น้ำผึ้งแว่น
น้ำผึ้งแว่นเป็น ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากน้ำตาลโตนด ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณชาวอำเภอสทิงพระได้นำผลผลิตจากต้นตาลโตนด ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในเขตอำเภอสทิงพระ มาทำเป็นน้ำผึ้งแว่น
ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอาชีพหลักที่สำคัญของชาวบ้าน รองลงมาจากอาชีพทำนา สมัยก่อนชาวบ้านที่มีอาชีพทำน้ำตาลโตนด จะนำน้ำตาลมาเคี่ยวจนกลายเป็นน้ำผึ้งเหลวเก็บไว้
น้ำตาลโตนดที่ชาวบ้านปีนไปเก็บจากต้นตาลโตนด ชาวบ้านจะเลือกน้ำตาลจากต้นตาลโตนดต้นตัวเมีย จะทำให้ได้น้ำตาลที่สวย เป็นน้ำผึ้งเหลว
และแปรรูปเคี่ยวจนข้นกลายเป็นน้ำตาลแว่น โดยนำมาตักใส่แว่น ซึ่งทำมาจากส่วนของใบมาตัดและทำเป็นวง สำหรับตักน้ำตาลที่เคี่ยวจนได้ที่ใส่ลงไป
แต่บางส่วนก็นำมาเคี่ยวต่อให้ข้นเหนียวจนแห้งกลายเป็นผง เรียกว่า น้ำผึ้งขี้มา หรือน้ำผึ้งตังเม ใช้สำหรับเป็นขนมหวาน ไว้ถวายพระฉันท์กับน้ำร้อน และเป็นของกินเล่นของเด็ก ๆ
การทำน้ำตาลแว่น ได้ทำกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ได้ถ่ายทอดวิธีการทำให้แก่ลูก ๆ หลาน ๆ ทำติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และได้พัฒนามาเรื่อย ๆ
จนปัจจุบัน น้ำตาลแว่นได้รับการยอมรับให้เป็นสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับ 5 ดาว ( ปี 2546 ) ของอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา
เอกลักษณ์ จุดเด่นผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์น้ำตาลแว่น เป็นผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของอำเภอสทิงพระ ที่รู้จักใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น และนำภูมิปัญญามาทำเป็นผลิตภัณฑ์
สามารถนำวัตถุดิบน้ำตาลโตนด ซึ่งมีในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า สร้างราคาให้สูงขึ้นจากการจำหน่าย น้ำผึ้งเหลว บี๊ปละ 200 – 500 บาท ถ้าเป็นน้ำตาลแว่นมีราคาถึง 1,000 บาท และยังเป็นการสร้างงานให้แก่คนในชุมชน
โดยได้มีการนำใบตาลซึ่งเป็นวัสดุที่มีอยู่มาทำเป็น แว่น หรือสานเป็นชะลอม ทำให้เกิดเป็นรายได้แก่คนในชุมชน อีกหนึ่งทาง
น้ำตาลแว่น นำมาใช้ได้ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน อาหารคาว จุดเด่นของผลิตภัณฑ์น้ำตาลแว่น
1. เป็นน้ำตาลแว่นที่ปราศจากสิ่งเจือปน
2. ขนาดเล็ก สวยงาม คุณภาพ และปริมาณคงที่
3. รสชาติคงที่ และหอมน่ารับประทาน
4 สินค้าระดับ 5 ดาว ของปี 2546
5 สามารถเก็บรักษาได้นาน ประมาณ 1 เดือน
น้ำตัดแว่นนอกจากจะสามารถทำได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวานแล้ว สำหรับคนที่ชอบทานกาแฟดำ ลองใส่น้ำตาลแว่นแทนน้ำตาลทรายคุณจะได้ความหอมและรสชาติที่แตกต่างออกไป
LOMA 🐬🐬