“อะไรก็ได้” แปลว่าอะไร
“อะไรก็ได้” ฟังแล้วเป็นคำตอบที่ง่ายและดูเหมือนจะตามใจคุณ มั่นใจว่าทุกคนต้องเคยได้ยินคำตอบนี้ ยิ่งคนที่มีแฟนต้องเคยได้ยินจากคนข้างๆของคุณมากกว่าสิบครั้งแน่นอน ไม่ว่าจะผู้ตอบจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เป็นคำตอบที่ต้องมีคำถามต่อว่า “อะไรก็ได้ แล้ว..มันอะไรล่ะ” บางครั้งคำตอบง่ายๆก็ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างคุณกับแฟน
วันนี้กินอะไร? : อะไรก็ได้
แต่พอคุณถามต่อ...
ไก่ทอดมั๊ย? : ช่วงนี้ไอ เจ็บคอ ไม่อยากกินของทอด
พิซซ่ามั้ย? : หูย มีแต่แป้งทั้งนั้น กลัวอ้วน
ชาบูมั๊ย? : กินบ่อย เบื่อแล้ว
ปิ้งย่างมั๊ย? : ไม่เอาเดี๋ยวหัวเหม็น
สุกี้มั๊ย? : คิวยาว ขี้เกียจรอ
อาหารญี่ปุ่นมั๊ย? : เพิ่งกินไปเมื่อวานเอง
แล้วจะกินอะไร? : อะไรก็ได้
!!!!!!!
แล้วคำตอบว่า"อะไรก็ได้" ก็จะกลายเป็นปัญหาโลกแตกระดับชาติ คนสองคนที่ต่างคนต่างเคยมีชีวิตของตัวเองเป็นอิสระ พอต้องมาอยู่ด้วยกัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีความคิดแตกต่างกันบ้าง แต่บางทีเรื่องกลายเป็นว่าคุณไม่คิด โยนให้แฟนคิดอยู่คนเดียว ซึ่งบางทีอาจเป็นเพราะคุณกลัวจะไม่ถูกใจแฟน ส่วนแฟนคุณก็จะคิดว่า คุณไม่มีความคิดอะไรมั่งเลยเหรอ ช่วยคิดอะไรหน่อยได้มั๊ย คำว่า"อะไรก็ได้" ในสถานการณ์แบบนี้บางทีก็เป็นการตอบเพื่อหยั่งเชิงพร้อมกับความคาดหวัง ใช้วุ้นแปลภาษาของโดเรมอนแปลออกมาได้ว่า "คุณลองทายดูสิ วันนี้เธอหรือเขาอยากจะกินอะไร? คุณรู้มั๊ยเธอหรือเขาชอบกินอะไร?" แล้วแฟนคุณก็คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบที่ตรงใจ ตอนนี้ปัญหาก็จะย้อนกลับมาที่คุณ ถ้าคุณตอบถูกใจ คุณก็จะกลายเป็นซุปเปอร์แฟน ที่รู้ใจแฟน จำได้ว่าแฟนคุณชอบอะไร แต่ถ้าตอบไม่ถูกใจ แฟนคุณก็อาจตีความว่าคุณไม่สนใจถึงไม่รู้ใจว่าแฟนคุณชอบอะไร แล้วสิ่งที่ตามมาคือ คุณก็อาจจะโดนงอน โดนเหวี่ยง จะหนักจะเบาก็แล้วแต่แฟนคุณจะพิจารณา
ที่นี้ลองมาดูแนวทางในการรับมือกับคำตอบนี้กัน
1.เล่นเกมส์เดาใจ คุณต้องพยายามเดาว่าแฟนคุณอยากกินอะไร? โดยคุณต้องเอาข้อมูลแวดล้อมมาพิจารณาก่อน เช่น มื้อก่อนหน้านี้แฟนคุณกินอะไร ,เมื่อวานกินอะไร ,ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากินอะไร เพื่อมาประมวลผลว่าตอนนี้แฟนคุณชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า กินซ้ำบ่อยๆนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่แฟนคุณอยากกิน แต่ก็มีโอกาสผิดพลาดได้ ถ้าคุณไปตอบในจังหวะที่แฟนคุณกำลังเบื่อพอดีเพราะกินซ้ำบ่อยแล้ว หรือ ในช่วงที่ผ่านมาถ้าแฟนคุณพูดถึงร้านที่ไม่เคยไปกินมาก่อน ร้านนี้อาจเป็นคำตอบที่ถูกต้อง แต่การเดานี้ก็ต้องดูอารมณ์ของแฟนคุณประกอบด้วย เช่น กำลังอารมณ์ไม่ดีหงุดหงิดอยู่มั๊ย ,ตอนนี้อยู่ในช่วงลดน้ำหนักมั๊ย ,เมื่อคืนนอนพอมั๊ย เพราะอารมณ์ก็มีผลต่อการตัดสินใจ และต้องเข้าใจด้วยว่าบางทีของที่แฟนคุณชอบกิน ก็ไม่ได้แปลว่าแฟนคุณอยากจะกินในตอนนี้ เมื่อคุณประมวลผลจนได้คำตอบแล้ว ก็บอกตัวเลือกที่น่าจะเป็นสัก2-3ตัวเลือกให้แฟนคุณตัดสินใจ อาจจะทำให้พอหาข้อยุติได้
2.ถามข้อมูลเพิ่ม คุณอาจจะถามเพิ่มเพื่อให้ได้คำตอบที่มีโอกาสถูกมากขึ้น แต่ต้องเป็นคำถามปลายปิด เช่น ถามว่าจะกินอะไร อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่ง? เมื่อได้คำตอบจากแฟนคุณ คุณก็ไปทำการบ้านต่อ โดยเลือกร้านที่มีประเภทอาหารตรงตามที่แฟนคุณตอบมา ถึงตอนนี้ก็ตัดคำตอบที่ไม่ถูกใจแฟนคุณไปได้เยอะแล้ว
3.การสุ่ม คุณสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยในการเลือก ปัจจุบันมีคนที่ออกแบบเว็บไซต์สุ่มเลือกอาหารมาช่วยแก้ปัญหานี้อยู่หลายเว็บไซต์ เป็นการยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ วิธีนี้คุณก็ให้แฟนเข้าไปกดสุ่มเลือกอาหาร ถ้ายังไม่ถูกใจก็กดไปจนกว่าจะพอใจ หรือ บางคู่อาจจะใช้วิธีสุ่มแบบดั้งเดิมคือเขียนชื่ออาหารลงในกระดาษแล้วทำเป็นสลากให้แฟนคุณจับขึ้นมาก็ได้
จากที่เขียนมา คำว่า“อะไรก็ได้”นั้นไม่ง่ายเลยที่คนข้างๆจะเข้าใจคุณ ถ้าคุณเป็นคนนึงที่ชอบใช้คำตอบว่า“อะไรก็ได้”เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ เพราะคิดว่ามันง่าย ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ว่าถ้าเราเป็นคนฟังจะรู้สึกยังไง การเลิกตอบคำว่า“อะไรก็ได้”จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณกับแฟนมีความขัดแย้งลดลง เพราะไม่ต้องมาคอยเดาความต้องการของอีกฝ่าย