5อันดับจังหวัดในไทยที่มีแรงงานไปทำงานที่อิสราเอลมากที่สุด
โดยในจำนวนนี้เป็นแรงงานจาก “จังหวัดอุดรธานี” มากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 รวม 4,042 คน (15.61%) อันดับที่ 2 เป็นแรงงานจาก “จังหวัดเชียงราย” 2,174 คน (8.4%) อันดับที่ 3 เป็นแรงงานจาก “จังหวัดนครราชสีมา” 2,163 คน (8.36%) อันดับที่ 4 มาจากจังหวัดนครพนม 2,136 คน (8.25%) และอันดับที่ 5 มาจาก “จังหวัดหนองบัวลำภู” 1,311 คน (5%)
รัฐบาลอิสราเอลมีการควบคุมและกำหนดโควต้าการนำเข้าแรงงานต่างชาติทุกปีโดยในปี พ.ศ.2549 ได้กำหนดโควตาอนุญาตให้จ้างแรงงานต่างชาติ ดังนี้
1 ภาคก่อสร้าง จำนวน 15,000 คน โดยได้เปลี่ยนแปลงระบบการจ้างงาน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2548 เป็นต้นมา โดยให้บริษัทจัดหางานอิสราเอลที่รัฐบาลคัดเลือกจำนวน 42 บริษัทเป็นนายจ้างแทนที่ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นนายจ้างเช่นเดิม บริษัทจัดหางานเหล่านี้จะได้โควตาวีซ่าจากรัฐบาลโดยตรง เป็นผู้รับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้าง ทำประกัน รวมทั้งจัดสวัสดิการต่าง ๆ ให้ลูกจ้างของตนด้วย ซึ่งโควต้าจำนวน 15,000 คน
2 งานอุตสาหกรรมบริการและร้านอาหาร ได้แยกโควต้าเป็นงานอุตสาหกรรมบริการ จำนวน 1,500 คน และงานในร้านอาหารที่ต้องการผู้ชำนาญงานและมีฝีมือ ซึ่งคนอิสราเอลทำไม่ได้ เช่นประกอบอาหารไทย ญี่ปุ่น จีน จำนวน 1,150 คน
3 งานเกษตร จำนวน 26,000 คน โควต้างานเกษตร 26,000 คน นี้ รวมถึงคนงานเกษตรที่กำลังทำงานในประเทศอิสราเอลด้วยซึ่งโดยปกติในเดือนมกราคมของทุกปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงมหาดไทยอิสราเอล กระทรวงเกษตร และกระทรวงอุตสาหกรรม การค้าและแรงงานของอิสราเอล
4 งานดูแลคนชราและผู้พิการ ในปี 2549 ทางการอิสราเอลไม่จำกัดจำนวนโควต้าเพราะมีคนชราและผู้พิการต้องการคนดูแลมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น ประกอบกับคนอิสราเอลไม่นิยมทำงานนี้ หรือถ้าจ้างคนอิสราเอลต้องจ้างในอัตราค่าจ้างสูงมาก