การรับรสพื้นฐานที่ 6 ตามธรรมชาติของมนุษย์
รสพื้นฐานที่ 6 : รสแอมโมเนียมคลอไรด์
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตดอร์นไซฟ์ (USC Dornsife) ของสหรัฐฯ ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยลงในวารสาร Nature Chemical Biology ว่าพวกเขาได้ค้นพบว่าคนเราสามารถรับรู้รสชาติของแอมโมเนียมคลอไรด์ (ammonium chloride) ในฐานะรสพื้นฐานตามธรรมชาติได้
เดิมทีนั้น รสพื้นฐานตามธรรมชาติที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้นั้นมีอยู่ 5 รส ได้แก่ หวาน เค็ม เปรี้ยว ขม และอูมามิ อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการค้นพบว่าคนยังสามารถรับรู้รสชาติอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น รสโลหะ (metallic taste) และรสไขมัน (fatty taste)
การค้นพบล่าสุดนี้นับเป็นหลักฐานเชิงรูปธรรมชิ้นแรก ที่บ่งชี้ว่าคนเราสามารถรับรู้รสชาติของแอมโมเนียมคลอไรด์ ในฐานะรสพื้นฐานตามธรรมชาติได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติใหม่ ๆ ในอนาคต
การค้นพบ
ทีมนักวิจัยจาก USC Dornsife ได้ทำการทดลองโดยให้อาสาสมัครชิมสารแอมโมเนียมคลอไรด์ พบว่าอาสาสมัครส่วนใหญ่สามารถระบุได้ว่าสารดังกล่าวมีรสชาติที่แตกต่างจากรสพื้นฐานทั้ง 5 รส โดยพวกเขาอธิบายว่ารสชาติของแอมโมเนียมคลอไรด์นั้นมีลักษณะคล้ายกับรสขมผสมกับรสโลหะ
นักวิจัยได้ทำการทดลองเพิ่มเติมโดยศึกษาการทำงานของเซลล์รับรสในลิ้น พบว่าเซลล์รับรสบางชนิดสามารถตอบสนองต่อสารแอมโมเนียมคลอไรด์ได้ ซึ่งบ่งชี้ว่าคนเราอาจมีการรับรู้รสชาติของแอมโมเนียมคลอไรด์ที่แตกต่างจากรสพื้นฐานอื่นๆ
ความเป็นไปได้
การค้นพบนี้อาจนำไปสู่การพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติใหม่ ๆ ในอนาคต โดยนักวิจัยอาจใช้สารแอมโมเนียมคลอไรด์เพื่อสร้างรสชาติที่แปลกใหม่และน่าดึงดูดใจ
นอกจากนี้ การค้นพบนี้ยังอาจช่วยอธิบายว่าทำไมบางคนถึงชอบหรือเกลียดรสชาติของแอมโมเนียมคลอไรด์ โดยผู้ที่ชอบรสชาติของแอมโมเนียมคลอไรด์อาจมีเซลล์รับรสที่ตอบสนองต่อสารดังกล่าวได้มากกว่าผู้ที่เกลียด
สรุป
การค้นพบนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเข้าใจการรับรู้รสชาติของมนุษย์ ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติใหม่ ๆ และน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น
ผมคิดว่าการค้นพบนี้น่าสนใจมากครับ เพราะเป็นการค้นพบรสพื้นฐานตามธรรมชาติที่ 6 ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติใหม่ ๆ ในอนาคต
อย่างไรก็ดี ยังคงต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับรสของแอมโมเนียมคลอไรด์ รวมถึงกลไกในการรับรู้รสดังกล่าว เพื่อให้เข้าใจปรากฏการณ์นี้ได้อย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น
ที่มาของข้อมูลสำหรับกระทู้นี้มาจากผลการวิจัยของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตดอร์นไซฟ์ (USC Dornsife) ของสหรัฐฯ ซึ่งได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Chemical Biology เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2023