รอยสัมผัส
เรื่องสั้น “รอยสัมผัส”
เสียงแก้วตกกระทบพื้นทำให้เท้าของ“ชารี” หยุดชะงักทันที สองมือยืนออกไปข้างหน้าราวกับจะหาที่พึ่งพา สัญชาติญาณบางสิ่งทำให้ประสาทสัมผัสทั้งหมดที่มีถูกนำมาใช้เพื่อทดแทนสิ่งเดียวที่ทำให้โลกของเธอมืดบอดไปชั่งขณะหนึ่ง...ขณะนี้...
ความเจ็บแปลบทิ่มแทรกผ่านเท้าเปลือยของเธอ ทำให้ร่างบอบบางทรุดลงนั่งกับพื้นทันทีโดยอัตโนมัติ ปลายนิ้วมือสัมผัสส่วนที่เจ็บทำให้สัมผัสของเหลวเหนียวข้นเปื้อนเปรอะนิ้วเรียมงาม เธอคลึงนิ้วมือไปมารู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่เธอยังยกขึ้นมาแตะปลายลิ้นเบาๆ อย่างตื่นๆและขลาดกลัว
รสชาติมันเป็นอย่างนี้เองหรอกหรือ...
“ทำอะไร...ชารี”
เธอสะดุ้งแล้วหันไปทางต้นเสียงไม่ทันที่จะได้ตั้งสติ มือหยาบใหญ่ก็มากระชากผ้าที่ปิดตาของเธอออก แสงสว่างที่เข้ามากระทบโสตประสาทอย่างรวดเร็วทำให้ตาพร่าไปชั่วขณะ รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติและร่างบางถูกโอบกอดอย่างแนบแน่น
“ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกแล้ว”
“อะไรกัน...ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
ชารีส่งเสียงอู้อี้อยู่กับอกอุ่นกว้างโอบรัดเธอไว้ด้วยวงแขนที่แข็งแกร่ง ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ ‘เป็นกลาง’คลายวงแขนลงและจ้องมองที่ดวงตาคู่ดำขลับของอีกฝ่าย
กี่ปีที่คบหาเขาก็ไม่สามารถเข้าใจจิตใจของเธอได้เลย
“แล้วชารีทำอะไร...แล้วนี่อะไร” ชายหนุ่มต่อว่าอย่างอาทรมากกว่าหัวเสียแล้วมองดูที่เท้าของอีกฝ่าย แผลไม่ลึกมากแต่เศษแก้วยังปักคาที่แผลเลือดสีแดงเข้มไหลเปรอะพื้น เศษแก้วชิ้นใหญ่อีกสองสามชิ้นตกอยู่ข้างตัวเธอ นี่ถ้าขยับอีกนิด..คงได้อีกแผล เป็นกลางถอนหายใจหนักๆ คนตรงหน้าดูท่าทางเจ้าตัวจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย แล้วทำไมเขาต้องห่วงใยเธอมากมายขนาดนี้
“ก็แค่อยากรู้ว่าคนตาบอดเขาอยู่ยังไง” เธอเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบไม่มีรอยสำนึกผิดในน้ำเสียงสักนิด
ชายหนุ่มสัมผัสแผลที่เท้าเบาๆ สั่งให้เธออยู่นิ่งๆ ราวกับเด็กน้อยซุกซน เขาลุกขึ้นไปหยิบกล่องยา ใช้คีมเล็กๆ ดึงเศษแก้วออก ล้างแผลและใส่ยาให้อย่างเบามือที่สุด เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบดวงตาคู่ดำสีนิลจ้องมองอย่างไม่กะพริบตา ชายหนุ่มเกือบลืมหายใจไปชั่วขณะ สายตาแบบนี้ไม่ใช่หรือ? ที่ทำให้เขาไปจากเธอไม่พ้นเสียทีไม่ว่าเธอคนนี้จะดีจะร้ายจะอาระวาดหรือเคยทะเลาะกันแรงแค่ไหน เขาก็จากเธอไปได้ไม่นานเกินยี่สิบกว่าวันทุกที ผมยาวหยักศกเป็นลอนน้อยๆ ยาวถึงกลางหลังยิ่งเธอปล่อยมันเป็นธรรมชาติมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดูมีเสน่ห์อย่างประหลาด ผิวเนียนสีน้ำผึ้งอิ่มสวย ผิวนี้ กายนี้..มิใช่หรือ?ที่เขาหลงใหลอย่างที่ไม่เคยเป็นกับหญิงอื่นมาก่อน
สายตาของเขาเริ่มสำรวจเรื่อยมาถึงเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายเนื้อบาง เขาช้อนมือเข้าไปใต้เสื้อตัวโคร่งที่เธอชอบใส่เป็นประจำ ลูบไล้ผิวกายเธออย่างเบามือ แล้วโน้มตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดของเขาอย่างสุดปรารถนา
“คิดถึงนะ”
“แล้วทำไมต้องคิดถึงด้วยละ”
ประโยคของเธอทำให้เขาหยุดทุกการกระทำทั้งหมด ผละร่างเนียนนุ่มออกเพื่อสบตาเธออีกครั้งเหมือนกับไม่มั่นใจในสิ่งที่ได้ยินและรู้ว่าเธอพูดจริง
“ก็คิดบ้าง เวลาไม่มีคนมาล้างจานให้...ไม่มีคนมาชงกาแฟ วิ่งไปซื้อบะหมี่หรือเวลาไม่มีคนมาคอยชวนทะเลาะด้วย....”
นิ้วเรียวเลื่อนมาไล้ปลายคางที่ครึ้มไปด้วยเคราบางๆ สายตาเธอเหมือนสำรวจความเปลี่ยนแปลงในตัวเขา
“แค่นี้เหรอ?” เขาถอนหายใจ ก็ยังดี...เขายิ้มบางๆ ปลอบใจตัวเอง ดึงมือเล็กๆ มาแนบแก้มแล้วจูบเบาๆ
“ทำไมชอบทำตัวให้เป็นห่วงจัง”
“ก็แล้วจะมาห่วงเค้าทำไม”
ชายหนุ่มนิ่งอึ้ง นี่เขาผิดหรือ? ผิดที่ห่วงเธอหรือ? ถ้าไม่เพราะเธอเป็นคนที่มาสั่นความรู้สึกในหัวใจของเขาได้ มีหรือจะห่วงมากขนาดนี้
“ขออะไรได้ไหม?”
“อะไร”
“อยาก...กอด…..”
ยังไม่ทันขาดคำ มือเล็กๆ ก็เคลื่อนลงสอดที่เอวของชายหนุ่ม เขาโอบรับเธอไว้ในวงแขน ก่อนที่จะปล่อยให้ร่างบางทาบทับ เขาพรมจูบที่เปลือกตาเบาๆ แล้วเคลื่อนมาสูดดมกลิ่นอายของเธอที่ซอกคอและค่อยๆ เอนตัวเธอลงนอนแล้วทาบร่างแนบร่าง ร่างที่เคยเยียบเย็นกลับอุ่นร้อนขึ้นเรื่อยๆ ตามจังหวะกายเคลื่อนตัวของชายหนุ่ม เธอปล่อยให้เขาสำรวจร่างกายราวกับค้นหาความแตกต่างระหว่างหญิงกับชาย
“...ผู้ชายมีส่วนที่เกิน...ผู้หญิงมีส่วนที่ขาด...”
ชารีคล้ายได้ยินเสียงใครบางคนแว่วมาไกลๆ เหมือนตนได้ยินมาจากชั่วโมงเรียนการแสดง และนั่นทำให้เธอสนใจที่จะมุ่งมั่นเรียนการแสดงอย่างจริงจัง
ชารีขยับตัวตามจังหวะการเคลื่อนไหวของชายหนุ่ม เขานุ่มนวลอย่างนี้เสมอแม้กระทั้งการเจอกันครั้งแรก เธอเดินเลียบถนนเส้นเล็กๆ ที่มีน้ำขังเจิ่งนอง และรถเก๋งของเขาแล่นผ่าน เหมือนฉากในนิยายที่น้ำกระเซ็นใส่นางเอก แล้วพระเอกรีบลงจากรถมาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่เขาคงไม่รู้ว่านั้นเป็นฉากการจงใจของเธอเพื่อรอให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิต จะอย่างไรก็ช่าง เวลานี้..เขาอยู่กับเธอ เกือบ 6 เดือนที่คบหากันมาเขาก็ดีกับเธอจนใครต่อใครที่รู้จักเธอกล้านินทาลับหลังว่าเธอ “หลอกผู้ชายไว้ใช้”
“...ในตัวมนุษย์มีทั้งความเป็นชายและหญิงอยู่ในตัวเอง เป็นส่วนที่ประกอบให้ เป็นคนอย่างสมบูรณ์ เพียงแต่สรีระทางร่างกายเป็นผู้กำหนดเพศให้เรา แต่ทางจิตใจเราต้องกำหนดเอง...ไม่แปลกหรอก หากโลกนี้จะมีเกย์ ทอม ดี้ และสารพัดที่จะเรียก”
ชารีจำคำพูดประโยคนี้ได้ดีมาจากหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งเมือหลายปีก่อน แม้จะจำเนื้อหาเรื่องราวของหนังเรื่องนั้นไม่ได้มากนัก คลับคล้ายคลับคราว่าพระเอกได้ทดลองประดิษฐ์ยาชนิดหนึ่งที่ทำให้กลายเป็นผู้หญิงได้ และพยายามที่จะเข้าหานางเอกให้ได้เพื่อที่จะได้รับความรักจากนางเอก เธอไม่ได้ประทับใจอะไรในเนื้อหาของหนังเรื่องนั้นมากไปกว่าคำพูดประโยคนี้ประโยคเดียว
ผู้หญิงเข้าใจยากตรงไหน?
ชารีเริ่มค้านในใจ ใช่.. เธอไม่ค่อยพอใจที่ได้ยิน ชายหนุ่มของเธอเอ่ยลอยๆ เสมอๆ เมื่อเห็นเธอทำอะไรที่ต่างไปจากคนอื่น ทีเธอยังเข้าใจธรรมชาติของผู้ชาย สิ่งที่เขาต้องการจากตัวเธอ ก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้ กระทั้งการตอบสนองจากสัมผัสของเขา เธอก็รู้ว่าควรทำอย่างไรให้เขาพอใจ และแม้แต่เรื่องง่ายๆ กับการใช้ชีวิตร่วมกัน เพียงแต่มันขึ้นอยู่กับความพอใจของเธอด้วยว่าจะทำหรือไม่และทำไมต้องทำ เขามักน้อยใจเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ใส่ใจเขาเท่าที่ควร และไม่เคยเห็นเธอแสดงอาการคิดถึงอย่างโหยหาและบ้าคลั่งซ้ำยังไม่พูดจาหวานหู แล้วเธอจะทำไปเผื่ออะไร? เพราะสิ่งเหล่านั้นมันไม่ใช่ตัวเธอ เธอรู้ว่าเขาคิดอย่างไรแต่เขากลับไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา และเป็นเขาที่มักคิดเองเออเองไปหมดแทนเธอเพียงแค่เรื่องง่ายๆ เขากลับทำให้มันยุ่งยาก
เป็นกลางรู้ว่าความอดทนของเขาเริ่มถึงขีดจำกัด แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายกลับไม่ตอบสนอง แม้จะไม่ขัดขืนแต่เขาก็รู้สึก....รู้สึก เธออยู่ไหนนะชารี.. ไหนล่ะตัวตนของเธอ รอยยิ้มบางๆ ดวงตาเศร้าซ่อนเหงาร้ายนั่นที่เขาเคยสาบานว่าจะล้างมันออกให้หมด เธอปิดใจอะไรไม่ยอมรับเขาเลยหรือ
ชารีรู้สึกถึงความอุ่นร้อนที่ฉีดแรงเข้ามาในร่าง เขาสงบและลงนอนเคียงข้าง เธอพลิกกายนอนกอดร่างเขา ซุกหน้าลงแนบอก ฟังเสียงหัวใจที่เริ่มเต้นเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง เธออบอุ่นและสุขใจทุกครั้งที่ได้ “กอด”เขา แม้ว่าบ่อยครั้งที่ว่าโยจะหาคำตอบให้กับคำถามของตัวเองไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกถึงอีกคนที่เปลี่ยนไป ทุกครั้งที่เขาเสร็จ เธอจะกอดเขาไว้ คลอเคลียที่อกเหมือนโหยหา เหมือนคลั่งไคล้ และนิ้วมือที่ซุกซนพร่างพรมบนกาย จนเขาหลับไป
“ชารี.. ไม่ชอบ..ใช่ไหม?”
“อะไร”
“ที่ผมทำให้”
“เปล่า”
“ทำไม”
ชารีพริ้มตาหลับ ครั้งนี้เธอไม่อยากเล่นบทอะไร ไม่อยากแสดงอะไร นอกจากแสดงตัวตนและรู้สึกของเธอเอง ชายหนุ่มพลิกตัวขึ้นจากร่างเปลือย หญิงสาวพลิกตัวนอนตะแคงระบายลมหายใจบางเบาอย่างผ่อนคลายเมื่ออีกฝ่ายเลิกรุกร่านพื้นที่ส่วนตัวของเธอ
หญิงสาวขยับศีรษะขึ้นนอนหนุ่มแขนของชายหนุ่ม เธอรู้ว่าเขาไม่อยู่ในอาการที่จะสงบนิ่งลงได้ง่ายๆ เธอซุกจมูกลงที่ซอกคอ กอดเขาไว้หลวมๆ เหมือนปลอบโยน
คงถึงเวลาแล้วละมั้ง !!! ที่จะต้องสอนให้เขาเข้าใจสัมผัสที่เธอต้องการเสียที
…………………………
รูปประกอบถูกลิขสิทธิ์จากเวบ pixabay
ให้กำลังใจนักเขียนด้วยการกด ดาว และกด ติดตาม ด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
รูปประกอบถูกลิขสิทธิ์จากเวบ pixabay