโซนเรามักจะได้รับคำเตือนจากฝ่ายกิจการนักศึกษาอยู่บ่อยครั้งจากกลุ่มเด็กเนิร์ดชั้นล่างจากพวกเรา

แต่ความวุ่นวายก็ไม่ได้ลดน้อยลง เมื่อแม่มดตะนอยรูมเมทฉันออกตัวว่าหล่อนมีสัมผัสพิเศษและสามารถรับรู้ถึงพลังงานได้ในหอแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่า มันทำให้ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมากถึงขนาดต้องเชิญหล่อนไปตรวจพลังงานพิเศษในห้องกันทีเดียว และมันก็ไม่ได้ให้ลดน้อยลงเมื่อแม่หมอบอกว่า พลังงานหรือผีนั่นเองจะอยู่บริเวณห้องน้ำรวม ใช่ค่ะพวกเราใช้ห้องน้ำรวม ซึ่งนอกจากจะมีโซนเราฝั่งปีกใช้แล้วก็ยังมีโซนกลางมาใช้ด้วย ส่วนคนที่มีผลกระทบมากที่สุดในตอนนั้นคือ แป้งร่ำ แป้งร่ำเป็นคนจิตอ่อน แม้ได้ยินได้ฟังหล่อนก็ไม่กล้าแม้แต่จะออกจากห้อง เข้าห้องน้ำหล่อนก็ต้องมีคนไปเป็นเพื่อน หนักสุดแป้งร่ำต้องถึงขนาดซื้อแพมเพิร์ตกันเลยที่เดียว และดูเหมือนจะไม่จบแค่นั้น เมื่อมินนี่หัวหน้าโซนพยายามไปสืบความจากยามหรือรุ่นพี่มาว่าเคยมีนักศึกษากระโดดตึกเสียชีวิตไปจริงๆ และเคยมีคนเห็นนักศึกษาคนนั้นบีบยาสระผมให้คนที่กำลังสระผมอยู่ในห้องอาบน้ำ หนักสุดก็คือรุ่นพี่ห้องข้างในอัญเชิญแม่หมอมดตะนอยไปตรวจห้องและแม่หมอก็บอกว่าเห็นผู้หญิงใส่ชุดสีขาวในห้องนั้น แป้งร่ำได้ยินดังนั้นก้อเกิดอาหารช้อค และเป็นลมจนต้องหามส่งโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าฝ่ายกิจการนักศึกษาถึงขั้นต้องเรียกอบรมทุกคนในโซนนี้กันเลย หลังจากอบรมแม่หมอรูมเมทก็ไม่กล้าพูดกับใคร แต่จะใช้วิธีบีบแขนคนอื่นแทนเมื่อเจอผีหรือมีสัมผัสพิเศษ ซึ่งมันก็ไม่ต่างกันนัก

นอกจากจะเรื่องวุ่นวายในโซนของฉันแล้ว เรื่องผู้ชายก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่ต่างกัน ไม่ว่าผู้ชายคณะเดียวกัน ต่างคณะ หรือรุ่นพี่ที่พยายามทำหน้าดุๆ ก็ทำให้สาวๆอย่างพวกเราหวั่นไหวกันไปตามๆ 

เด่วไว้ตอนหน้าเรามาต่อเรื่องความรักกันนะคะ 

.......................................................................................

เนื้อหาโดย: patra225
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
patra225's profile


โพสท์โดย: patra225
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจ้าของร้านขายเนื้อหมา ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าตๅยใน 3 วันหนุ่มชาวจีนตัดสินใจลบรอยสัก เพราะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นโลกออนไลน์แฉ ร้านอาหารของคนจีน แถวคลองเตยไม่ตรงปกสภาพสุดยี้ ไรเดอร์ไปทีไรแทบอ้วกหนุ่มคลั่งการ์ตูนชินจัง ลงทุนสร้างบ้านเหมือนเป๊ะ!!เสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้นเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568ไทยเคารพการตัดสินใจของมาเลเซีย ในการปิดฐานด่านผ่านแดนผิดกฎหมายพบสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ชายหาดออสเตรเลียไรเดอร์เจอหลวงพี่วัดดังจ.อยุธยา สั่งถุงยๅงกับเจล ฝากมาถามทุกคนว่าคิดว่าหลวงพี่เอาไปทำอะไร คิดไม่ออกจริงๆช่วยทีสาวประเภทสอง ถูกแฟนเก่าทิ้ง ไปมีหญิงใหม่ ยัดเยียดลูกให้เลี้ยงไม่งั้นฟ้องเภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้น50 ปัญหายอดฮิต "มนุษย์งาน"โลกออนไลน์แฉ ร้านอาหารของคนจีน แถวคลองเตยไม่ตรงปกสภาพสุดยี้ ไรเดอร์ไปทีไรแทบอ้วก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
โบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบโบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปียเขาพระวิหาร: สัญลักษณ์แห่งความงดงามและความขัดแย้งภาพสุดท้าย
ตั้งกระทู้ใหม่