หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เมืองลับแลมีจริง! เล่าตำนานเมืองลี้ลับของชาวบังบด

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์

หลวงพ่อเกษม เขมโก
สำนักสุสานไตรลักษณ์ อ.เมือง จ.ลำปาง

“...ชาวเมืองลับแลหรือบางทีภาษาท้องถิ่น เขาก็เรียกว่า "ผีบังบด" พวกนี้ก็เป็นชาวทิพย์กลุ่มหนึ่งเหมือนกันและสามารถรับบุญที่พวกมนุษย์อุทิศให้ได้เป็นอย่างดี ถ้าคับคล้ายคับคราว่าจะมีพวกเขาอยู่ที่แห่งใดหรือรับทราบสัญญาณกันได้ในทางใดทางหนึ่งก็อุทิศบุญเพื่อพวกเขาด้วย

เรื่องราวของพวกเขาเท่าที่ฟังจากหลวงพ่อเกษมเล่าให้ฟัง ก็เป็นชาวทิพย์ประเภทหนึ่งที่มีลักษณะท่าทางการแต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนกันกับชาวโลกมนุษย์เราและอาศัยอยู่ในโลกด้วยกันกับพวกเรานี่แหละ เพียงแต่อยู่ในอีกมิติหนึ่ง การดำเนินชีวิตของพวกเขาก็คล้ายๆกับมนุษย์เรานี่แหละ มีทั้งการทำไร่ไถนาทำการเกษตร ทำงานหัตถกรรม ทำการเลี้ยงสัตว์ แต่ว่าอาการที่พวกเขาทำก็ทำไปอย่างนั้นแหละ ทำไปเพราะแรงแห่งกรรม ทำอยู่อย่างนั้นแต่ไม่ได้ผลผลิตอะไรจากการกระทำ เช่น เลี้ยงวัวก็เลี้ยงอยู่อย่างนั้นแหละ เลี้ยงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดกรรมหมดกรรมเมื่อไหร่ก็ได้เลิกเลี้ยงวัว และวัวนั้นก็เป็นคนที่ตายแล้วไปเกิดเป็นผีวัวให้ได้เลี้ยงเพราะแรงแห่งบาปกรรมเหมือนกัน

คือชีวิตความเป็นอยู่ในโลกของพวกเขามันไม่ได้ดีขึ้นหรือเลวลง คืออยู่กันอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ดีขึ้นไปกว่านั้นและไม่ได้เลวลงไปกว่านั้น แต่ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาก็ยังดีกว่าเปรตและอสุรกาย แต่ก็ไม่ดีเท่ากับพวกเทวดาที่สถิตตามต้นไม้

กรรมอันใดเหรอ?

ก็เป็นบาปกรรมแต่บาปไม่หนักมากพอที่จะทำให้เกิดในนรก - เปรต - อสุกาย และก็พอมีบุญอยู่บ้างจึงส่งผลให้ไปเกิดในที่ที่เรียกกันว่าเมืองลับแล ซึ่งมีเรื่องในพระไตรปิฎกอยู่เหมือนกัน คือ ชาวทิพย์เขามารักสาวชาวมนุษย์แล้วก็เลยเอาสาวชาวมนุษย์นั้นไปอยู่ในภูมิของพวกเขา สาวชาวมนุษย์นั้นไปอยู่ที่เมืองของเขาก็เข้าใจว่าผ่านไป 7 ปี แต่ถ้านับเวลาในเมืองมนุษย์ก็ผ่านไปถึง 700 ปี

ตำนานพื้นเมืองเมืองลับแล

นอกจากที่หลวงพ่อเกษม เขมโก ได้เมตตาเล่าให้ฟังแล้ว ยังมีชื่อเมือง “ลับแล” ซึ่งเป็นชื่ออำเภอในจังหวัดอุตรดิตถ์ มีตำนานพื้นเมืองเล่าว่า

ครั้งหนึ่งมีชายคนหนึ่งเข้าไปในป่า ได้เห็นหญิงสาวสวยหลายคนเดินออกมา ครั้นมาถึงชายป่า นางเหล่านั้นก็เอาใบไม้ที่ถือมาไปซ่อนไว้ในที่ต่าง ๆ แล้วก็เข้าไปในเมืองด้วยความ สงสัยชายหนุ่มจึงแอบหยิบใบไม้มาเก็บไว้ใบหนึ่ง ตกบ่ายหญิงสาวเหล่านั้นกลับมา ต่างก็หาใบไม้ที่ ตนซ่อนไว้ ครั้นได้แล้วก็ถือใบไม้นั้นเดินหายลับไป มีหญิงสาวคนหนึ่งหาใบไม้ไม่พบเพราะชายหนุ่ม แอบหยิบมา นางวิตกเดือดร้อนมาก ชายหนุ่มจึงปรากฏตัวให้เห็นและคืนใบไม้ให้ โดยมีข้อแลก เปลี่ยนคือขอติดตามนางไปด้วยเพราะปรารถนาจะได้เห็นเมืองลับแล หญิงสาวก็ยินยอม

นางจึงพา ชายหนุ่มเข้าไปยังเมืองซึ่งชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าทั้งเมืองมีแต่ผู้หญิง นางอธิบายว่า คนในหมู่บ้านนี้ ล้วนมีศีลธรรม ถือวาจาสัตย์ ใครประพฤติผิดก็ต้องออกจากหมู่บ้านไป ผู้ชาย ส่วนมากมักไม่รักษา วาจาสัตย์จึงต้องออกจากหมู่บ้านกันไปหมด แล้วนางก็พาชายหนุ่มไปพบมารดาของนาง

ชายหนุ่ม เกิดความรักใคร่ในตัวนางจึงขออาศัยอยู่ด้วย มารดาของหญิงสาวก็ยินยอมแต่ให้ชายหนุ่มสัญญา ว่าจะต้องอยู่ในศีลธรรม ไม่พูดเท็จ ชายหนุ่มได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวลับแลจนมีบุตรชายด้วยกัน 1 คน วันหนึ่งขณะที่ภรรยาไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มผู้พ่อเลี้ยงบุตรอยู่ บุตรน้อยเกิดร้องไห้หาแม่ไม่ยอมหยุด

ผู้เป็นพ่อจึงปลอบว่า “แม่มาแล้ว ๆ” มารดาของภรรยาได้ยินเข้าก็โกรธมากที่บุตรเขยพูดเท็จ เมื่อบุตรสาวกลับมาก็บอกให้รู้เรื่อง ฝ่ายภรรยาของชายหนุ่มเสียใจมากที่สามีไม่รักษาวาจาสัตย์ นางบอกให้เขาออกจากหมู่บ้านไปเสีย แล้วนางก็จัดหาย่ามใส่เสบียงอาหารและของใช้ที่จำเป็นให้ สามี พร้อมทั้งขุดหัวขมิ้นใส่ลงไปด้วยเป็นจำนวนมาก

จากนั้นก็พาสามีไปยังชายป่า ชี้ทางให้ แล้ว นางก็กลับไปเมืองลับแล ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไรก็จำต้องเดิน ทางกลับบ้านตามที่ภรรยาชี้ทางให้ ระหว่างทางที่เดินไปนั้น เขารู้สึกว่าถุงย่ามที่ถือมาหนักขึ้น เรื่อย ๆ และหนทางก็ไกลมาก จึงหยิบเอาขมิ้นที่ภรรยาใส่มาให้ทิ้งเสียจนเกือบหมด

ครั้นเดิน ทางกลับไปถึงหมู่บ้านเดิมบรรดาญาติมิตรต่างก็ ซักถามว่าหายไปอยู่ที่ไหนมาเป็นเวลานานชาย หนุ่มจึงเล่าให้ฟังโดยละเอียดรวมทั้งเรื่องขมิ้นที่ภรรยาใส่ย่ามมาให้แต่เขาทิ้งไปเกือบหมด เหลืออยู่เพียงแง่งเดียว พร้อมทั้งหยิบขมิ้นที่เหลืออยู่ออกมา ปรากฏว่าขมิ้นนั้นกลับกลายเป็นทองคำทั้ง แท่ง ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจและเสียดาย จึงพยายามย้อนไปเพื่อหาขมิ้นที่ทิ้งไว้ ปรากฏว่าขมิ้นเหล่านั้นได้งอกเป็นต้นไปหมดแล้ว และเมื่อขุดดูก็พบแต่แง่งขมิ้นธรรมดาที่มีสีเหลืองทองแต่ไม่ใช่ทองเหมือนแง่งที่เขาได้ไป เขาพยายามหาทางกลับไปเมืองลับแล แต่ก็หลงทางวกวนไปไม่ถูก จนในที่สุดก็ต้องละความพยายามกลับไปอยู่หมู่บ้านของตนตามเดิม..”

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
J&J อ่วมอีกรอบ " ยอมจ่าย 6500 ล้าน " ยุติคดีวันนี้หวยออก "มนต์สิทธิ์" เผยเลขเด็ดเน้นๆ..รีบไปซื้อก่อนเกลี้ยงแผงคอหวยคึกคัก! แห่ปิดทองยอดฉัตรหลังคาโบสถ์วัดดังเมืองคอน-ส่องเลขเด็ดทะเบียนรถบรรทุกไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!ชมพู่ อารยา เปิดใจถึงเส้นทางประกวดนางงาม และ มุมมองการประกวดนางงามบ้านร้างในญี่ปุ่น " พุ่งเกือบ 4 ล้านหลัง "เลขเด็ดคุณไก่ วุฒินันท์ สอนศรี งวด 2 พฤษภาคม 2567รู้มั๊ย? ทำไม"แม่น้ำสาละวิน"ถึงเย็นตลอดปีปริศนารังผึ้ง ทำไมมีสีแปลกๆ กว่าจะรู้ อ้อ...เพราะแบบนี้นี่เอง...
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ด่วน : เจรจาไม่เป็นผล เหตุปิดล้อม ปะทะ โจรใต้ ถูกวิสามัญศึกฮามาส-อิสราเอล จะคุยกันรู้เรื่องไหม!?ตำนานเวมานิกเปรต: ผีกึ่งเทวดาผู้ทุกข์ร้อน"ราเมนระดับไฮเอนด์" ทำชาวเน็ตข้องใจ แพงไปมั๊ย?
แผ่นหินปูถนนที่ทำเป็นป้ายบอกทาง ไปซ่องโสlภณีในเมืองปอมเปอี ?กองทัพปูแดงนับล้านบุกชายหาด ถนนแดงเกลื่อน ในออสเตรเลีย!หนุ่มขอเป็นฮีโร่! กว้านซื้อยาบ้าดูด เหตุราคาถูก กลัวรั่วไหลไปถึงเยาวชนสาวเครียด! แม่สามีดีต่อหน้า ลับหลังทำไม่ดี ควรวางตัวอย่างไร?
ตั้งกระทู้ใหม่